พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,756 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3841/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบังคับคดีของเจ้าหนี้ต่อทรัพย์ห้างหุ้นส่วนของผู้ค้ำประกันจำกัดเฉพาะผลกำไรค้างชำระ
สิทธิในการบังคับคดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ผู้ร้องจะมิได้ยกปัญหาข้อกฎหมายที่ว่า ผู้ร้องเป็นห้างหุ้นส่วนซึ่งจดทะเบียนยังไม่ได้เลิกโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ของจำเลยผู้เป็นหุ้นส่วนเฉพาะตัว มีสิทธิบังคับคดีได้เฉพาะผลกำไรหรือเงินซึ่งห้างหุ้นส่วนค้างชำระแก่จำเลยเท่านั้นขึ้นกล่าวอ้างในศาลชั้นต้นก็ตาม ก็ย่อมยกขึ้นอ้างในศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาได้
เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าห้างหุ้นส่วนผู้ร้อง เป็นหุ้นส่วนจดทะเบียนยังมิได้เลิกกัน โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ของจำเลยผู้เป็นหุ้นส่วนเฉพาะตัวจึงใช้สิทธิได้เพียงกำไรหรือเงินซึ่งห้างหุ้นส่วนผู้ร้องค้างชำระแก่จำเลยเท่านั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1072
เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าห้างหุ้นส่วนผู้ร้อง เป็นหุ้นส่วนจดทะเบียนยังมิได้เลิกกัน โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ของจำเลยผู้เป็นหุ้นส่วนเฉพาะตัวจึงใช้สิทธิได้เพียงกำไรหรือเงินซึ่งห้างหุ้นส่วนผู้ร้องค้างชำระแก่จำเลยเท่านั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1072
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3156/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ร่วมระหว่างสามีภริยาที่ไม่จดทะเบียนสมรส: ผู้ร้องไม่ต้องรับผิดชอบหนี้ที่จำเลยก่อขึ้น
หนี้ที่สามีหรือภริยาก่อขึ้นในระหว่างสมรสที่กฎหมายให้ถือว่าเป็นหนี้ร่วมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1482(ก่อนตรวจชำระใหม่) นั้น หมายความว่าต้องเป็นสามีภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย หนี้เงินกู้ที่จำเลยก่อขึ้นระหว่างที่จำเลยกับผู้ร้องอยู่กินเป็นสามีภริยากันโดยมิได้จดทะเบียนสมรส ซึ่งผู้ร้องมิได้ร่วมในการกู้ด้วย จึงมิใช่หนี้ร่วมอันผู้ร้องจะต้องร่วมรับผิด ผู้ร้องชอบที่จะขอกันส่วนของตนครึ่งหนึ่งจากการขายทอดตลาดที่ดินที่ผู้ร้องกับจำเลยเป็นเจ้าของรวมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2401/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
งดไต่สวนคำร้องขอให้งด/รอการบังคับคดี: เมื่อมีการจ่ายเงินและมีประกันเพียงพอ
การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้งดการไต่สวนคำร้องของผู้ร้อง ก็เพื่อจะวินิจฉัยว่าข้ออ้างที่ผู้ร้องประสงค์จะขอให้งดหรือรอการจ่ายเงินให้โจทก์มีเหตุผลหรือไม่เพียงใด แต่เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ศาลได้จ่ายเงินที่โจทก์ขอให้แก่พนักงานบังคับคดีอายัดมาให้แก่โจทก์ไปแล้ว ซึ่งเป็นการจ่ายเงินเนื่องจากการบังคับคดีของโจทก์ นอกจากนี้ศาลยังได้กำหนดเงื่อนไขให้โจทก์นำธนาคารกรุงเทพ จำกัด มาทำสัญญาค้ำประกันเงินจำนวนดังกล่าวต่อศาลอีกด้วย ดังนี้ถ้าผู้ร้องชนะคดีในที่สุด ผู้ร้องก็มีสิทธิขอให้ธนาคารดังกล่าวจ่ายเงินตามที่ทำสัญญาค้ำประกันไว้ให้ผู้ร้องได้ทันที ไม่เสียหายแต่ประการใด จึงไม่มีประโยชน์ที่จะทำการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องต่อไป ศาลย่อมสั่งงดการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2401/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดไต่สวนคำร้องขอให้งด/รอการบังคับคดี เมื่อมีการจ่ายเงินตามคำบังคับและมีหลักประกันเพียงพอ
การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้งดการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องก็เพื่อจะวินิจฉัยว่าข้ออ้างที่ผู้ร้องประสงค์จะขอให้งดหรือรอการจ่ายเงินให้โจทก์มีเหตุผลหรือไม่เพียงใด แต่เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ศาลได้จ่ายเงินที่โจทก์ขอให้แก่พนักงานบังคับคดีอายัดมาให้แก่โจทก์ไปแล้ว ซึ่งเป็นการจ่ายเงินเนื่องจากการบังคับคดีของโจทก์ นอกจากนี้ศาลยังได้กำหนดเงื่อนไขให้โจทก์นำธนาคารกรุงเทพ จำกัด มาทำสัญญาค้ำประกันเงินจำนวนดังกล่าวต่อศาลอีกด้วย ดังนี้ถ้าผู้ร้องชนะคดีในที่สุด ผู้ร้องก็มีสิทธิขอให้ธนาคารดังกล่าวจ่ายเงินตามที่ทำสัญญาค้ำประกันไว้ให้ผู้ร้องได้ทันที ไม่เสียหายแต่ประการใด จึงไม่มีประโยชน์ที่จะทำการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องต่อไป ศาลย่อมสั่งงดการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2041/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งทรัพย์มรดกโดยเจ้าของรวม การยึดทรัพย์เพื่อขายทอดตลาดไม่ใช่การบังคับคดี
โจทก์ฟ้องจำเลยขอแบ่งทรัพย์มรดก ระหว่างพิจารณาโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยจำเลยยอมแบ่งทรัพย์มรดกให้โจทก์ ต่อมาการแบ่งทรัพย์บางรายการไม่อาจตกลงกันได้ โจทก์จึงขอให้ศาลมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์นั้นออกขายทอดตลาดเพื่อเอาเงินแบ่งกันตามส่วน การยึดทรัพย์ในกรณีนี้มิใช่เป็นการร้องขอให้บังคับคดีตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งหากแต่เป็นการร้องขอให้ศาลกำหนดวิธีการแบ่งทรัพย์สินกันระหว่างโจทก์จำเลยผู้เป็นเจ้าของรวมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1364 วรรคสองฉะนั้นผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2041/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งทรัพย์มรดกโดยเจ้าของร่วม: การยึดทรัพย์เพื่อขายทอดตลาดไม่ใช่การบังคับคดี
โจทก์ฟ้องจำเลยขอแบ่งทรัพย์มรดก ระหว่างพิจารณาโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยจำเลยยอมแบ่งทรัพย์มรดกให้โจทก์ ต่อมาการแบ่งทรัพย์บางรายการไม่อาจตกลงกันได้ โจทก์จึงขอให้ศาลมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์นั้นออกขายทอดตลาดเพื่อเอาเงินแบ่งกันตามส่วน การยึดทรัพย์ในกรณีนี้มิใช่เป็นการร้องขอให้บังคับคดีตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง หากแต่เป็นการร้องขอให้ศาลกำหนดวิธีการแบ่งทรัพย์สินกันระหว่างโจทก์จำเลยผู้เป็นเจ้าของรวมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1364 วรรคสองฉะนั้นผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2020/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: กำหนดระยะเวลาชำระค่าที่ดินเป็นสาระสำคัญ หากผิดนัดสิทธิบังคับคดีระงับ
