คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 271

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,756 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3578/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์ในชั้นบังคับคดี: ทุนทรัพย์กำหนดสิทธิอุทธรณ์ตามกฎหมายที่ใช้บังคับขณะยื่นคำอุทธรณ์
การพิจารณาถึงสิทธิในการอุทธรณ์หรือฎีกาไม่ว่าจะเป็นการอุทธรณ์หรือฎีกาในชั้นไหน ต้องถือตามทุนทรัพย์ในคดีเดิม และต้องพิจารณาตามกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะมีการยื่นอุทธรณ์หรือฎีกา เมื่อทุนทรัพย์ตามคดีเดิมไม่เกินสองหมื่นบาท ในชั้นบังคับคดีจึงต้องห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3578/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์ในชั้นบังคับคดี: ทุนทรัพย์และข้อจำกัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
การพิจารณาถึงสิทธิในการอุทธรณ์หรือฎีกาไม่ว่าจะเป็นการอุทธรณ์หรือฎีกาในชั้นไหน ต้องถือตามทุนทรัพย์ในคดีเดิม และต้องพิจารณาตามกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะมีการยื่นอุทธรณ์หรือฎีกา เมื่อทุนทรัพย์ตามคดีเดิมไม่เกินสองหมื่นบาท ในชั้นบังคับคดีจึงต้องห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3563-3564/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับลูกจ้างกลับเข้าทำงานต้องอยู่ในตำแหน่งเดิมหรือเทียบเท่า หากต่ำกว่าถือไม่เป็นการปฏิบัติตามคำพิพากษา
การรับลูกจ้างกลับเข้าทำงานในตำแหน่งซึ่งต่ำกว่าเดิมจะถือว่าเป็นการรับกลับเข้าทำงานเสมือนหนึ่งว่าไม่เคยเลิกจ้างมิได้ เมื่อมีคำร้องของลูกจ้างว่านายจ้างมิได้ให้ลูกจ้างกลับเข้าทำงานในตำแหน่งเดิมศาลย่อมมีอำนาจจะวินิจฉัยว่าตำแหน่งซึ่งนายจ้างรับลูกจ้างกลับเข้าทำงานต่ำกว่าตำแหน่งเดิมหรือไม่เพราะเป็นคำสั่งในการบังคับคดีให้เป็นไปตามคำพิพากษาหาใช่เป็นการขยายความนอกเหนือไปจากคำพิพากษาไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3563-3564/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกลับเข้าทำงานต้องอยู่ในตำแหน่งเดิมหรือเทียบเท่า หากต่ำกว่าถือไม่เป็นการปฏิบัติตามคำพิพากษา
การรับลูกจ้างกลับเข้าทำงานในตำแหน่งซึ่งต่ำกว่าเดิมจะถือว่าเป็นการรับกลับเข้าทำงานเสมือนหนึ่งว่าไม่เคยเลิกจ้างมิได้ เมื่อมีคำร้องของลูกจ้างว่านายจ้างมิได้ให้ลูกจ้างกลับเข้าทำงานในตำแหน่งเดิมศาลย่อมมีอำนาจจะวินิจฉัยว่าตำแหน่งซึ่งนายจ้างรับลูกจ้างกลับเข้าทำงานต่ำกว่าตำแหน่งเดิมหรือไม่เพราะเป็นคำสั่งในการบังคับคดีให้เป็นไปตามคำพิพากษาหาใช่เป็นการขยายความนอกเหนือไปจากคำพิพากษาไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2953/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความซื้อขายที่ดินรวมสิ่งปลูกสร้าง แม้ไม่มีระบุชัดเจน ย่อมตกติดไปกับที่ดิน
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในที่ดินแก่โจทก์ตามสัญญาจะซื้อขายโจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาลว่าจำเลยยอมขายที่ดินพิพาทให้โจทก์แม้ในสัญญาประนีประนอมยอมความจะไม่ได้ระบุว่าขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างก็ตามก็ต้องหมายรวมถึงสิ่งปลูกสร้างด้วยเพราะสิ่งปลูกสร้างคือบ้านพิพาทเป็นส่วนควบของที่ดินย่อมตกติดไปกับที่ดินและโจทก์ฟ้องคดีนี้ก็เพื่อขอบังคับให้จำเลยโอนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างแก่โจทก์ตามสัญญาจะซื้อขายที่ทำกันไว้อันแสดงให้เห็นเจตนาของโจทก์ที่จะซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างด้วย
การที่โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ศาลอธิบายคำพิพากษาตามยอมว่าการขายที่ดินดังกล่าวรวมถึงสิ่งปลูกสร้างในที่ดินด้วยนั้นแปลได้ว่าเป็นเรื่องที่โจทก์ร้องขอให้บังคับคดีโดยแปลว่าสัญญาประนีประนอมยอมความในส่วนที่เกี่ยวกับที่ดินที่ตกลงซื้อขายได้มุ่งหมายถึงสิ่งปลูกสร้างในที่ดินนั้นด้วยแล้วบังคับคดีไปตามนั้นโจทก์มีสิทธิที่จะขอบังคับให้จำเลยโอนบ้านพิพาทแก่โจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2953/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างตามสัญญาประนีประนอม แม้ไม่ได้ระบุชัดก็รวมถึงส่วนควบของที่ดิน
