คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 107

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 160 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1000/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะผู้เช่าห้องแถวบนที่ดินเช่าช่วง: บริวารจำเลยหรือไม่
โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินทำสัญญาให้เช่าที่ดินเพื่อให้เช่าช่วงปลูกห้องแถว ผู้เช่าที่ดินได้โดยการเช่าที่ดินกันต่อมาจนถึงจำเลย ภายหลังโจทก์จำเลยเป็นความกัน ศาลพิพากษาให้จำเลยส่งมอบที่ดินซึ่งจำเลยเช่าคืนให้โจทก์ ผู้เช่าห้องแถวย่อมไม่ใช่เป็นผู้เช่าช่วงที่ดิน ถือว่าเป็นบริวารของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1000/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะผู้เช่าช่วงห้องแถว vs. บริวารจำเลย: สิทธิในการครอบครองที่ดิน
โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินทำสัญญาให้เช่าที่ดินเพื่อให้เช่าช่วงปลูกห้องแถว ผู้เช่าที่ดินได้โอนการเช่าที่ดินกันต่อมาจนถึงจำเลย ภายหลังโจทก์จำเลยเป็นความกัน ศาลพิพากษาให้จำเลยส่งมอบที่ดินซึ่งจำเลยเช่าคืนให้โจทก์ผู้เช่าห้องแถวย่อมไม่ใช่เป็นผู้เช่าช่วงที่ดิน ถือว่าเป็นบริวารของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1124/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ตึกส่วนควบที่ดิน และการโอนโดยไม่ต้องจดทะเบียน
จำเลยได้เช่าที่ดินของผู้ร้องขัดทรัพย์ปลูกตึก ๆ ย่อมเป็นส่วนควบของที่ดินตาม ป.พ.พ. มาตรา 107 จำเลยมีสิทธิอยู่ในตึกนี้ได้ ก็อาศัยสัญญาเช่าที่ดิน และตึกนี้ย่อมตกเป็นของผู้ร้องไปในตัวตามระยะเวลาที่ตกลงกัน ฉะนั้น เมื่อจำเลยจะโอนตึกรายนี้ ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินเมื่อไร ไม่จำต้องไปทำการโอนจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
(อ้างฎีกา 561/2488)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1124/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ส่วนควบของที่ดินและผลของการเช่า: การโอนตึกที่ปลูกบนที่ดินเช่าไม่ต้องจดทะเบียน
จำเลยได้เช่าที่ดินของผู้ร้องขัดทรัพย์ปลูกตึกตึกย่อมเป็นส่วนควบของที่ดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 107 จำเลยมีสิทธิอยู่ในตึกนี้ได้ก็อาศัยสัญญาเช่าที่ดินและตึกนี้ย่อมตกเป็นของผู้ร้องไปในตัวตามระยะเวลาที่ตกลงกัน ฉะนั้น เมื่อจำเลยจะโอนตึกรายนี้ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินเมื่อไร ไม่จำต้องไปทำการโอนจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ (อ้างฎีกา 561/2488)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการครอบครองตึกหลังก่อสร้าง: สัญญาครอบคลุมจนกว่าจะหาผู้เช่าได้
บริษัทจำเลยเป็นผู้ก่อสร้างตึกรายพิพาทโดยทุนของบริษัท เมื่อก่อสร้างเสร็จแล้วตามสัญญา มีสิทธิที่จะกำหนดและเลือกตัวผู้เช่า เรียกเก็บเงินค่าช่วยก่อสร้าง แต่โจทก์ไม่ได้เสียเงินช่วยก่อสร้างให้จำเลย กลับไปเสียให้แก่ลูกจ้างคนเก่าของจำเลยที่ออกจากหน้าที่ไปแล้วซึ่งเป็นผู้ไม่มีสิทธิอะไรที่จะให้แก่โจทก์ จำเลยย่อมมีสิทธิที่จะขัดขวางมิให้โจทก์เข้าอยู่ในตึกพิพาทได้ ไม่เป็นละเมิด เพราะจำเลยมีสิทธิตามสัญญาก่อสร้างที่จะครอบครองห้องพิพาทจนกว่าจะส่งมอบแก่เจ้าของที่ดิน แม้จะถือว่าตึกซึ่งปลูกในที่ดินเป็นทรัพย์ส่วนควบของเจ้าของที่ดิน แต่จำเลยก็ยังมีสิทธิตามสัญญาที่จะครอบครองตึกที่สร้างจนกว่าจะเลือกหาผู้เช่าได้ เจ้าของที่ดินจะเอาตึกไปครอบครองเสียโดยลำพังหาได้ไม่ เมื่อเจ้าของที่ดินยังไม่มีสิทธิที่จะเอาตึกรายนี้ไปให้ผู้ใดเช่าโดยจำเลยไม่รู้เห็นยินยอม โจทก์ก็ไม่มีสิทธิที่จะเข้าครอบครองตึกรายนี้สิทธิแห่งการครอบครองตามกฎหมายยังตกอยู่แก่ฝ่ายจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการครอบครองตึกสร้างใหม่: สัญญาการก่อสร้างกับเจ้าของที่ดิน
