พบผลลัพธ์ทั้งหมด 805 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3279/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาต่างตอบแทนที่ดิน: สิทธิและหน้าที่ของผู้รับโอนมรดก
เจ้าของเดิมตกลงให้จำเลยที่ 1 และสามีเช่าที่พิพาทปลูกตึกแถวอยู่อาศัยกำหนด 30 ปี โดยจำเลยที่ 1 กับสามีต้องเสียค่าตอบแทนให้เจ้าของเดิมเป็นจำนวนเงิน 50,000บาท เมื่อครบกำหนด 30 ปีแล้วตึกแถวที่จำเลยที่ 1 กับสามีสร้างขึ้นตกเป็นของเจ้าของเดิม ข้อตกลงระหว่างจำเลยที่ 1 และสามีกับเจ้าของเดิมจึงเป็นสัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดาซึ่งสัญญาดังกล่าวไม่มีกฎหมายบังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และเมื่อเจ้าของเดิมถึงแก่กรรม โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกและในฐานะภริยาผู้มีส่วนได้รับมรดกต้องรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ซึ่งเจ้าของเดิมมีต่อจำเลยที่ 1 ตามสัญญาต่างตอบแทนที่ตกลงกันไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3279/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาต่างตอบแทนเช่าที่ดิน: สิทธิและหน้าที่ของผู้รับโอนมรดก
เจ้าของเดิมตกลงให้จำเลยที่ 1 และสามีเช่าที่พิพาทปลูกตึกแถวอยู่อาศัยกำหนด 30 ปี โดยจำเลยที่ 1 กับสามีต้องเสียค่าตอบแทนให้เจ้าของเดิมเป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท เมื่อครบกำหนด 30 ปี แล้วตึกแถวที่จำเลยที่ 1 กับสามีสร้างขึ้นตกเป็นของเจ้าของเดิม ข้อตกลงระหว่างจำเลยที่ 1และสามีกับเจ้าของเดิมจึงเป็นสัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดาซึ่งสัญญาดังกล่าวไม่มีกฎหมายบังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และเมื่อเจ้าของเดิมถึงแก่กรรม โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกและในฐานะภริยาผู้มีส่วนได้รับมรดกต้องรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ซึ่งเจ้าของเดิมมีต่อจำเลยที่ 1 ตามสัญญาต่างตอบแทนที่ตกลงกันไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2338/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อหุ้นและเบิกเงินเกินบัญชี: สัญญาต่างตอบแทน มิใช่ตัวการตัวแทน อายุความ 10 ปี
บริษัท อ. ทำสัญญากับโจทก์รวม 3 ฉบับโดยมีจำเลยที่ 1 เป็นผู้ค้ำประกันสัญญาทั้ง 3 ฉบับระหว่างโจทก์และบริษัท อ.มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการผลประโยชน์ตอบแทนซึ่งกันและกันโดยบริษัท อ. ต้องการเก็บกำไรจากการซื้อหุ้น แต่บริษัท อ.