คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 32

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 262 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2400/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ปืนมีทะเบียนไม่ใช่ทรัพย์สินที่ต้องริบ แม้ใช้ในการกระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน และประมวลกฎหมายอาญา
อาวุธปืนของกลางเป็นปืนมีทะเบียนซึ่งจำเลยได้รับอนุญาตให้มีตามกฎหมายจึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่ทำหรือมีไว้เป็นความผิดอันจะต้องริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 การที่จำเลยซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวได้พาอาวุธปืนของกลางติดตัวไปในทางสาธารณะและหมู่บ้านและยิงปืนในหมู่บ้านนั้น ไม่ทำให้อาวุธปืนของกลางที่มีใบอนุญาตแล้วกลายเป็นอาวุธปืนที่ผิดกฎหมายไปด้วย แต่เป็นวัตถุแห่งการกระทำผิด ซึ่งอยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะสั่งริบหรือไม่แล้วแต่ข้อเท็จจริงเป็นเรื่อง ๆ ไป แม้กรณีเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1) กฎหมายก็บัญญัติให้ศาลมีอำนาจหรือให้อยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะสั่งริบหรือไม่ริบก็ได้ไม่ใช่บทบังคับที่ศาลจะต้องสั่งริบเสมอไปเช่นกรณีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2400/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบอาวุธปืนที่มีทะเบียน: วัตถุแห่งการกระทำผิด มิใช่ทรัพย์สินที่ต้องริบตามกฎหมาย
อาวุธปืนของกลางเป็นปืนมีทะเบียนซึ่งจำเลยได้รับอนุญาตให้มีตามกฎหมายจึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่ทำหรือมีไว้เป็นความผิดอันจะต้องริบตามประมวบกฎหมายอาญา มาตรา 32 การที่จำเลยซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวได้พาอาวุธปืนของกลางติดตัวไปในทางสาธารณะและหมู่บ้านและยืนปืนในหมู่บ้านนั้น ไม่ทำให้อาวุธปืนของกลางที่มีใบอนุญาตแล้วกลายเป็นอาวุธปืนที่ผิดกฎหมายไปด้วย แต่เป็นวัตถุแห่งการกระทำผิด ซึ่งอยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะสั่งริบหรือไม่แล้วแต่ข้อเท็จจริงเป็นเรื่องๆไป แม้กรณีเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1) กฎหมายก็บัญญัติให้ศาลมีอำนาจหรือให้อยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะสั่งริบหรือไม่ริบก็ได้ ไม่ใช่บทบังคับที่ศาลจะต้องสั่งริบเสมอไป เช่น กรณีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 677/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำเงินตราเข้าประเทศเกิน 500 บาทโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ใช่ความผิดฐานมีทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำผิด จึงไม่ริบได้
การที่จำเลยนำเงินตราซึ่งเป็นธนบัตรไทยจำนวนหกพันบาทเข้ามาในประเทศเป็นความผิดเพราะมีจำนวนเกินกว่าห้าร้อยบาทนั้น ความผิดอยู่ที่การไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานหาใช่เงินตราดังกล่าวเป็นของผิดกฎหมายที่ผู้ใดทำหรือมีไว้เป็นความผิดไม่จึงริบเงินตราไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 677/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำเงินตราเข้าประเทศเกิน 500 บาทโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ใช่ความผิดฐานมีทรัพย์สินผิดกฎหมาย จึงไม่ริบได้
การที่จำเลยนำเงินตราซึ่งเป็นธนบัตรไทยจำนวนหกพันบาทเข้ามาในประเทศเป็นความผิด เพราะมีจำนวนเกินกว่าห้าร้อยบาทนั้น ความผิดอยู่ที่การไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน หาใช่เงินตราดังกล่าวเป็นของผิดกฎหมายที่ผู้ใดทำหรือมีไว้เป็นความผิดไม่ จึงริบเงินตราไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 414/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำธนบัตรไทยเกินห้าร้อยบาทเข้าประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่เข้าข่ายทรัพย์สินที่ทำผิด จึงไม่ริบได้