สัญญาประนีประนอมยอมความกำหนดว่า โจทก์ยอมชำระเงินจำนวนหนึ่งให้แก่จำเลยภายในกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันทำสัญญา และจำเลยจะไปจดทะเบียนโอนที่ดินให้แก่โจทก์ภายในกำหนดเจ็ดวันนับแต่วันได้รับชำระเงินนั้น เป็นการกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนเพื่อให้โจทก์ชำระค่าที่ดิน อันเป็นสารสำคัญของสัญญาซึ่งคู่สัญญาต่างก็มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกำหนดระยะเวลาตามข้อสัญญาดังกล่าว เป็นคนละเรื่องกับสิทธิที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาซึ่งมีกำหนดสิบปีนับแต่วันมีคำพิพากษา เมื่อโจทก์มิได้ชำระราคาที่ดินให้แก่จำเลยภายในกำหนดระยะเวลาตามข้อสัญญา โจทก์ย่อมตกเป็นผู้ผิดนัดและไม่มีสิทธิที่จะขอให้บังคับคดีแก่จำเลยให้โอนขายที่ดินแก่ตนได้ โจทก์จะอ้างว่ามีสิทธิบังคับคดีได้ภายในกำหนดสิบปีนับแต่วันทำสัญญาประนีประนอมยอมความหรือมีคำพิพากษาในกรณีเช่นนี้ย่อมเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2020/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: กำหนดระยะเวลาชำระค่าที่ดินเป็นสาระสำคัญ หากผิดนัด สิทธิบังคับคดีเป็นอันตกไป
สัญญาประนีประนอมยอมความกำหนดว่า โจทก์ยอมชำระเงินจำนวนหนึ่งให้แก่จำเลยภายในกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันทำสัญญาและจำเลยจะไปจดทะเบียนโอนที่ดินให้แก่โจทก์ภายในกำหนดเจ็ดวันนับแต่วันได้รับชำระเงินนั้นเป็นการกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนเพื่อให้โจทก์ชำระค่าที่ดิน อันเป็นสารสำคัญของสัญญาซึ่งคู่สัญญาต่างก็มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกำหนดระยะเวลาตามข้อสัญญาดังกล่าวเป็นคนละเรื่องกับสิทธิที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาซึ่งมีกำหนดสิบปีนับแต่วันมีคำพิพากษา เมื่อโจทก์มิได้ชำระราคาที่ดินให้แก่จำเลยภายในกำหนดระยะเวลาตามข้อสัญญา โจทก์ย่อมตกเป็นผู้ผิดนัดและไม่มีสิทธิที่จะขอให้บังคับคดีแก่จำเลยให้โอนขายที่ดินแก่ตนได้ โจทก์จะอ้างว่ามีสิทธิบังคับคดีได้ภายในกำหนดสิบปีนับแต่วันทำสัญญาประนีประนอมยอมความหรือมีคำพิพากษาในกรณีเช่นนี้ย่อมเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 785/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดี: การชำระหนี้บางส่วนไม่ตัดสิทธิโจทก์ในการบังคับคดีส่วนที่เหลือ
เมื่อโจทก์ขอให้ออกคำบังคับให้จำเลยชำระหนี้ครบถ้วนตามคำพิพากษาแล้ว จำเลยได้ชำระเงินตามจำนวนที่เจ้าพนักงานของศาลคิดให้ตามที่จำเลยร้องขอ เมื่อจำนวนเงินที่ชำระนั้นยังไม่ครบถ้วนตามคำพิพากษาโจทก์ก็มีสิทธิที่จะดำเนินการบังคับคดีเพื่อเอาชำระหนี้ส่วนที่ยังขาดอยู่ได้เนื่องจากการบังคับคดียังไม่สิ้นสุด และไม่เป็นการบังคับคดีซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 406/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้แทนลูกหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความต้องเป็นไปตามกำหนดเวลาที่ตกลงกัน
ผู้ร้องซื้อที่ดินจากจำเลยซึ่งเอาไปจำนองโจทก์แต่ยังชำระราคาไม่ครบถ้วน เป็นผู้มีส่วนได้เสียในอันที่จะชำระหนี้แทนจำเลยได้ แต่หนี้ที่จำเลยจะชำระแก่โจทก์เป็นหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ซึ่งจำเลยจะต้องชำระแก่โจทก์ภายใน 15 วันผู้ร้องก็ต้องชำระหนี้ภายใน กำหนดดังกล่าว จะขอผัดเวลาชำระหนี้ไปโดยโจทก์จำเลยมิได้ยินยอมไม่ได้ เมื่อผู้ร้องมิได้ชำระหนี้ ภายในกำหนดนั้นโจทก์ย่อมมีสิทธิบังคับคดียึดทรัพย์มาขายทอดตลาดได้