ไม่มีเงินจึงขอเบิกเงินจากโจทก์ทำนองเบิกเงินเกินบัญชีเพื่อนำเงินไปซื้อหุ้นแต่ถ้าโจทก์จ่ายเงินให้บริษัท อ. ไปซื้อหุ้นด้วยตนเองแล้วโจทก์จะไม่มีหลักประกัน โจทก์จึงทำหน้าที่ซื้อหุ้นตามคำสั่งของบริษัท อ. เพื่อยึดใบหุ้นเป็นหลักประกันและตีราคามูลค่าหุ้นที่ยึดไว้เป็นหลักประกันเพียงร้อยละ 75 ส่วนอีกร้อยละ 25 บริษัท อ. ต้องเอาเงินมาฝากเข้าบัญชีกับโจทก์ และถ้าหุ้นมีมูลค่าลดลงต่ำกว่าร้อยละ 75 บริษัท อ. ต้องเพิ่มเงินฝากเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 25 เพื่อให้โจทก์มีหลักประกันเต็มจำนวนร้อย ผลประโยชน์ที่โจทก์ได้รับตามสัญญาคือได้ดอกเบี้ยและค่าชักส่วนลดจากยอดเงินที่บริษัท อ. เป็นหนี้โจทก์ส่วนบริษัท อ. มีเงินเพียงร้อยละ 25 ก็สามารถซื้อหุ้นมีมูลค่าเต็มจำนวนร้อยเพื่อหวังเก็บกำไรได้ การที่โจทก์ซื้อหุ้นแทนบริษัท อ. นั้น. เป็นเพียงข้อตกลงส่วนหนึ่งของสัญญาระหว่างโจทก์กับบริษัท อ. เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์เท่านั้นไม่อาจแยกออกเป็นเอกเทศได้ การที่โจทก์ฟ้องเรียกหนี้ที่บริษัท อ. เป็นหนี้ตามสัญญาดังกล่าว จึงไม่เข้าลักษณะเอกเทศสัญญาในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แต่เป็นสัญญาต่างตอบแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 369 ซึ่งไม่มีกฎหมายกำหนดอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีอายุความ 10 ปีตามมาตรา 164(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2524)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2338/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเบิกเงินเกินบัญชีและหลักประกัน: ลักษณะสัญญาต่างตอบแทนและอายุความ 10 ปี
บริษัท อ. ทำสัญญากับโจทก์รวม 3 ฉบับโดยมีจำเลยที่ 1 เป็นผู้ค้ำประกันสัญญาทั้ง 3 ฉบับระหว่างโจทก์และบริษัท อ. มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการผลประโยชน์ตอบแทนซึ่งกันและกัน โดยบริษัท อ.ต้องการเก็บกำไรจากการซื้อหุ้นแต่บริษัทอ. ไม่มีเงินจึงขอเบิกเงินจากโจทก์ทำนองเบิกเงินเกินบัญชี เพื่อนำเงินไปซื้อหุ้นแต่ถ้าโจทก์จ่ายเงินให้บริษัท อ. ไปซื้อหุ้นด้วยตนเองแล้วโจทก์จะไม่มีหลักประกัน โจทก์จึงทำหน้าที่ซื้อหุ้นตามคำสั่งของบริษัท อ. เพื่อยึดใบหุ้นเป็นหลักประกันและตีราคามูลค่าหุ้นที่ยึดไว้เป็นหลักประกันเพียงร้อยละ75 ส่วนอีกร้อยละ 25 บริษัท อ. ต้องเอาเงินมาฝากเข้าบัญชีกับโจทก์ และถ้าหุ้นมีมูลค่าลดลงต่ำกว่าร้อยละ 75 บริษัท อ. ต้องเพิ่มเงินฝากเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 25 เพื่อให้โจทก์มีหลักประกันเต็มจำนวนร้อย ผลประโยชน์ที่โจทก์ได้รับตามสัญญาคือได้ดอกเบี้ยและค่าชักส่วนลด จากยอดเงินที่บริษัท อ.เป็นหนี้โจทก์ส่วนบริษัทอ. มีเงินเพียงร้อยละ 25 ก็สามารถซื้อหุ้นมีมูลค่าเต็มจำนวนร้อยเพื่อหวังเก็บกำไรได้ การที่โจทก์ซื้อหุ้นแทนบริษัท อ. นั้น. เป็นเพียงข้อตกลงส่วนหนึ่งของสัญญาระหว่างโจทก์กับบริษัท อ. เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์เท่านั้นไม่อาจแยกออกเป็นเอกเทศได้ การที่โจทก์ฟ้องเรียกหนี้ที่บริษัท อ. เป็นหนี้ตามสัญญาดังกล่าว จึงไม่เข้าลักษณะเอกเทศสัญญาในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แต่เป็นสัญญาต่างตอบแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 369 ซึ่งไม่มีกฎหมายกำหนดอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีอายุความ 10 ปีตามมาตรา 164 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2524)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2016/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อแฟลต: สิทธิในการจดทะเบียนเช่าแม้ไม่มีข้อตกลง
