คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 271

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,756 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 537/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีนอกเหนือจากคำพิพากษาเดิม ศาลไม่อาจบังคับได้ แม้คู่กรณีคืนทรัพย์สินบางส่วน
ภรรยาโจทก์และจำเลยแลกเปลี่ยนที่ดินโดยทำนิติกรรมยกให้ซึ่งกันและกัน โดยโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอมด้วย ซึ่งในที่สุดศาลพิพากษาว่าเป็นโมฆะและให้จำเลยคืนที่ดินนั้นให้โจทก์ตามที่โจทก์ฟ้อง ศาลพิพากษาเฉพาะเพียงเท่านี้จำเลยจะมาร้องในคดีเดิมขอให้ศาลบังคับโจทก์ให้คืนที่ดินที่แลกเปลี่ยนนั้นแก่จำเลยเพื่อให้คืนสู่ฐานะเดิมหาได้ไม่เพราะเป็นอีกคดีหนึ่งซึ่งจำเลยมิได้ฟ้องร้องเป็นคดีขึ้นมา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 537/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีนอกเหนือจากคำพิพากษาเดิม ศาลไม่อาจบังคับได้ จำเลยต้องฟ้องเป็นคดีใหม่
ภรรยาโจทก์และจำเลยแลกเปลี่ยนที่ดินโดยทำนิติกรรมยกให้ซึ่งกันและกัน โดยโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอมด้วย ซึ่งในที่สุดศาลพิพากษาว่าเป็นโมฆะและให้จำเลยคืนที่ดินนั้นให้โจทก์ตามที่โจทก์ฟ้อง ศาลพิพากษาฉะเพาะเพียงเท่านี้ จำเลยจะมาร้องในคดีเดิมขอให้ศาลบังคับโจทก์ให้คืนที่ดินที่แลกเปลี่ยนนั้นแก่จำเลยเพื่อให้คืนสู่ฐานะเดิมหาได้ไม่ เพราะเป็นอีกคดีหนึ่งซึ่งจำเลยมิได้ฟ้องร้องเป็นคดีขึ้นมา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 505/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความบังคับตามสัญญายอมความหลังมรณะ คดีนี้มิใช่การฟ้องมรดกจึงไม่อยู่ในบังคับอายุความ 1 ปี
คดีเดิมพนักงานอัยการเป็นโจทก์แทนผู้ร้องฟ้องจำเลยผู้เป็นบิดาของผู้ร้อง ที่สุดจำเลยกับผู้ร้องทำสัญญายอมความกัน ใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า ถ้าหากจำเลยตาย จะจัดการแบ่งที่ดินพร้อมด้วยเรือนให้
ต่อมาจำเลยตาย ผู้ร้องจึงร้องขอให้แบ่งแยกที่ดินและเรือนตามสัญญายอมซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาตามยอมแล้ว
คำร้องในชั้นนี้ไม่ใช่เรื่องฟ้องคดีมรดก จึงไม่อยู่ในบังคับแห่งอายุความ 1 ปี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 505/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความบังคับตามสัญญายอมความหลังมรณะ ไม่ใช่คดีมรดก
คดีเดิมพนักงานอัยการเป็นโจทก์แทนผู้ร้องฟ้องจำเลยผู้เป็นบิดาของผู้ร้อง ที่สุดจำเลยกับผู้ร้องทำสัญญายอมความกันใจความสำคัญตอนหนึ่งว่าถ้าหากจำเลยตายจะจัดการแบ่งที่ดินพร้อมด้วยเรือนให้
ต่อมาจำเลยตาย ผู้ร้องจึงร้องขอให้แบ่งแยกที่ดินและเรือนตามสัญญายอมซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาตามยอมแล้วคำร้องในชั้นนี้ไม่ใช่เรื่องฟ้องคดีมรดก จึงไม่อยู่ในบังคับแห่งอายุความ 1 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1217/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลบังคับตามข้อตกลงประมูลทำนาระหว่างพิจารณาคดี มิใช่การบังคับคดีตามคำพิพากษา
การประมูลทำนาพิพาทระหว่างคู่ความในคดีนั้นเป็นเรื่องที่คู่ความตกลงกันในศาลเกี่ยวกับคดีที่ดำเนินการพิจารณาอยู่ เมื่อศาลสั่งให้เป็นไปตามข้อตกลงนั้นแล้วและคู่ความฝ่ายที่ประมูลได้ ๆ ทำสัญญาไว้ต่อศาลว่าจะนำเงินมาวางศาลเช่นนี้ศาลก็ย่อมมีอำนาจออกคำบังคับให้โจทก์นำเงินมาวางศาลได้โดยไม่ต้องฟ้องเป็นคดีให้มีคำพิพากษาขึ้นมาเสียก่อน กรณีเช่นนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องการบังคับคดีตามคำพิพากษา
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 9/2499)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1217/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลบังคับตามข้อตกลงประมูลทำนาพิพาท แม้ไม่มีคำพิพากษา
