พบผลลัพธ์ทั้งหมด 262 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2026/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขออนุญาตอาวุธปืนภายหลังกฎหมายฉบับแก้ไข และการรับสารภาพในชั้นศาล
จำเลยได้นำอาวุธปืนของกลางไปขอจดทะเบียนไว้แล้วภายในกำหนดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษการที่นายทะเบียนมอบคืนอาวุธปืนให้จำเลยเก็บรักษาไว้ก่อนจนกว่าจะออกใบอนุญาตให้นั้น ก็ ต้องถือว่าจำเลยเก็บรักษาอาวุธปืนนั้นไว้แทนนายทะเบียนจำเลยไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนกระบอกนั้นไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่อีก
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนพกขนาด .22 และกระสุน.22 จำนวน 7 นัดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ แม้จำเลยจะยื่นคำให้การรับสารภาพเฉพาะอาวุธปืนเท่านั้นก็ตาม แต่ก็ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลในวันเดียวกันนั้นว่า 'จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโจทก์จำเลยแถลงไม่สืบพยานคดีเสร็จการพิจารณา' แสดงว่าศาลจดรายงานกระบวนพิจารณานี้หลังจากที่จำเลยยื่นคำให้การดังกล่าวแล้ว ถือได้ว่าจำเลยให้การใหม่รับสารภาพตามฟ้องของโจทก์ จำเลยต้องมีความผิดฐานมีกระสุนปืน 7 นัดนี้ไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ดังที่โจทก์ฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนพกขนาด .22 และกระสุน.22 จำนวน 7 นัดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ แม้จำเลยจะยื่นคำให้การรับสารภาพเฉพาะอาวุธปืนเท่านั้นก็ตาม แต่ก็ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลในวันเดียวกันนั้นว่า 'จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโจทก์จำเลยแถลงไม่สืบพยานคดีเสร็จการพิจารณา' แสดงว่าศาลจดรายงานกระบวนพิจารณานี้หลังจากที่จำเลยยื่นคำให้การดังกล่าวแล้ว ถือได้ว่าจำเลยให้การใหม่รับสารภาพตามฟ้องของโจทก์ จำเลยต้องมีความผิดฐานมีกระสุนปืน 7 นัดนี้ไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ดังที่โจทก์ฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1883/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยึดเฮโรอีนที่เหลือจากการใช้ไม่หมด ถือเป็นของกลางที่ต้องริบ
มีและฉีดเฮโรอีนเข้าในร่างกายยังไม่หมด จำนวนที่เหลือถูกยึดเป็นของกลาง ต้องริบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1493/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองสายชนวนปะทุตามกฎหมาย: เหตุยกฟ้องและการริบของกลาง
สายชนวนปะทุซึ่งจำเลยมีไว้ แต่มีกฎหมายให้นำไปมอบแก่เจ้าพนักงานได้ใน 90 วัน ไม่ต้องรับโทษ ศาลยกฟ้อง จึงริบสายชนวนนี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 781/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อาวุธปืนไม่มีทะเบียนพ้นกำหนดจดทะเบียน จำเลยยกเว้นโทษ แต่ริบของกลาง
อาวุธปืนของกลางเป็นปืนไม่มีทะเบียนและล่วงเลยระยะเวลาที่จะนำไปขอจดทะเบียนตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6)พ.ศ.2518 แล้ว จำเลยได้รับยกเว้นโทษ แต่ต้องริบปืน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1401/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดหลายบท ความผิดฐานปลอมแปลงเงินตราและไพ่ การฟ้องซ้ำ อำนาจสอบสวน และการริบของกลาง
ตำรวจจับจำเลยที่ 4 กับค้นพบแท่นพิมพ์ ภาพพิมพ์ธนบัตรรัฐบาลพม่าและไพ่ป๊อกปลอมในขณะเดียวกัน สถานที่เดียวกันซึ่งจำเลยฟ้องข้อหาปลอมไพ่คดีถึงที่สุดแล้ว แต่การกระทำความผิดทำปลอมเงินตรา มีเครื่องมือปลอมเงินตราและมีธนบัตรปลอมคดีนี้ กับการกระทำความผิดฐานปลอมไพ่ เป็นการกระทำความผิดหลายกรมต่างกัน เมื่อความผิดของจำเลยที่ 4 คดีนี้ยังไม่มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดที่ได้ฟ้อง สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์จึงไม่ระงับ
