พบผลลัพธ์ทั้งหมด 16 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 379/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงความคิดเห็นติชมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานโดยสุจริต ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329
การฟ้องให้ลงโทษฐานหมิ่นประมาทจะต้องได้ความว่าจำเลยจงใจเจตนาใส่ความเพื่อให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง
การที่โจทก์ไปเก็บเงินมาจากพ่อค้าแม่ค้า โดยวิธีที่ไม่งาม นอกเหนือระเบียบแบบแผนการบริหารราชการ ส่งให้เห็นไปได้ว่า โจทก์ทำการทุจริตในหน้าที่ จำเลยจึงร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งไม่มีข้อเท็จจริงชี้ว่าจำเลยเจตนาร้าย กลั่นแกล้ง ตรงข้ามกลับฟังได้ว่า จำเลยแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เพื่อป้องกันส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับตนผู้เป็นสมาชิกสภาเทศบาลและราษฎรในเขตเทศบาล กรณีต้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 ย่อมไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
การที่โจทก์ไปเก็บเงินมาจากพ่อค้าแม่ค้า โดยวิธีที่ไม่งาม นอกเหนือระเบียบแบบแผนการบริหารราชการ ส่งให้เห็นไปได้ว่า โจทก์ทำการทุจริตในหน้าที่ จำเลยจึงร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งไม่มีข้อเท็จจริงชี้ว่าจำเลยเจตนาร้าย กลั่นแกล้ง ตรงข้ามกลับฟังได้ว่า จำเลยแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เพื่อป้องกันส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับตนผู้เป็นสมาชิกสภาเทศบาลและราษฎรในเขตเทศบาล กรณีต้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 ย่อมไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 379/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อป้องกันผลประโยชน์สาธารณะ ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท แม้เป็นการกล่าวหาการทุจริต
การฟ้องให้ลงโทษฐานหมิ่นประมาทจะต้องได้ความว่าจำเลยจงใจเจตนาใส่ความเพื่อให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง
การที่โจทก์ไปเก็บเงินมาจากพ่อค้าแม่ค้าโดยวิธีที่ไม่งามนอกเหนือระเบียบแบบแผนการบริหารราชการ ส่อให้เห็นไปได้ว่าโจทก์ทำการทุจริตในหน้าที่ จำเลยจึงร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งไม่มีข้อเท็จจริงชี้ว่าจำเลยเจตนาร้าย กลั่นแกล้งตรงข้ามกลับฟังได้ว่าจำเลยแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนผู้เป็นสมาชิกสภาเทศบาลและราษฎรในเขตเทศบาลกรณีต้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329ย่อมไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
การที่โจทก์ไปเก็บเงินมาจากพ่อค้าแม่ค้าโดยวิธีที่ไม่งามนอกเหนือระเบียบแบบแผนการบริหารราชการ ส่อให้เห็นไปได้ว่าโจทก์ทำการทุจริตในหน้าที่ จำเลยจึงร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งไม่มีข้อเท็จจริงชี้ว่าจำเลยเจตนาร้าย กลั่นแกล้งตรงข้ามกลับฟังได้ว่าจำเลยแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนผู้เป็นสมาชิกสภาเทศบาลและราษฎรในเขตเทศบาลกรณีต้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329ย่อมไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13-14/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกล่าวถึงการลบชื่อสมาชิกสมาคมโดยกรรมการตามมติที่ประชุม ไม่เป็นความผิดหมิ่นประมาท หากสุจริตและสุภาพ