บริษัทจำเลยเป็นผู้ก่อสร้างตึกรายพิพาทโดยทุนของบริษัทเมื่อก่อสร้างเสร็จแล้วตามสัญญา มีสิทธิที่จะกำหนดและเลือกตัวผู้เช่า เรียกเก็บเงินค่าช่วยก่อสร้างแต่โจทก์ไม่ได้เสียเงินช่วยก่อสร้างให้แก่จำเลย กลับไปเสียให้แก่ลูกจ้างคนเก่าของจำเลยที่ออกจากหน้าที่ไปแล้วซึ่งเป็นผู้ไม่มีสิทธิอะไรที่จะให้แก่โจทก์จำเลยย่อมมีสิทธิที่จะขัดขวางมิให้โจทก์เข้าอยู่ในตึกพิพาทได้ ไม่เป็นละเมิด เพราะจำเลยมีสิทธิตามสัญญาก่อสร้างที่จะครอบครองห้องพิพาทจนกว่าจะส่งมอบแก่เจ้าของที่ดินแม้จะถือว่าตึกซึ่งปลูกในที่ดินเป็นทรัพย์ส่วนควบของเจ้าของที่ดินแต่จำเลยก็ยังมีสิทธิตามสัญญาที่จะครอบครองตึกที่สร้างจนกว่าจะเลือกหาผู้เช่าได้เจ้าของที่ดินจะเอาตึกไปครอบครองเสียโดยลำพังหาได้ไม่ เมื่อเจ้าของที่ดินยังไม่มีสิทธิที่จะเอาตึกรายนี้ไปให้ผู้ใดเช่าโดยจำเลยไม่ได้รู้เห็นยินยอมโจทก์ก็ไม่มีสิทธิที่จะเข้าครอบครองตึกรายนี้สิทธิแห่งการครอบครองตามกฎหมายยังคงตกอยู่แก่ฝ่ายจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 372/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ส่วนควบของอาคาร: ฝากั้นห้องเป็นสาระสำคัญหรือไม่ พิจารณาจากสภาพทรัพย์และจารีตประเพณี
ฝากั้นห้องจะเป็นส่วนควบของอาคารที่จำเลยเช่าจากโจทก์มาทำโรงแรมหรือไม่ จะต้องพิจารณาถึงสภาพของทรัพย์อย่างหนึ่งหรือตามจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นอีกอย่างหนึ่งว่าฝาที่กั้นเป็นห้องนั้นเป็นสาระสำคัญในความเป็นอยู่ของอาคารที่จำเลยเช่าจากโจทก์หรือไม่ หากตามสภาพของฝาที่กั้นเป็นห้องเป็นทรัพย์ที่อาจแยกออกจากตัวอาคารได้โดยมิได้เป็นการทำลายอาคารหรือทำให้อาคารบุบสลายหรือเปลี่ยนแปลงรูปทรงแต่อย่างใด ฝากั้นเป็นห้องหาเป็นสาระสำคัญของอาคารไม่ และโจทก์มิได้นำสืบถึงจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นฝากั้นห้องนั้นก็ไม่ถือเป็นส่วนควบของอาคาร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 372/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฝากั้นห้องเช่าเป็นส่วนควบของอาคารหรือไม่ พิจารณาจากสภาพทรัพย์และจารีตประเพณี
ฝากั้นห้องจะเป็นส่วนควบของอาคารที่จำเลยเช่าจากโจทก์มาทำโรงแรมหรือไม่ จะต้องพิจารณาถึงสภาพของทรัพย์อย่างหนึ่งหรือตามจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นอีกอย่างหนึ่งว่าฝาที่กั้นเป็นห้องนั้นเป็นสาระสำคัญในความเป็นอยู่ของอาคารที่จำเลยเช่าจากโจทก์หรือไม่ หากตามสภาพของฝาที่กั้นเป็นห้องเป็นทรัพย์ที่อาจแยกออกจากตัวอาคารได้ โดยมิได้เป็นการทำลายอาคารหรือทำให้อาคารบุบสลายหรือเปลี่ยนแปลงรูปทรงแต่อย่างใด ฝากั้นเป็นห้องหาเป็นสาระสำคัญของอาคารไม่ และโจทก์มิได้นำสืบถึงจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่น ฝากั้นห้องนั้นก็ไม่ถือว่าเป็นส่วนควบของอาคาร.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 114/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายเรือนรื้อถอนติดที่ดิน: กรรมสิทธิ์ในเรือนเป็นของใครเมื่อมีการซื้อขายที่ดินโดยสุจริต?
