คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 271

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,756 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 990/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาให้โอนทรัพย์สิน แม้เป็นคดีก่อนล้มละลาย
เดิมผู้ร้องได้ฟ้องจำเลยกับพวกขอให้โอนที่ดิน 1 แปลงให้ผู้ร้อง คดีถึงที่สุดโดยศาลพิพากษาให้จำเลยโอนที่ดินให้ผู้ร้อง และให้ผู้ร้องจ่ายเงินให้จำเลยจำนวนหนึ่ง ต่อมาจำเลยถูกโจทก์ฟ้องและศาลพิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลาย ผู้ร้องจึงร้องขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ปฏิบัติตามคำพิพากษาแทนผู้ล้มละลาย ดังนี้ ถ้าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะปฏิเสธ ต้องปฏิเสธภายใน 3 เดือนนับตั้งแต่ทราบตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 122 ถ้าปฏิเสธเกินกำหนดหรือไม่ปฏิเสธเลย ก็ต้องผูกพันตามภาระนั้น และโดยที่มาตรา 22(1) ให้อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวที่จะจัดการจำหน่ายทรัพย์สินของลูกหนี้ หรือกระทำการตามที่จำเป็นเพื่อให้กิจการที่ค้างอยู่เสร็จไป ดังนั้น ผู้ร้องจึงมีสิทธิขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ปฏิบัติตามคำบังคับในคดีที่ผู้ร้องชนะความนั้นได้
การขอรับชำระหนี้เป็นเรื่องขอรับเงิน และผู้ขอจะได้รับชำระหนี้เงินตามส่วนเฉลี่ยจำนวนหนี้ของเจ้าหนี้ ฉะนั้น จะนำมาใช้แก่กรณีในเรื่องโอนที่ดินตามคำพิพากษามิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 748/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลเกี่ยวกับการไถ่ถอนการขายฝาก และการเกิดหนี้ตามคำพิพากษา
คดีที่ศาลพิพากษาให้โจทก์มีสิทธิไถ่ถอนการขายฝากได้นั้น ศาลบังคับให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาภายใน 15 วัน ย่อมเป็นการบังคับทั้งโจทก์และจำเลย แต่เมื่อพ้นระยะเวลา 15 วันตามคำบังคับจะถือว่าเป็นอันหมดสิทธิไถ่ถอนยังไม่ได้ เพราะคำพิพากษามิได้กล่าวไว้เช่นนั้น เมื่อโจทก์ไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ จำเลยย่อมมีสิทธิที่จะขอให้ดำเนินการบังคับคดีให้โจทก์ปฏิบัติตามคำพิพากษาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 271
เมื่อศาลได้มีคำพิพากษาแล้วย่อมเกิดเป็นหนี้ตามคำพิพากษาขึ้น โจทก์จำเลยจะต้องปฏิบัติตามคำพิพากษานั้น โดยโจทก์จำเลยต่างก็กลายสภาพเป็นเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ตามคำพิพากษา อันจะบังคับกันได้ภายในกำหนด 10 ปี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 271 หาใช่เป็นการขยายระยะเวลาไถ่ถอนไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 748/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีตามคำพิพากษาไถ่ถอนการขายฝาก: อายุความและการปฏิบัติตามคำบังคับ
คดีที่ศาลพิพากษาให้โจทก์มีสิทธิไถ่ถอนการขายฝากได้นั้นศาลบังคับให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาภายใน 15 วัน ย่อมเป็นการบังคับทั้งโจทก์และจำเลย แต่เมื่อพ้นระยะเวลา 15 วันตามคำบังคับจะถือว่าเป็นอันหมดสิทธิไถ่ถอนยังไม่ได้เพราะคำพิพากษามิได้กล่าวไว้เช่นนั้นเมื่อโจทก์ไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ จำเลยย่อมมีสิทธิที่จะขอให้ดำเนินการบังคับคดีให้โจทก์ปฏิบัติตามคำพิพากษาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271
เมื่อศาลได้มีคำพิพากษาแล้วย่อมเกิดเป็นหนี้ตามคำพิพากษาขึ้นโจทก์จำเลยจะต้องปฏิบัติตามคำพิพากษานั้น โดยโจทก์จำเลยต่างก็กลายสภาพเป็นเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ตามคำพิพากษา อันจะบังคับกันได้ภายในกำหนด 10 ปีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 หาใช่เป็นการขยายระยะเวลาไถ่ถอนไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 528/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึด/อายัดทรัพย์ซ้ำ: ศาลมีอำนาจยึดทรัพย์แม้มีการอายัดไว้ก่อนหน้าได้ หากเป็นการใช้สิทธิโดยสุจริต
การที่เจ้าพนักงานที่ดินรับอายัดที่ดินไว้ ก็ไม่มีกฎหมายห้ามศาลมิให้ยึดหรืออายัดที่ดินนั้นซ้ำอีก
การที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาขอให้ศาลยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษานั้นเป็นการใช้สิทธิทางศาลโดยสุจริตตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้ จึงไม่เป็นการทำละเมิด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 528/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์สินซ้ำซ้อน: ศาลมีอำนาจยึดทรัพย์ที่ดินแม้มีการอายัดไว้แล้ว การใช้สิทธิทางศาลโดยสุจริตไม่เป็นละเมิด
การที่เจ้าพนักงานที่ดินรับอายัดที่ดินไว้ก็ไม่มีกฎหมายห้ามศาลมิให้ยึดหรืออายัดที่ดินนั้นซ้ำอีก
