คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 142

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 18 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 211/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานกระทำผิดเอง ไม่สามารถลงโทษฐานช่วยเหลือผู้อื่นกระทำผิดได้
แม้จำเลยเป็นตำรวจมีหน้าที่จับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายก็ตามก็ลงโทษจำเลยฐานใช้อำนาจและตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 142 ไม่ได้ ในเมื่อจำเลยสมคบกับพวกพยายามลักทรัพย์ทำให้เสียทรัพย์และลักทรัพย์เสียเอง จึงมิได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่ช่วยเหลือจำเลยอื่นกระทำผิดหรือช่วยเหลือให้พ้นอาญา
บทบัญญัติตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา142 เป็นกรณีเจ้าพนักงานช่วยเหลือผู้กระทำผิดมิให้ต้องรับอาญามิใช่เอาผิดแก่เจ้าพนักงานผู้กระทำผิดเสียเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 211/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตำรวจสมคบร่วมกระทำผิดเอง ไม่ผิดฐานใช้อำนาจในทางทุจริตตาม ม.142
แม้จำเลยเป็นตำรวจมีหน้าที่จับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายก็ตาม ก็ลงโทษจำเลยฐานใช้อำนาจและตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 142 ไม่ได้ ในเมื่อจำเลยสมคบกับพวกพยายามลักทรัพย์ ทำให้เสียทรัพย์และลักทรัพย์เสียเอง จึงมิได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่ช่วยเหลือจำเลยอื่นกระทำผิดหรือช่วยเหลือให้พ้นอาญา
บทบัญญัติตามก.ม.ลักษณะอาญา ม.142 เป็นกรณีเจ้าพนักงานช่วยเหลือผู้กระทำผิดมิให้ต้องรับอาญา มิใช่เอาผิดแก่เจ้าพนักงานผู้กระทำผิดเสียเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 912/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานช่วยเหลือผู้กระทำผิด เลี่ยงโทษอาญาแผ่นดินเป็นคดีส่วนตัว
มาตรา 28 แห่ง พระราชบัญญัติปกครองท้องที่ พ.ศ.2457บัญญัติให้ผู้ใหญ่บ้านท้องที่มีอำนาจและหน้าที่การงานในเขตท้องที่ของตนและ พระราชบัญญัติปกครองท้องที่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2486 มาตรา 6 เพิ่มหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้านเข้าไว้อีกตามข้อ 18 ว่า'ผู้ใหญ่บ้านมีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งของกำนันหรือทางราชการฯ'ประกอบกับคำปลัดอำเภอพยานโจทก์ว่าผู้ใหญ่บ้านทุกคนมีหน้าที่สืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดในท้องที่ของตนและต้องรายงานให้อำเภอทราบ
จำเลยเป็นผู้ใหญ่บ้านจึงเป็นเจ้าพนักงานท้องที่ตาม กฎหมายเมื่อพาผู้ต้องหาในคดีลักและฆ่ากระบือไปส่งอำเภอระหว่างทางจำเลยจัดการให้ผู้เสียหายกับผู้ต้องหาเลิกคดีกันโดยผู้ต้องหายอมใช้ราคาค่าเสียหายจำเลยปล่อยผู้ต้องหาโดยจัดทำสัญญาประนีประนอมให้เลิกคดีกันปิดข้อเท็จจริงเรื่องลักทรัพย์และฆ่ากระบือเป็นเรื่องทำให้เสียทรัพย์โดยไม่เจตนา คือปิดข้อเท็จจริงซึ่งเป็นความผิดทางอาญาแผ่นดินไม่มีทางเลิกกันได้ให้เป็นความผิดส่วนตัวที่เลิกกันได้ตามกฎหมายเช่นนี้จำเลยได้ชื่อว่ากระทำการอันไม่ควรกระทำและมีเจตนาช่วยเหลือผู้กระทำผิดไม่ให้ต้องรับโทษการกระทำของจำเลยจึงเป็นผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 142