โจทก์จำเลยทำสัญญาเช่าต่างตอบแทนเรื่องโจทก์ออกเงินช่วยเหลือค่าก่อสร้างแฟลต แล้วจำเลยให้โจทก์เช่าห้องในแฟลตเป็นระยะยาวเกินกว่า 3 ปี คู่กรณีย่อมเกิดสิทธิตามสัญญาต่างตอบแทน ที่โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยจดทะเบียนการเช่าเป็นการให้ปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้การเช่าได้จดทะเบียนการเช่าสมบูรณ์ยิ่งขึ้นและผูกพันถึงผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ระหว่างการเช่ายังไม่สิ้นสุดด้วย แม้สัญญาเช่าจะไม่ได้ระบุหรือมีข้อความให้จำเลยจดทะเบียนการเช่า โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องบังคับให้จำเลยไปจดทะเบียนการเช่าได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1719/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของกรรมสิทธิ์มีสิทธิฟ้องขับไล่ผู้เช่าเดิม แม้ไม่มีการบอกเลิกสัญญาโดยตรง และสัญญาเดิมผูกพันเฉพาะเจ้าของเดิม
จำเลยเช่าตึกแถวจาก จ. โดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ต่อมาจ. โอนกรรมสิทธิ์ตึกแถวให้โจทก์ โจทก์กับจำเลยไม่มีนิติสัมพันธ์กันการบอกเลิกการเช่าตึกแถวจะชอบหรือไม่จึงไม่ใช่สาระสำคัญ โจทก์เจ้าของตึกแถวย่อมฟ้องขับไล่จำเลยได้โดยไม่จำต้องบอกกล่าวก่อน
แม้สัญญาต่างตอบแทนระหว่าง จ. กับจำเลยมีอยู่จริง ก็มีผลผูกพันเฉพาะ จ. กับจำเลยเท่านั้น เมื่อโจทก์มิได้ยินยอมตามข้อตกลงในสัญญาต่างตอบแทนด้วยแล้วจำเลยก็ไม่มีสิทธิที่จะยกเอาข้อตกลงในสัญญาต่างตอบแทนขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ตึกแถวอันได้รับมาโดยชอบ
แม้สัญญาต่างตอบแทนระหว่าง จ. กับจำเลยมีอยู่จริง ก็มีผลผูกพันเฉพาะ จ. กับจำเลยเท่านั้น เมื่อโจทก์มิได้ยินยอมตามข้อตกลงในสัญญาต่างตอบแทนด้วยแล้วจำเลยก็ไม่มีสิทธิที่จะยกเอาข้อตกลงในสัญญาต่างตอบแทนขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ตึกแถวอันได้รับมาโดยชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1150/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในเครื่องจักรตามสัญญาทรัสต์รีซีท แม้ยังมิได้จดทะเบียนจำนอง ย่อมเป็นของผู้ร้อง
สัญญาทรัสต์รีซีทที่จำเลยที่ 1 ผู้สั่งซื้อเครื่องจักรจากต่างประเทศทำไว้กับธนาคารผู้ร้อง โดยระบุว่า จำเลยที่ 1 ยอมยกกรรมสิทธิ์ในเครื่องจักรให้ผู้ร้องเพื่อตอบแทนที่ผู้ร้องมอบเอกสารขนส่งสินค้าให้จำเลยที่ 1เพื่อจำเลยที่ 1 จะได้นำเครื่องจักรออกจำหน่ายนำเงินมาชำระหนี้ตามตั๋วแลกเงินแก่ผู้ร้อง เครื่องจักรเป็นสังหาริมทรัพย์และอยู่ในความครอบครองของผู้ร้องแล้ว จึงโอนกรรมสิทธิ์ได้ด้วยการแสดงเจตนา กรรมสิทธิ์ในเครื่องจักรย่อมเป็นของผู้ร้องโดยสมบูรณ์ แม้จะมีข้อตกลงว่าจำเลยที่ 1 จะต้องจดทะเบียนจำนองเครื่องจักรไว้กับผู้ร้องก่อน จึงจะ นำไปจำหน่ายจ่ายโอนได้ เมื่อยังไม่มีการ จดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร ตามพระราชบัญญัติจดทะเบียนเครื่องจักร พ.