จำเลยนำธนบัตรไทยเข้ามาในประเทศมีมูลค่าเกินกว่ากำหนดโดยไม่ได้รับอนุญาต ความผิดของจำเลยอยู่ที่การนำธนบัตรไทยซึ่งมีมูลค่าเกินกว่าห้าร้อยบาทเข้ามาในประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต ธนบัตรไทยดังกล่าวมิใช่ทรัพย์สินที่ผู้ใดมีไว้เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 32 และพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินก็มิได้บัญญัติเรื่องการริบของกลางไว้ จึงริบไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 414/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำธนบัตรไทยเกินห้าร้อยบาทเข้าประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต และการริบของกลางตามกฎหมาย
จำเลยนำธนบัตรไทยเข้ามาในประเทศมีมูลค่าเกินกว่ากำหนดโดยไม่ได้รับอนุญาต ความผิดของจำเลยอยู่ที่การนำธนบัตรไทยซึ่งมีมูลค่าเกินกว่าห้าร้อยบาทเข้ามาในประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต ธนบัตรไทยดังกล่าวมิใช่ทรัพย์สินที่ผู้ใดมีไว้เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 และพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินก็มิได้บัญญัติเรื่องการริบของกลางไว้ จึงริบไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2221/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แม้พิพากษายกฟ้อง แต่ของกลางผิดกฎหมาย ศาลยังสามารถริบได้
เฮโรอีนเป็นของที่มีไว้เป็นความผิด แม้ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะจำเลยมิใช่ผู้มีเฮโรอีนนั้น ศาลก็ริบเฮโรอีนของกลาง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1979/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจยื่นคำร้องขอคืนของกลาง: ศาลต้องพิจารณาเนื้อหาคำร้องก่อน หากยังไม่เชื่อมั่นในตัวผู้ร้อง สิทธิยื่นคำร้องไม่ระงับ
ผู้ร้องเคยยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งคืนรถยนต์ของกลาง(ซึ่งศาลสั่งริบไว้) แก่ผู้ร้องครั้งหนึ่งแล้ว แต่ศาลสั่งยกคำร้องเสีย เพราะเห็นว่าข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดโตโยต้านครราชสีมาซึ่งเป็นผู้ร้องมีจริงหรือไม่ และเป็นเจ้าของรถยนต์ของกลางจริงหรือไม่ คำสั่งดังกล่าวเป็นการยกคำร้องโดยไม่เชื่อว่าผู้ร้องเป็นผู้มีอำนาจยื่นคำร้อง ยังไม่ได้วินิจฉัยเนื้อหาแห่งคำร้องที่ว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของรถยนต์ของกลางมิได้รู้เห็นเป็นใจที่จำเลยนำไปใช้กระทำผิด สิทธิยื่นคำร้องของผู้ร้องจึงยังไม่ระงับไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 570/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองอาวุธปืนและวัตถุมีคมเพื่อกระทำผิด ศาลมีอำนาจริบได้
ปืนของกลางไม่มีทะเบียน 3 กระบอก กระสุนปืน 5 นัด ผู้ใดมีไว้เป็นความผิด กับเหล็กแหลมตัดเป็นรูปเรือใบ 23 อัน เห็นได้ว่าเพื่อกระทำผิด ศาลริบได้โดยไม่มีฝ่ายใดฎีกา เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2026/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขออนุญาตอาวุธปืนและการรับสารภาพในชั้นศาลมีผลต่อการตัดสินคดีอาญา
จำเลยได้นำอาวุธปืนของกลางไปขอจดทะเบียนไว้แล้วภายในกำหนดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 การที่นายทะเบียนมอบคืนอาวุธปืนให้จำเลยเก็บรักษาไว้ก่อนจนกว่าจะออกใบอนุญาตให้นั้น จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ ก็ต้องถือว่าจำเลยเก็บรักษาอาวุธปืนนั้นไว้แทนนายทะเบียน จำเลยไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนกระบอกนั้นไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับใบอนุญาต จากนายทะเบียนท้องที่อีก
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนพกขนาด .22 และกระสุน .22 จำนวน 7 นัดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ แม้จำเลยจะยื่นคำให้การับสารภาพเฉพาะอาวุธปืนเท่านั้นก็ตาม แต่ก็ปรากฎตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลในวันเดียวกันนั้นว่า "จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง โจทก์จำเลยแถลงไม่สืบพยานคดีเสร็จการพิจารณา" แสดงว่าศาลจดรายงานกระบวนพิจารณานี้หลังจากที่จำเลยยื่นคำให้การดังกล่าวแล้ว ถือได้ว่าจำเลยให้การใหม่รับสารภาพตามฟ้องของโจทก์ จำเลยต้องมีความผิดฐานมีกระสุนปืน 7 นัดนี้ไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ดังที่โจทก์ฟ้อง
of 27