จำเลยที่ 4 มีที่อยู่และถูกจับในเขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ และความผิดฐานทำบัตรรัฐบาลพม่าปลอมก็เกิดในเขตดังกล่าว แต่จำเลยที่ 4 ต้องหาว่าร่วมกันจำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานทำปลอมเงินตรา มีเครื่องมือปลอมเงินตรา และมีธนบัตรปลอมไว้เพื่อนำออกใช้ กระทำลงในท้องที่ต่าง ๆ กัน และกระทำต่อเนื่องกัน พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ท้องที่ที่จับจำเลยที่ 1 ฐานมีธนบัตรปลอม มีอำนาจสอบสวนคดีนี้ได้
แท่นพิมพ์ของกลางมิใช่เป็นของที่ทำหรือมีไว้เป็นความผิด ทั้งโจทก์มิได้ขอให้ริบ กลับขอให้คืนเจ้าของ ศาลจึงพิพากษาให้ริบไม่ได้
จำเลยที่ 4 มีที่อยู่และถูกจับในเขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ และความผิดฐานทำบัตรรัฐบาลพม่าปลอมก็เกิดในเขตดังกล่าว แต่จำเลยที่ 4 ต้องหาว่าร่วมกันจำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานทำปลอมเงินตรา มีเครื่องมือปลอมเงินตรา และมีธนบัตรปลอมไว้เพื่อนำออกใช้ กระทำลงในท้องที่ต่าง ๆ กัน และกระทำต่อเนื่องกัน พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ท้องที่ที่จับจำเลยที่ 1 ฐานมีธนบัตรปลอม มีอำนาจสอบสวนคดีนี้ได้
แท่นพิมพ์ของกลางมิใช่เป็นของที่ทำหรือมีไว้เป็นความผิด ทั้งโจทก์มิได้ขอให้ริบ กลับขอให้คืนเจ้าของ ศาลจึงพิพากษาให้ริบไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1401/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดหลายกรรมต่างกัน การฟ้องซ้ำ และอำนาจสอบสวนคดีปลอมเงินตรา
ตำรวจจับจำเลยที่ 4 กับค้นพบแท่นพิมพ์ แบบพิมพ์ ภาพพิมพ์ธนบัตรรัฐบาลพม่าและไพ่ป๊อกปลอมในขณะเดียวกัน สถานที่เดียวกันซึ่งจำเลยถูกฟ้องข้อหาปลอมไพ่คดีถึงที่สุดแล้ว แต่การกระทำความผิดฐานนทำปลอมเงินตรามีเครื่องมือปลอมเงินตราและมีธนบัตรปลอมคดีนี้ กับการกระทำความผิดฐานปลอมไพ่ เป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน เมื่อความผิดของจำเลยที่ 4คดีนี้ยังไม่มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดที่ได้ฟ้อง สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์จึงไม่ระงับ
จำเลยที่ 4 มีที่อยู่และถูกจับในเขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ และความผิดฐานทำธนบัตรรัฐบาลพม่าปลอมก็เกิดในเขตดังกล่าว แต่จำเลยที่ 4 ต้องหาว่าร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานทำปลอมเงินตรา มีเครื่องมือปลอมเงินตราและมีธนบัตรปลอมไว้เพื่อนำออกใช้ กระทำลงในท้องที่ต่าง ๆ กัน และกระทำต่อเนื่องกัน พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐมท้องที่ที่จับจำเลยที่ 1 ฐานมีธนบัตรปลอม มีอำนาจสอบสวนคดีนี้ได้
แท่นพิมพ์ของกลางมิใช่เป็นของที่ทำหรือมีไว้เป็นความผิด ทั้งโจทก์มิได้ขอให้ริบ กลับขอให้คืนเจ้าของ ศาลจึงพิพากษาให้ริบไม่ได้
จำเลยที่ 4 มีที่อยู่และถูกจับในเขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ และความผิดฐานทำธนบัตรรัฐบาลพม่าปลอมก็เกิดในเขตดังกล่าว แต่จำเลยที่ 4 ต้องหาว่าร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานทำปลอมเงินตรา มีเครื่องมือปลอมเงินตราและมีธนบัตรปลอมไว้เพื่อนำออกใช้ กระทำลงในท้องที่ต่าง ๆ กัน และกระทำต่อเนื่องกัน พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐมท้องที่ที่จับจำเลยที่ 1 ฐานมีธนบัตรปลอม มีอำนาจสอบสวนคดีนี้ได้
แท่นพิมพ์ของกลางมิใช่เป็นของที่ทำหรือมีไว้เป็นความผิด ทั้งโจทก์มิได้ขอให้ริบ กลับขอให้คืนเจ้าของ ศาลจึงพิพากษาให้ริบไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1825/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเว้นโทษทางอาญาจาก พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 กรณีมอบอาวุธปืนให้ นายทะเบียน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะในการสงครามไว้ในครอบครอง ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกามีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 มาตรา 5 บัญญัติให้ผู้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด ที่ใช้เฉพาะในการสงคราม