ศ.2514 กรรมสิทธิ์ ในเครื่องจักรก็ยังคงเป็นของผู้ร้อง โจทก์ไม่มีสิทธินำ เจ้าพนักงานบังคับคดียึดเครื่องจักรพิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 705/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินไม่สมบูรณ์หากยังไม่ตกลงเงื่อนไขตามเจตนาของคู่สัญญา การขายให้ผู้อื่นเป็นเหตุให้เรียกเงินมัดจำคืนได้
แม้การทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินกฎหมายกำหนดให้ทำได้หลายวิธีด้วยกัน แต่เมื่อคู่สัญญากำหนดจะทำกันโดยวิธีทำเป็นหนังสือ ก็ต้องเป็นไปตามเจตนาของคู่สัญญา ตามเอกสารหมาย จ.1 ซึ่งเป็นสัญญาฉบับแรกระบุไว้ว่า สัญญาดังกล่าวยังไม่ถือเป็นข้อยุติในการซื้อขายจนกว่าจะได้ทำสัญญามีเงื่อนไขตรงกับความประสงค์ของทั้งสองฝ่ายดังนั้น เอกสารหมาย จ.1 จึงนับว่ายังมิได้มีสัญญาผูกพันเป็นสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินรายพิพาทต่อกัน การที่จำเลยนำที่ดินพิพาทส่วนใหญ่ไปขายให้แก่ผู้อื่นหลังจากนั้น แสดงว่าจำเลยไม่ประสงค์จะทำสัญญาจะซื้อขาย กับโจทก์ต่อไปตามที่เคยตกลงไว้ จำเลยจึงไม่มีสิทธิอย่างใดที่จะยึดเงินมัดจำของโจทก์.ที่มอบให้จำเลยไว้ โจทก์มีสิทธิเรียกเงินจำนวนนี้คืนจากจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิซื้อขายและการชำระหนี้บางส่วน ไม่เข้าข่ายสัญญาซื้อขายตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 453, 456 จึงไม่ต้องทำเป็นหนังสือ
โจทก์เป็นคู่สัญญาในการซื้อขายโรงสีกับ ป. โจทก์ โอนสิทธิในการเป็นคู่สัญญาในฐานะผู้ซื้อให้แก่จำเลยยอมให้จำเลยไปทำสัญญาซื้อขายโดยตรงกับ ป. แต่มีข้อตกลงกันว่าจำเลยจะชำระเงิน 20,000 บาท ที่โจทก์วางมัดจำไว้กับ ป. คืนให้โจทก์นั้น มิใช่โจทก์โอน กรรมสิทธิ์ในโรงสีให้จำเลย กรรมสิทธิ์ในโรงสียังเป็นของ ป. ถ้าจะมีการโอนกรรมสิทธิ์ก็ต้องมีการโอนระหว่างป. กับจำเลย เงิน 20,000 บาทที่จำเลยจะต้องชำระให้โจทก์ตามข้อตกลงมิใช่ราคาโรงสีที่จำเลยจะได้รับโอนข้อตกลงระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นสัญญา (ต่างตอบแทน)อย่างหนึ่ง มิใช่สัญญาซื้อขายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 453, 456 จึงไม่จำต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องให้จำเลยชำระ เงินจำนวนดังกล่าวนั้นตามที่ ตกลงกันไว้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 458-459/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างเหมาผิดสัญญา การริบผลงานเป็นเบี้ยปรับ การลดเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วน และการคืนหนังสือค้ำประกัน