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 369/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ – ความผิดเกิดขึ้นเมื่อรับทรัพย์สินโดยเจตนาทุจริต แม้จะมีการส่งมอบต่อ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้อำนาจตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตสมคบกันยักยอกทองคำแท่งที่หนีภาษีได้แล้วปล่อยผู้ต้องหาไป ดังนี้แม้ทางพิจารณาจะปรากฎว่ามิใช่ทองคำแท่งที่หนีภาษีมาก็ดี ก็ยังไม่เรียกว่าข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับฟ้องเพราะทองคำของกลางจะเป็นของหนีภาษีหรือไม่ ๆ สำคัญและคดีนี้เป็นคดีอาญาแผ่นดินอัยการโจทก์มีอำนาจฟ้อง
และเมื่อจำเลยรับทองของกลางจากผู้ต้องหาแล้ว เจตนาทุจริตยักยอกไปเป็นประโยชน์ของตนเสียก็เป็นความผิดฐานเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์แล้วจำเลยจะส่งจำหน่ายทองของกลางนั้นต่อไปอย่างไรไม่สำคัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 369/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์: การกระทำความผิดสำเร็จเมื่อมีเจตนายักยอก แม้จะมีการส่งมอบทรัพย์ต่อ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้อำนาจตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตสมคบกันยักยอกทองคำแท่งที่หนีภาษีได้แล้วปล่อยผู้ต้องหาไปดังนี้แม้ทางพิจารณาจะปรากฏว่ามิใช่ทองคำแท่งที่หนีภาษีมาก็ดีก็ยังไม่เรียกว่าข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับฟ้องเพราะทองคำของกลางจะเป็นของหนีภาษีหรือไม่ไม่สำคัญและคดีนี้เป็นคดีอาญาแผ่นดินอัยการโจทก์มีอำนาจฟ้องและเมื่อจำเลยรับทองของกลางจากผู้ต้องหาแล้ว เจตนาทุจริตยักยอกไปเป็นประโยชน์ของตนเสียก็เป็นความผิดฐานเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์แล้ว จำเลยจะส่งจำหน่ายทองของกลางนั้นต่อไปอย่างไรไม่สำคัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 611/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเว้นการจับกุมผู้กระทำผิด - เจตนาช่วยเหลือ - ผู้เสียหายตามกฎหมาย
ผู้ที่ถูกฉุดคร่าได้แจ้งแก่ผู้ใหญ่บ้านว่าคนร้ายฉุดคร่าขอให้จับกุมผู้ใหญ่บ้านไม่จับกุมและไม่รายงานดังนี้ ผู้ถูกฉุดคร่าอาจเป็นผู้เสียหายตามมาตรา 28 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ที่จะดำเนินการฟ้องร้องผู้ใหญ่บ้านเป็นจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 142 ได้ทั้งนี้สุดแล้วแต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 611/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเว้นการจับกุมผู้กระทำผิด – ผู้ใหญ่บ้าน – ความรับผิดทางอาญา – ผู้เสียหาย