กรรมการของสมาคม ได้มีการประชุมมติเป็นเอกฉันท์ให้ลบชื่สมาชิกของสมาคมนั้นออกจากการเป็นสมาชิกของสมาคม เพราะสมาชิกผู้นั้นได้วิ่งเต้นชักชวนสมาชิกให้ก่อกวนวุ่นวาย อ้างอิทธพลผู้ใหญ่ในวงราชการดังนี้ เมื่อการที่กรรมการอภิปรายในที่ประชุมและออกโฆษณาว่าได้ลบชื่อสมาชิกผู้นั้นออกจากสมาชิกนั้น เป็นการกล่าวตามมติที่ประชมและกระทำโดยสุจริตและสุภาพแล้ว ก็เป็นกรณีเข้าข้อยกเว้นตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 283 ไม่มีโทษฐานหมื่นประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13-14/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกล่าวถึงการลบชื่อสมาชิกสมาคมตามมติที่ประชุม โดยสุจริตและสุภาพ ไม่เป็นความผิดหมิ่นประมาท
กรรมการของสมาคมได้มีการประชุมลงมติเป็นเอกฉันท์ให้ลบชื่อสมาชิกของสมาคมนั้นออกจากการเป็นสมาชิกของสมาคมเพราะสมาชิกผู้นั้นได้วิ่งเต้นชักชวนสมาชิกให้ก่อกวนวุ่นวายอ้างอิทธิพลผู้ใหญ่ในวงราชการดังนี้เมื่อการที่กรรมการอภิปรายในที่ประชุมและออกโฆษณาว่าได้ลบชื่อสมาชิกผู้นั้นออกจากสมาชิกนั้นเป็นการกล่าวตามมติที่ประชุมและกระทำโดยสุจริตและสุภาพแล้วก็เป็นกรณีเข้าข้อยกเว้นตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 283 ไม่มีโทษฐานหมิ่นประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 785/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หมิ่นประมาททางหนังสือ แม้ไม่ระบุชื่อโดยตรง หากพยานหลักฐานแสดงถึงตัวผู้เสียหาย ก็ถือว่ามีความผิด
หมิ่นประมาทเขาทางหนังสือแม้ในหนังสือจะมิได้กล่าวเจาะจงถึงผู้เสียหายโดยตรง คือกล่าวว่าเป็นการสุดแสนจะทนดูพวกมหาดไทยเล่นสกปรกต่อไปฯลฯนั้นเมื่อทางพิจารณาได้ความว่า พวกมหาดไทยนั้นจำเลยหมายถึงผู้เสียหายดังนี้จำเลยก็ย่อมมีผิดฐานหมิ่นประมาทผู้เสียหาย
การที่จะได้รับยกเว้นตามมาตรา 283 นั้น จะต้องเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต อันต้องด้วยลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรา 283 ถ้าเป็นเรื่องใส่ความโดยปราศจากความจริงแล้วไม่เป็นข้อแก้ตัว
การที่จะได้รับยกเว้นตามมาตรา 283 นั้น จะต้องเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต อันต้องด้วยลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรา 283 ถ้าเป็นเรื่องใส่ความโดยปราศจากความจริงแล้วไม่เป็นข้อแก้ตัว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 785/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หมิ่นประมาททางหนังสือ แม้ไม่ระบุชื่อโดยตรง ก็ถือเป็นความผิด หากพิสูจน์ได้ว่าหมายถึงผู้เสียหาย และไม่มีเหตุยกเว้นตามกฎหมาย
หมิ่นประมาทเขาทางหนังสือ แม้ในหนังสือจะมิได้กล่าวเจาะจงถึงผู้เสียหายโดยตรง คือกล่าวว่าเป็นการสุดแสนจะ ทนดูพวกมหาดไทยเล่นสกปรกต่อไป ฯลฯ นั้น เมื่อทางพิจารณาได้ความว่า พวกมหาดไทยนั้นจำเลยหมายถึงผู้เสีย หายดังนี้ จำเลยก็ย่อมมีผิดฐานหมิ่นประมาทผู้เสียหาย.