โจทก์รับจ้างจำเลยหล่อและปักเสาพาดสายโทรเลข สัญญาจ้างมีข้อความว่า ถ้าผู้รับจ้างผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใด ให้ผู้ว่าจ้างมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ และผู้รับจ้างยินยอมให้สิ่งก่อสร้างและสัมภาระอุปกรณ์ในการก่อสร้างของผู้รับจ้างตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ว่าจ้างโดยไม่ต้องใช้ราคาแก่ผู้รับจ้าง โจทก์ผิดสัญญาใช้เสาผิดแบบและก่อสร้างไม่ทันกำหนด จำเลยบอกเลิกสัญญาแล้วใช้สิทธิริบสิ่งก่อสร้างหรือผลงานที่โจทก์ทำมาแล้วดังนี้ กรรมสิทธิ์ในสิ่งก่อสร้างดังกล่าวตกเป็นของจำเลยแล้วโดยจำเลยไม่ต้องใช้ราคาเมื่อเป็นดังนี้แล้วจำเลยไม่เสียหายแต่ประการใด จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องให้โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายเพราะเสาผิดแบบและขาดจำนวนอีก
ข้อตกลงให้ผู้ว่าจ้างริบเอาสิ่งก่อสร้างหรือผลงานโดยไม่ต้องใช้ราคาเป็นข้อตกลงที่มีลักษณะเป็นการที่ผู้รับจ้างให้สัญญาว่าจะทำการชำระหนี้อย่างอื่นที่มิใช่จำนวนเงินให้เป็นเบี้ยปรับแก่ผู้ว่าจ้างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 382 ถ้าเบี้ยปรับนี้สูงเกินส่วน ศาลมีอำนาจที่จะลดลงให้เหลือเป็นจำนวนพอสมควรได้ตามมาตรา 383 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 3/2524)
เมื่อจำเลยริบเอาสิ่งก่อสร้างหรือผลงานของโจทก์ไว้เป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยและศาลลดเบี้ยปรับให้โจทก์โดยลดให้คิดเป็นจำนวนเท่ากับเงินค่าปรับ ค่าคุมงานและค่าเครื่องอุปกรณ์การก่อสร้างเหลือใช้ที่โจทก์จะต้องชดใช้หรือคืนให้จำเลยแล้ว จึงถือได้ว่าโจทก์ได้ชำระค่าปรับ ค่าคุมงานและค่าเครื่องอุปกรณ์การก่อสร้างเหลือใช้ให้แก่จำเลยครบถ้วนแล้วไม่มีหนี้ที่โจทก์จะต้องรับผิดชดใช้ให้จำเลยอีก จำเลยต้องคืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารให้แก่โจทก์
ข้อตกลงให้ผู้ว่าจ้างริบเอาสิ่งก่อสร้างหรือผลงานโดยไม่ต้องใช้ราคาเป็นข้อตกลงที่มีลักษณะเป็นการที่ผู้รับจ้างให้สัญญาว่าจะทำการชำระหนี้อย่างอื่นที่มิใช่จำนวนเงินให้เป็นเบี้ยปรับแก่ผู้ว่าจ้างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 382 ถ้าเบี้ยปรับนี้สูงเกินส่วน ศาลมีอำนาจที่จะลดลงให้เหลือเป็นจำนวนพอสมควรได้ตามมาตรา 383 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 3/2524)
เมื่อจำเลยริบเอาสิ่งก่อสร้างหรือผลงานของโจทก์ไว้เป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยและศาลลดเบี้ยปรับให้โจทก์โดยลดให้คิดเป็นจำนวนเท่ากับเงินค่าปรับ ค่าคุมงานและค่าเครื่องอุปกรณ์การก่อสร้างเหลือใช้ที่โจทก์จะต้องชดใช้หรือคืนให้จำเลยแล้ว จึงถือได้ว่าโจทก์ได้ชำระค่าปรับ ค่าคุมงานและค่าเครื่องอุปกรณ์การก่อสร้างเหลือใช้ให้แก่จำเลยครบถ้วนแล้วไม่มีหนี้ที่โจทก์จะต้องรับผิดชดใช้ให้จำเลยอีก จำเลยต้องคืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารให้แก่โจทก์