พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,756 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3794/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความบังคับคดีตามสัญญาประกัน: พนักงานอัยการต้องดำเนินการภายใน 10 ปีนับจากคำสั่งศาล
เมื่อศาลมีคำสั่งบังคับตามสัญญาประกันแล้ว ถ้าผู้ประกันไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลย่อมเป็นหน้าที่ของพนักงานอัยการที่จะต้องดำเนินการบังคับให้เป็นไปตามสัญญานั้น แต่เนื่องจากไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นพิเศษว่าจะบังคับอย่างไร จึงต้องนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 มาใช้บังคับ คือจะต้องร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลภายใน 10 ปีเมื่อพนักงานอัยการมาร้องขอให้ศาลบังคับคดีเกินกว่า 10 ปีนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง สิทธิในการบังคับคดีของพนักงานอัยการย่อมเป็นอันสิ้นไป ศาลยึดโฉนดที่ผู้ประกันนำมาให้ศาลยึดไว้ประกอบสัญญาประกันก็เพื่อประโยชน์ในการบังคับชำระหนี้ เมื่อการบังคับชำระหนี้ไม่อาจกระทำได้ ก็ไม่มีประโยชน์ที่ศาลจะยึดโฉนดของผู้ประกันไว้ต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3641/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหนี้มีสิทธิยึดทรัพย์สินได้ทั้งที่จำนองและไม่ได้จำนอง แม้มีการจำนองเป็นประกันหนี้
การจำนองไม่ห้ามเจ้าหนี้ผู้รับจำนองต้องผู้พันที่จะบังคับชำระหนี้เอาแต่เฉพาะทรัพย์สินที่จำนองแต่ทางเดียว การที่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมดำเนินการบังคับคดียึดที่ดินของผู้ร้องซึ่งจดทะเบียนจำนองเป็นประกันหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมไว้แก่โจทก์นั้นเป็นการใช้สิทธิของโจทก์ในฐานะเป็นเจ้าหนี้สามัญ โจทก์ย่อมมีสิทธิยึดทรัพย์สินอื่น ๆ ของจำเลยรวมทั้งทรัพย์ที่จำนองได้โดยไม่ต้องอยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยการบังคับจำนอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3241/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าหนี้บังคับคดี ยึดทรัพย์สินจำนองได้ แม้มีการจำนองเป็นประกันหนี้
ในชั้นบังคับคดี ผู้ร้องซึ่งเป็นจำเลยที่ 3 ได้นำที่ดินโฉนดเลขที่ 4401 จดทะเบียนจำนองเป็นประกันหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมการจำนองดังกล่าวไม่ห้ามเจ้าหนี้ผู้รับจำนองต้องผูกพันที่จะบังคับชำระหนี้เอาแต่เฉพาะทรัพย์สินที่จำนองแต่ทางเดียว การที่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมดำเนินการบังคับคดียึดที่ดินโฉนด เลขที่ 4401 ของผู้ร้อง เป็นการใช้สิทธิของโจทก์ในฐานะเจ้าหนี้สามัญ โจทก์ย่อมมีสิทธิยึดทรัพย์สินอื่น ๆ ของจำเลยรวมทั้งทรัพย์ที่จำนองได้ จึงหาต้องดำเนินการตามกฎหมายในเรื่องการบังคับจำนองไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2390/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิบัติตามคำพิพากษาและการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต: ข้ออ้างของจำเลยเป็นเรื่องบังคับคดี
จำเลยฎีกาอ้างว่า หลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา จำเลยได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาโดยได้ขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากตึกแถวพิพาทแล้วส่งคืนโจทก์แต่โจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตไม่ยอมรับคืน เพราะประสงค์จะได้ค่าเสียหายจากจำเลยอีกต่อไปนั้น เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายจนกว่าจะส่งมอบห้องพิพาทคืนโจทก์ ข้ออ้างของจำเลยจึงเป็นเรื่องที่จะต้องว่ากล่าวกันในชั้นบังคับคดี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2390/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งมอบทรัพย์สินหลังคำพิพากษา: ข้ออ้างการปฏิบัติตามคำพิพากษาและการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