การประมูลทำนาพิพาทระหว่างคู่ความในคดีนั้นเป็นเรื่องที่คู่ความตกลงกันในศาลเกี่ยวกับคดีที่ดำเนินการพิจารณาอยู่ เมื่อศาลสั่งให้เป็นไปตามข้อตกลงนั้นแล้วและคู่ความฝ่ายที่ประมูลได้ได้ทำสัญญาไว้ต่อศาลว่าจะนำเงินมาวางศาลเช่นนี้ ศาลก็ย่อมมีอำนาจออกคำบังคับให้โจทก์นำเงินมาวางศาลได้โดยไม่ต้องฟ้องเป็นคดีให้มีคำพิพากษาขึ้นมาเสียก่อน กรณีเช่นนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องการบังคับคดีตามคำพิพากษา (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 9/2499)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1058/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาใหม่ย่อมสละสิทธิในสัญญาก่อน การทำสัญญาเช่าใหม่หลังประนีประนอมยอมความ ย่อมถือเป็นการสละสิทธิบังคับตามสัญญาเดิม
การที่โจทก์ทำสัญญาให้จำเลยเข้าที่พิพาทขึ้นใหม่หลังจากทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าโจทก์ยอมสละสิทธิที่จะบังคับจำเลยตามสัญญาประนีประนอมยอมความอยู่ในตัวแล้ว จึงต้องว่ากล่าวกันตามสัญญาที่ทำขึ้นใหม่นี้
เมื่อโจทก์หมดสิทธิที่จะบังคับจำเลยตามสัญญาประนีประนอมยอมความกันแล้วก็หาบังคับบริวารจำเลยได้ไม่ ตลอดจนถึงเงินที่โจทก์ได้รับไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นก็ต้องคืนจำเลยเช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1058/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาใหม่ย่อมสละสิทธิในสัญญาเดิม: การทำสัญญาเช่าใหม่หลังประนีประนอมย่อมเป็นการสละสิทธิบังคับตามสัญญาเดิม
การที่โจทก์ทำสัญญาให้จำเลยเช่าที่พิพาทขึ้นใหม่หลังจากทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันเช่นนี้ ย่อมถือได้ว่าโจทก์ยอมสละสิทธิที่จะบังคับจำเลยตามสัญญาประนีประนอมยอมความอยู่ในตัวแล้ว จึงต้องว่ากล่าวกันตามสัญญาที่ทำขึ้นใหม่นี้
เมื่อโจทก์หมดสิทธิที่จะบังคับจำเลยตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้วก็หาบังคับบริวารจำเลยได้ไม่ ตลอดจนถึงเงินที่โจทก์ได้รับไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นก็ต้องคืนจำเลยเช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความและขอบเขตการบังคับคดี: ศาลอนุญาตบังคับคดีหนี้จากทรัพย์สินอื่นได้หากสัญญาไม่จำกัดเฉพาะทรัพย์จำนอง
เดิมโจทก์ฟ้องบังคับจำนอง ที่สุดโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยจำเลยยอมชำระให้โจทก์ภายใน 6 เดือน ศาลจึงพิพากษาบังคับให้เป็นไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว จำเลยผิดสัญญาตามยอม โจทก์นำยึดทรัพย์จำเลยได้ไม่พอชำระหนี้ ดังนี้เมื่อในสัญญาประนีประนอมยอมความมิได้กล่าวว่าจะบังคับเอาชำระหนี้ได้แต่เฉพาะทรัพย์สินที่จำนองกันไว้แล้วโจทก์ก็ชอบที่จะบังคับเอาชำระหนี้ตามคำพิพากษาจากทรัพย์ใดๆ ของจำเลยได้
อนึ่งเมื่อจำเลยปล่อยให้มีการบังคับคดีไปตามคำพิพากษาส่วนหนึ่งแล้วจะยกเอาเหตุว่าจำเลยถูกหลอกลวงให้ทำสัญญาประนีประนอมขึ้นในชั้นฎีกาไม่ได้ เหตุดังกล่าวจำเลยชอบที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาตามยอมนั้นเสียในชั้นอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บังคับคดีตามคำพิพากษาตามยอม: สิทธิโจทก์บังคับคดีจากทรัพย์สินลูกหนี้ทั้งหมด แม้ไม่ได้ระบุเฉพาะทรัพย์จำนอง และจำเลยมิได้อุทธรณ์
เดิมโจทก์ฟ้องบังคับจำนองที่สุดโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยจำเลยยอมชำระให้โจทก์ภายใน 6 เดือน ศาลจึงพิพากษาบังคับให้เป็นไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้วจำเลยผิดสัญญาตามยอม โจทก์นำยึดทรัพย์จำเลยได้ไม่พอชำระหนี้ ดังนี้เมื่อในสัญญาประนีประนอมยอมความมิได้กล่าวว่าจะบังคับเอาชำระหนี้ได้แต่เฉพาะทรัพย์สินที่จำนองกันไว้แล้วโจทก์ก็ชอบที่จะบังคับเอาชำระหนี้ตามคำพิพากษาจากทรัพย์ใด ๆ ของจำเลยได้
อนึ่งเมื่อจำเลยปล่อยให้มีการบังคับคดีไปตามคำพิพากษาส่วนหนึ่งแล้วจะยกเอาเหตุว่าจำเลยถูกหลอกลวงให้ทำสัญญาประนีประนอมขึ้นในชั้นฎีกาไม่ได้ เหตุดังกล่าวจำเลยชอบที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาตามยอมนั้นเสียในชั้นอุทธรณ์ตาม วิ.แพ่ง ม.138
of 176