นำไปมอบให้นายทะเบียนท้องที่ภายใน 90 วันนับแต่วันพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ ดังนั้น แม้จะฟังข้อเท็จจริงได้ตามฟ้อง จำเลยก็ได้รับยกเว้นโทษ จะริบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลางอันเป็นทรัพย์สินที่จะพึงริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 ไม่ได้ เพราะกฎหมายผ่อนผันให้ผู้มีไว้ในครอบครองนำไปมอบให้นายทะเบียนท้องที่ภายใน 90 วัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1786-1787/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่าต้องลงมือจนสำเร็จ และกฎหมายยกเว้นโทษอาวุธปืนเมื่อปฏิบัติตามเงื่อนไข
จำเลยเพียงแต่ชักปืนจากเอว ยังไม่ทันได้ยกจ้องยิงไปทางผู้เสียหาย ก็ถูกผู้เสียหายใช้สันมีดตีศีรษะจนปืนหลุดจากมือ การลงมือจึงยังไม่เริ่มต้นขึ้น จำเลยไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่า
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ(ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 บัญญัติให้ผู้มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด นำไปขอรับอนุญาตหรือนำไปมอบให้นายทะเบียนท้องที่ได้แล้วแต่กรณีภายใน 90 วัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ โดยผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ เมื่อคดียังอยู่ในระหว่างเวลา 90 วัน ก็ต้องถือว่าในระหว่างระยะเวลานี้ กฎหมายได้ยกเว้นโทษให้แก่จำเลยแล้ว ศาลจึงต้องพิพากษายกฟ้องโจทก์ และไม่ริบของกลาง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ(ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 บัญญัติให้ผู้มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด นำไปขอรับอนุญาตหรือนำไปมอบให้นายทะเบียนท้องที่ได้แล้วแต่กรณีภายใน 90 วัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ โดยผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ เมื่อคดียังอยู่ในระหว่างเวลา 90 วัน ก็ต้องถือว่าในระหว่างระยะเวลานี้ กฎหมายได้ยกเว้นโทษให้แก่จำเลยแล้ว ศาลจึงต้องพิพากษายกฟ้องโจทก์ และไม่ริบของกลาง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 412/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีน้ำมันก๊าดไว้โดยไม่แจ้ง ไม่ถือเป็นหลักฐานการมีไว้เพื่อขาย จึงไม่ริบ
จำเลยมีน้ำมันก๊าดของกลาง แม้จะมีจำนวนมากและไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บก็ไม่เป็นเหตุที่จะรับฟังว่าจำเลยมีไว้เพื่อขายหรือจำหน่าย ดังนั้น น้ำมันก๊าดของกลางจึงไม่ใช่ของควรริบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 229/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปล้นทรัพย์และฆ่าเพื่อหวังทรัพย์ ศาลฎีกาวินิจฉัยความผิดฐานเดียวและแก้ไขคำพิพากษาเรื่องการริบของกลาง
จำเลยกับพวกร่วมกันมีปืนพกเป็นอาวุธเข้าปล้นทรัพย์ของผู้เสียหายและเพื่อความสะดวกในการปล้นได้ใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงผู้เสียหายกับพวกถึงแก่ความตายโดยเจตนาฆ่าดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289, 340 วรรคท้าย ต้องลงโทษตามมาตรา 289 อันเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดและเมื่อเป็นความผิดตามมาตรา 289 แล้ว ก็ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 288 อีกบทหนึ่ง
อาวุธปืนของผู้ตายที่ถูกจำเลยกับพวกปล้นเอาไปและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาเป็นของกลางนั้น เมื่อข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ความชัดว่าเป็นอาวุธปืนที่ไม่มีหมายเลขทะเบียนของเจ้าพนักงานเนื่องจากเลขทะเบียน ลบเลือนเช่นนี้ไม่ชอบที่ศาลจะสั่งริบ
อาวุธปืนของผู้ตายที่ถูกจำเลยกับพวกปล้นเอาไปและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาเป็นของกลางนั้น เมื่อข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ความชัดว่าเป็นอาวุธปืนที่ไม่มีหมายเลขทะเบียนของเจ้าพนักงานเนื่องจากเลขทะเบียน ลบเลือนเช่นนี้ไม่ชอบที่ศาลจะสั่งริบ