การที่จะได้รับยกเว้นตามมาตรา 283 นั้น จะต้องเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต อันต้องด้วยลักษณะอย่างใด อย่างหนึ่งตามมาตรา 283 ถ้าเป็นเรื่องใส่ความโดยปราศจากความจริงแล้วไม่เป็นข้อแก้ตัว./
การที่จะได้รับยกเว้นตามมาตรา 283 นั้น จะต้องเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต อันต้องด้วยลักษณะอย่างใด อย่างหนึ่งตามมาตรา 283 ถ้าเป็นเรื่องใส่ความโดยปราศจากความจริงแล้วไม่เป็นข้อแก้ตัว./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1070/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จ-หมิ่นประมาท: การกล่าวอ้างโดยสุจริตต่อเจ้าคณะสงฆ์ ถือเป็นเหตุยกเว้นความผิด
พระภิกษุเมาสุราไปด่าท้าทายจำเลย จำเลยไปแจ้งความต่อผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านแนะนำให้ไปแจ้งต่อเจ้าคณะหมวดเพราะผู้ด่าท้าทายเป็นสงฆ์ จำเลยจึงไปร้องต่อเจ้าคณะหมวด เจ้าคณะหมวดเรียกพระภิกษุนั้นมาแจ้งข้อหาให้ทราบ พระภิกษุปฏิเสธ จำเลยยืนยันต่อหน้าบุคคลหลายคนว่าพระภิกษุนั้นเมาสุราไปด่าท้าทายจริงๆ จนในที่สุดเจ้าคณะหมวดไกล่เกลี่ยยอมเลิกแล้วต่อกัน ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยกล่าวโดยสุจริตตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 283(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จ ปลอมหนังสือ และหมิ่นประมาท: การวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงและเจตนา
ในคดีเรื่องปลอมหนังสือปัญหาว่า จำเลยได้ร้องขอให้เจ้าพนักงานจดข้อความนั้นจะเท่ากับจำเลยบอกให้เจ้าพนักงานจดตามที่ตนร้องขอหรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ในคดีหมิ่นประมาท เมื่อศาลฟังว่า จำเลยมิได้มีเจตนาใส่ความให้คนดูหมิ่นเกลียดชังแล้วปัญหาว่าข้อความนั้นจะเป็นหมิ่นประมาทหรือไม่ ก็ไม่จำต้องวินิจฉัย
ในคดีหมิ่นประมาท เมื่อศาลฟังว่า จำเลยมิได้มีเจตนาใส่ความให้คนดูหมิ่นเกลียดชังแล้วปัญหาว่าข้อความนั้นจะเป็นหมิ่นประมาทหรือไม่ ก็ไม่จำต้องวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จ ปลอมหนังสือ และหมิ่นประมาท: การวินิจฉัยข้อเท็จจริงและเจตนา
ในคดีเรื่องปลอมหนังสือปัญหาว่า จำเลยได้ร้องขอให้เจ้าพนักงานจดข้อความนั้นจะเท่ากับจำเลยบอกให้เจ้าพนักงานจดตามที่ตนร้องขอหรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ในคดีหมิ่นประมาท เมื่อศาลฟังว่า จำเลยมิได้มีเจตนาใส่ความให้คนดูหมิ่นเกลียดชังแล้ว ปัญหาว่าข้อความนั้นจะเป็นหมิ่นประมาทหรือไม่ ก็ไม่จำต้องวินิจฉัย
ในคดีหมิ่นประมาท เมื่อศาลฟังว่า จำเลยมิได้มีเจตนาใส่ความให้คนดูหมิ่นเกลียดชังแล้ว ปัญหาว่าข้อความนั้นจะเป็นหมิ่นประมาทหรือไม่ ก็ไม่จำต้องวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกล่าวคำหมิ่นประมาทไม่ได้รับยกเว้นโทษ แม้กล่าวในกระบวนการเปรียบเทียบความแพ่ง
กล่าวคำว่า เขาว่ากำนันเกเร กำนันเกะกะ กำนันเป็นผู้ร้ายดังนี้เป็นการหมิ่นประมาทเขาตาม มาตรา 282 กล่าวคำหมิ่นประมาทเขาในเวลาที่นายอำเภอเปรียบเทียบความแพ่งนั้น ไม่ได้รับยกเว้นโทษตามมาตรา 283 และ 285 เพราะอำเภอไม่ใช่ศาลและนายอำเภอไม่ใช่ผู้พิพากษา