การที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาขอให้ศาลยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษานั้นเป็นการใช้สิทธิทางศาลโดยสุจริตตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้ จึงไม่เป็นการทำละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1461/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดทรัพย์ยึด: โจทก์ไม่ต้องรับผิดชอบความล่าช้า เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจใช้ดุลพินิจ
การขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดของลูกหนี้ตามคำพิพากษานั้นไม่ใช่หน้าที่ของโจทก์หรือผู้แทนโจทก์ เพราะเป็นเรื่องอยู่ในหน้าที่ของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะทำการขายตามประกาศ โดยใช้ดุลพินิจในการขายเพื่อให้ได้ราคาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉะนั้นการขายที่ล่าช้าไปกว่ากำหนดตามประกาศไปบ้าง ย่อมจะปรับให้เป็นความผิดแก่โจทก์ไม่ได้ และเมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานได้ทำการขายผิดระเบียบแล้ว จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ไม่มีสิทธิที่จะขอให้ศาลสั่งทำการขายใหม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1461/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดบังคับคดี: ความล่าช้าในการขายและการตรวจสอบราคา ไม่เป็นเหตุให้การขายเป็นโมฆะ
การขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดของลูกหนี้ตามคำพิพากษานั้น ไม่ใช่หน้าที่ของโจทก์หรือผู้แทนโจทก์เพราะเป็นเรื่องอยู่ในหน้าที่ของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะทำการขายตามประกาศ โดยใช้ดุลพินิจในการขายเพื่อให้ได้ราคาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉะนั้น การขายที่ล่าช้าไปกว่ากำหนดตามประกาศไปบ้าง ย่อมจะปรับให้เป็นความผิดแก่โจทก์ไม่ได้ และเมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานได้ทำการขายผิดระเบียบแล้ว จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ก็ไม่มีสิทธิที่จะขอให้ศาลสั่งทำการขายใหม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1407/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องส่วนแบ่งผลประโยชน์จากทรัพย์มรดกของโจทก์ร่วมหลังศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด
โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกทรัพย์มรดกผู้ตาย ระหว่างศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาศาลอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเป็นโจทก์ร่วมขณะคดีอยู่ในระหว่างอุทธรณ์ โจทก์จำเลยตกลงประมูลเก็บผลประโยชน์ทรัพย์มรดกพิพาท ผู้ใดประมูลได้ ให้วางเงินต่อศาลทุกเดือนจนกว่าคดีถึงที่สุด โจทก์ที่ 2 ประมูลได้ จึงวางเงินต่อศาลทุกเดือน เมื่อศาลฎีกาพิพากษาให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยให้แบ่งทรัพย์มรดกของผู้ตายแก่ทายาท โจทก์ร่วมมีสิทธิได้รับส่วนแบ่งตามคำพิพากษาด้วย โจทก์ร่วมย่อมมีสิทธิร้องขอบังคับคดี โดยให้โจทก์ที่ 2 นำเงินค่าผลประโยชน์ดังกล่าวมาวางศาลได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1407/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องเงินผลประโยชน์จากทรัพย์มรดกของโจทก์ร่วมหลังศาลมีคำพิพากษาบังคับคดี
โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกทรัพย์มรดกผู้ตาย ระหว่างศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณา ศาลอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเป็นโจทก์ร่วม ขณะคดีอยู่ในระหว่างอุทธรณ์ โจทก์จำเลยตกลงประมูลเก็บผลประโยชน์ทรัพย์มรดกพิพาท ผู้ใดประมูลได้ ให้วางเงินต่อศาลทุกเดือนจนกว่าคดีถึงที่สุด โจทก์ที่ 2 ประมูลได้ จึงวางเงินต่อศาลทุกเดือนเมื่อศาลฎีกาพิพากษาให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยให้แบ่งทรัพย์มรดกของผู้ตายแก่ทายาท โจทก์ร่วมมีสิทธิได้รบส่วนแบ่งตามคำพิพากษาด้วย โจทก์ร่วมย่อมมีสิทธิร้องขอบังคับคดี โดยให้โจทก์ที่ 2 นำเงินค่าผลประโยชน์ดังกล่าวมาวางศาลได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการแก้ไขคำบังคับคดีและการกำหนดวันมอบรถยนต์ตามคำพิพากษา
การที่ศาลได้ออกหมายบังคับคดี ตั้งหัวหน้ากองหมายเป็นเจ้าพนักงานบังคับคดี จัดการยึดอายัดทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา หรือทำการอื่นใดโดยอำนาจและหน้าที่ตามกฎหมาย เป็นเรื่องการดำเนินการบังคับคดีให้เป็นไปตามคำพิพากษา
คำบังคับหรือหมายบังคับที่ศาลออกไปแล้ว ถ้าศาลนั้นเองมาพิจารณาเห็นว่าไม่ถูกต้อง ศาลนั้นย่อมออกคำสั่งแก้ไขให้เปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องได้ เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามคำพิพากษา เป็นเรื่องที่ศาลสั่งแก้ไขคำบังคับ มิใช่เป็นเรื่องแก้ไขคำพิพากษา
of 176