ผู้ที่ถูกฉุดคร่าห์ได้แจ้งแก่ผู้ใหญ่บ้านว่าคนร้ายฉุดคร่าห์ ขอให้จับกุมผู้ใหญ่บ้านไม่จับกุมและไม่รายงานดังนี้ ผู้ถูกฉุดคร่าห์อาจเป็นผู้เสียหายตามมาตรา 28 ป.ม.วิ.อาญา ที่จะดำเนินการฟ้องร้องผู้ใหญ่บ้านเป็นจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 142 ได้ ทั้งนี้สุดแล้วแต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฎในทางพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 629/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจกำนันในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและการกักขังชั่วคราว: ไม่มีเจตนาทุจริตหรือขัดขวางอิสรภาพ
ลูกบ้านได้ขอให้กำนันเอาตัวผู้เสียหายไปสอบถามให้แน่นอนในเรื่องที่ลูกบ้านสงสัยว่าผู้เสียหายซ่อนกระบือของตนที่หายไป กำนันจึงเอาตัวผู้เสียหายไปที่บ้านกำนัน เรียกร้องให้ผู้เสียหายใช้ราคากระบือแก่ลูกบ้านแล้วลูกบ้านจะไม่เอาเรื่อง ผู้เสียหายก็ยอมเสียค่ากระบือให้ลูกบ้านลูกบ้านก็ไม่เอาเรื่องต่อไปและกำนันได้จัดการทำหนังสือปรองดองกันไว้ แล้วไม่เอาตัวผู้เสียหายส่งไปยังพนักงานสอบสวน ดังนี้ ไม่ใช่มีเจตนาจะกระทำการทุจริตต่อหน้าที่ จึงไม่มีผิดฐานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 136,137,138,142 และการที่กำนันกักตัวผู้เสียหายไว้จนชำระเงินกันแล้วจึงปล่อยนั้นเมื่อกำนันคิดว่ากำนันมีอำนาจทำได้ ไม่มีเจตนาที่จะกักขังให้ผู้เสียหายเสื่อมเสียอิสระภาพแล้วกำนันก็ยังไม่ผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 268,270

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 868/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานช่วยเหลือผู้กระทำผิดและแจ้งข้อมูลเท็จ ศาลฎีกาพิพากษาโทษจำคุก
เจ้าพนักงานสรรพสามิตอำเภอ ไม่มีหน้าที่สืบเสาะไต่สวนหรือฟ้องคดีที่มีความผิดฐานเล่นการพนักด้วย จึงจะมีความผิดฐานช่วยเหลือผู้กระทำผิดฐานเล่นการพนันให้พ้นอาญา ตามมาตาา 142 ไม่ได้
สรรพสามิตอำเภอจับผู้เล่นการพนันมาแล้ว กลับช่วยเหลือโดยเอาขวดบรรจุน้ำสุราเถื่อนไปแจ้งแก่พนักงานสอบสวนว่าพวกทีจับมามีสุราเถื่อน ดังนี้มีผิดตามมาตรา 157,158
จำเลยกระทำหลักฐานเท็จ โดยเอาขาดบรรจุน้ำสุราเถื่อนไปแจ้งพนักงานสอบสวนว่าพวกผู้ต้องหาที่จำเลยจับมามีน้ำสุราเถื่อนผิดกฎหมาย พนักงานสอบสวนหลงเชื่อทำการเปรียบเทียบปรับพวกผู้ต้องหาเสร็จไปชั้นอำเภอ ดังนี้ จำเลยมีความผิดตามมาตรา 160

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 868/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานปฏิบัติมิชอบแจ้งความเท็จเพื่อช่วยเหลือผู้กระทำผิด
เจ้าพนักงานสรรพสามิตอำเภอ ไม่มีหน้าที่สืบเสาะไต่สวนหรือฟ้องคดีที่มีความผิดฐานเล่นการพนันด้วย จึงจะมีความผิดฐานช่วยเหลือผู้กระทำผิดฐานเล่นการพนันให้พ้นอาญา ตามมาตรา 142 ไม่ได้
สรรพสามิตอำเภอจับผู้เล่นการพนันมาแล้ว กลับช่วยเหลือโดยเอาขวดบรรจุน้ำสุราเถื่อนไปแจ้งแก่พนักงานสอบสวนว่าพวกที่จับมามีสุราเถื่อนดังนี้มีผิดตามมาตรา 157,158
จำเลยกระทำหลักฐานเท็จ โดยเอาขวดบรรจุน้ำสุราเถื่อนไปแจ้งแก่พนักงานสอบสวนว่าพวกผู้ต้องหาที่จำเลยจับมามีน้ำสุราเถื่อนผิดกฎหมายพนักงานสอบสวนหลงเชื่อทำการเปรียบเทียบปรับพวกผู้ต้องหาเสร็จไปชั้นอำเภอดังนี้ จำเลยมีความผิดตามมาตรา 160
of 2