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในที่ดินแก่โจทก์ตามสัญญาจะซื้อขาย โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาลว่า จำเลยยอมขายที่ดินพิพาทให้โจทก์ แม้ในสัญญาประนีประนอมยอมความจะไม่ได้ระบุว่า ขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างก็ตาม ก็ต้องหมายรวมถึงสิ่งปลูกสร้างด้วย เพราะสิ่งปลูกสร้างคือบ้านพิพาทเป็นส่วนควบของที่ดินย่อมตกติดไปกับที่ดิน และโจทก์ฟ้องคดีนี้ก็เพื่อขอบังคับให้จำเลยโอนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างแก่โจทก์ตามสัญญาจะซื้อขายที่ทำกันไว้ อันแสดงให้เห็นเจตนาของโจทก์ที่จะซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างด้วย
การที่โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ศาลอธิบายคำพิพากษาตามยอมว่า การขายที่ดินดังกล่าวรวมถึงสิ่งปลูกสร้างในที่ดินด้วยนั้น แปลได้ว่าเป็นเรื่องที่โจทก์ร้องขอให้บังคับคดี โดยแปลว่าสัญญาประนีประนอมยอมความสนส่วนที่เกี่ยวกับที่ดินที่ตกลงซื้อขายได้มุ่งหมายถึงสิ่งปลุกสร้างในที่ดินนั้นด้วยแล้วบังคับไปตามนั้น โจทก์มีสิทธิที่จะขอบังคับให้จำเลยโอนบ้านพิพาทแก่โจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2700/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ตามคำพิพากษาและการบังคับคดีตามระยะเวลาชำระ: สิทธิเจ้าหนี้ยังคงมีอยู่หากหนี้แต่ละส่วนยังไม่เกิน 10 ปี
หนี้ตามคำพิพากษาที่ศาลชั้นต้นมีคำบังคับให้จำเลยปฏิบัติและโจทก์ร้องขอให้บังคับคดีนั้น จำเลยทำยอมโดยผ่อนชำระตามจำนวนเงินที่ระบุและภายในระยะเวลาที่กำหนดเป็นคราวๆฉะนั้นหนี้จำนวนใดหากนับแต่วันที่อาจร้องขอให้บังคับคดีได้ไม่เกินสิบปี เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิร้องขอให้บังคับคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2700/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ตามคำพิพากษาโดยผ่อนชำระ: สิทธิบังคับคดีภายใน 10 ปีนับจากวันอาจบังคับคดีได้
หนี้ตามคำพิพากษาที่ศาลชั้นต้นมีคำบังคับให้จำเลยปฏิบัติและโจทก์ร้องขอให้บังคับคดีนั้น จำเลยทำยอมโดยผ่อนชำระตามจำนวนเงินที่ระบุและภายในระยะเวลาที่กำหนดเป็นคราวๆฉะนั้นหนี้จำนวนใดหากนับแต่วันที่อาจร้องขอให้บังคับคดีได้ไม่เกินสิบปี เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิร้องขอให้บังคับคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2423/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาคดีเช่า: แม้ที่ดินพิพาทจะเป็นสาธารณสมบัติ ก็ไม่อุทธรณ์บังคับตามคำพิพากษาเดิมได้
เมื่อศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดแล้วว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์จำเลยอยู่ในที่พิพาทโดยการเช่าจากโจทก์ จำเลยผิดสัญญาและโจทก์บอกเลิกสัญญาแล้วจำเลยจึงไม่มีสิทธิอยู่ในที่พิพาทอีกต่อไป คำพิพากษาดังกล่าวย่อมผูกพันจำเลย จำเลยจะอ้างว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน เพื่อมิให้จำเลยต้องถูกบังคับตามคำพิพากษาหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1701/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิยึดหน่วงสิ้นสุดเมื่อศาลมีคำสั่งถอนการยึดทรัพย์ และโจทก์ไม่โต้แย้งคำสั่งนั้นแล้ว
ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ค่าซ่อมรถ โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดรถยนต์คันที่จำเลยมาซ่อมกับโจทก์และยังมิได้รับคืนไป ผู้ร้องร้องขัดทรัพย์ ในคดีเรื่องร้องขัดทรัพย์ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า รถยนต์คันพิพาทเป็นของผู้ร้องซึ่งมิใช่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาของโจทก์ โจทก์จะยึดทรัพย์ของผู้ร้องมาขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้โจทก์เป็นการไม่ชอบจะนำเรื่องสิทธิยึดหน่วงมาใช้บังคับกรณีนี้ไม่ได้มีคำสั่งให้ถอนการยึดรถยนต์คันพิพาทนั้นโจทก์ไม่อุทธรณ์คัดค้าน คดีเป็นอันถึงที่สุดไปแล้วดังนี้ โจทก์จึงต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลอันถึงที่สุดแล้วนั้น โดยต้องคืนรถยนต์คันพิพาทให้ผู้ร้องผู้เป็นเจ้าของไม่มีสิทธิยึดหน่วงรถยนต์คันพิพาทไว้อีกต่อไป(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 10/2524)
of 176