จำเลยฎีกาอ้างว่า หลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา จำเลยได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาโดยได้ขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากตึกแถวพิพาทแล้วส่งคืนโจทก์แต่โจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตไม่ยอมรับคืน เพราะประสงค์จะได้ค่าเสียหายจากจำเลยอีกต่อไปนั้น เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายจนกว่าจะส่งมอบห้องพิพาทคืนโจทก์ ข้ออ้างของจำเลยจึงเป็นเรื่องที่จะต้องว่ากล่าวกันในชั้นบังคับคดี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2207/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ให้ทนายโจทก์โดยไม่ได้รับมอบอำนาจ ไม่ถือเป็นการชำระหนี้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ทนายโจทก์ซึ่งไม่ได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ให้รับเงินแทนไม่มีอำนาจรับเงินที่จำเลยชำระหนี้ตามคำพิพากษานอกศาลแทนโจทก์การที่จำเลยชำระหนี้ให้แก่ทนายโจทก์เท่ากับเป็นการชำระหนี้ให้แก่บุคคลผู้ไม่มีอำนาจรับชำระหนี้ได้ เมื่อโจทก์ไม่ได้ให้สัตยาบันในการกระทำดังกล่าว การชำระหนี้ของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 315 ย่อมไม่ผูกพันโจทก์โจทก์ชอบที่จะบังคับคดีต่อไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2207/2533 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้โดยทนายความนอกศาลไม่ผูกพันโจทก์หากไม่ได้รับมอบอำนาจ
ทนายโจทก์ไม่มีอำนาจรับเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษาจากจำเลยนอกศาลแทนโจทก์โดยไม่ได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ให้รับเงินนั้นแทนการที่จำเลยชำระหนี้ให้แก่ทนายโจทก์เท่ากับเป็นการชำระหนี้ให้แก่บุคคลผู้ไม่มีอำนาจรับชำระหนี้ได้ เมื่อโจทก์ไม่ได้ให้สัตยาบันในการกระทำดังกล่าว การชำระหนี้ของจำเลยย่อมไม่ผูกพันโจทก์ โจทก์ชอบที่จะบังคับคดีต่อไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2207/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทนายไม่มีอำนาจรับชำระหนี้แทนโจทก์หากไม่ได้รับมอบอำนาจ การชำระหนี้จึงไม่ผูกพันโจทก์
ทนายโจทก์ไม่มีอำนาจรับเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษาจากจำเลยนอกศาลแทนโจทก์โดยไม่ได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ให้รับเงินนั้นแทนการที่จำเลยชำระหนี้ให้แก่ทนายโจทก์เท่ากับเป็นการชำระหนี้ให้แก่บุคคลผู้ไม่มีอำนาจรับชำระหนี้ได้ เมื่อโจทก์ไม่ได้ให้สัตยาบันในการกระทำดังกล่าว การชำระหนี้ของจำเลยย่อมไม่ผูกพันโจทก์ โจทก์ชอบที่จะบังคับคดีต่อไปได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2074/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีหลังทำสัญญาประนีประนอมยอมความ: เหตุงดบังคับคดีต้องมีเหตุสมควร
การที่จำเลยทั้งสองได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์และจำเลยทั้งสองมิได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นซึ่งถึงที่สุดแล้วนั้น โจทก์ย่อมขอให้ศาลบังคับคดีแก่จำเลยทั้งสองได้ทันที เมื่อข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์เพราะกลฉ้อฉลเจตนาลวง หรือจงใจนิ่งเสียไม่ไขข้อความจริงของจำเลยที่ 2 และโจทก์อันจะเป็นผลให้สัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างจำเลยที่ 1 กับโจทก์ตกเป็นโมฆะแล้วคดีจึงไม่มีเหตุสมควรที่ศาลจะให้งดการบังคับคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2074/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีหลังทำสัญญาประนีประนอมยอมความ หากไม่มีกลฉ้อฉลหรือเจตนาลวง การงดบังคับคดีไม่สมควร
การที่จำเลยทั้งสองได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ และจำเลยทั้งสองมิได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นซึ่งถึงที่สุดแล้วนั้น โจทก์ย่อมขอให้ศาลบังคับคดีแก่จำเลยทั้งสองได้ทันที
เมื่อข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์เพราะกลฉ้อฉลเจตนาลวง หรือจงใจนิ่งเสียไม่ไขข้อความจริงของจำเลยที่ 2 และโจทก์อันจะเป็นผลให้สัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างจำเลยที่ 1 กับโจทก์ตกเป็นโมฆะแล้วคดีจึงไม่มีเหตุสมควรที่ศาลจะให้งดการบังคับคดี
เมื่อข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์เพราะกลฉ้อฉลเจตนาลวง หรือจงใจนิ่งเสียไม่ไขข้อความจริงของจำเลยที่ 2 และโจทก์อันจะเป็นผลให้สัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างจำเลยที่ 1 กับโจทก์ตกเป็นโมฆะแล้วคดีจึงไม่มีเหตุสมควรที่ศาลจะให้งดการบังคับคดี