การซื้อขายเรือนโดยทำสัญญาซื้อขายกันที่กรมการอำเภอโดยมีข้อตกลงว่าโจทก์จะได้รื้อเอาไปภายในกำหนด 3 วันนั้นเป็นการขายสังหาริมทรัพย์ไม่เป็นโมฆะ ผู้ซื้อได้กรรมสิทธิ์ตามฎีกาที่ 923/85
โจทก์ทำสัญญาซื้อขายเรือนกับเจ้าของเดิม ณ ที่ว่าการอำเภอโดยตกลงกันว่าจะรื้อเรือนไปภายใน 3 วัน แต่แล้วโจทก์กลับไม่รื้อเรือนไปตามข้อตกลงและกลับยอมให้เจ้าของเดิมเช่าเรือนพิพาทต่อไปอีกเป็นเวลานานถึง 10 ปี ถ้าโจทก์จะมีสิทธิเหนือพื้นดินของเจ้าของเดิมก็ต้องจดทะเบียนสิทธิต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1299 จึงจะใช้ยันจำเลยผู้ซื้อซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้แต่คดีนี้ปรากฏว่าไม่มีนิติกรรมจดทะเบียนสิทธิเหนือพื้นดินต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
เมื่อจำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้ซื้อที่พิพาทโดยสุจริตและโดยเสียค่าตอบแทนทั้งได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นหลักฐานอีกด้วยเรือนซึ่งเป็นส่วนควบย่อมติดไปกับที่ดินจำเลยจึงได้กรรมสิทธิ์ในเรือนนี้ด้วย (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2499)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 114/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์เรือนที่รื้อถอนได้หลังซื้อขาย แต่ไม่จดทะเบียนสิทธิเหนือพื้นดิน ย่อมตกเป็นของเจ้าของที่ดินที่ซื้อโดยสุจริตและจดทะเบียน
การซื้อขายเรือนโดยทำสัญญาซื้อขายกันที่กรมการอำเภอโดยมีข้อตกลงว่าโจทก์จะได้รื้อเอาไปภายในกำหนด 3 วันนั้นเป็นการขายสังหาริมทรัพย์
โจทก์ทำสัญญาซื้อขายเรือนกับเจ้าของเดิม ณ ที่ว่าการอำเภอโดยตกลงกันว่าจะรื้อเรือนไปภายใน 3 วัน แต่แล้วโจทก์กลับไม่รื้อเรือนไปตามข้อตกลงและกลับยอมให้เจ้าของเดิมเช่าเรือนพิพาทต่อไปอีกเป็นเวลานานถึง 10 ปี ถ้าโจทก์จะมีสิทธิเหนือพื้นดินของเจ้าของเดิมก็ต้องจดทะเบียนสิทธิต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม ป.พ.พ. ม.1299 จึงจะใช้ยันจำเลยผู้ซื้อซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้ แต่คดีนี้ปรากฏว่าไม่มีนิติกรรมจดทะเบียนสิทธิเหนือพื้นดินต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เมื่อจำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้ซื้อที่พิพาทโดยสุจริตและโดยเสียค่าตอบแทนทั้งได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นหลักฐานอีกด้วยเรือนซึ่งเป็นส่วนความย่อมติดไปกับที่ดิน จำเลยจึงได้กรรมสิทธิ์ในเรือนนี้ด้วย.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2499).
of 16