พบผลลัพธ์ทั้งหมด 805 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2239/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาต่างตอบแทนกับการจดทะเบียนเช่า: การผูกพันตามข้อตกลง
จำเลยถมดินในที่ดินของ ส. ที่เป็นที่หนองและที่บ่อแล้วปลูกเรือนอยู่อาศัย เสียค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นเงิน 237,000 บาท เฉพาะค่าถมดินเป็นเงิน 20,000 บาทเศษ โดยมี ข้อตกลงด้วยวาจากับ ส. ว่าจะให้จำเลยเช่าอยู่จนตลอดชีวิต ตามข้อตกลงและพฤติการณ์ดังกล่าวเป็นสัญญาต่างตอบแทน เมื่อจำเลยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงแล้ว ย่อมผูกพันโจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกของ ส. ให้ต้องไปจดทะเบียนการเช่าให้แก่จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2142/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขก่อนเรียกร้องสิทธิ และข้อพิพาทนอกสัญญาไม่อยู่ในขอบเขตบังคับคดี
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาลว่า จำเลยยอมขายที่ดินพร้อมอาคารพิพาทให้โจทก์โดยปลอดจำนอง ดังนี้ จำเลยจะต้องทำให้ที่ดินและอาคารดังกล่าวปลอดจำนองเสียก่อนจึงจะขอให้โจทก์วางเงินค่าที่ดินตามสัญญาประนีประนอมยอมความได้ ส่วนปัญหาค่าซ่อมแซมอาคารพิพาทซึ่งโจทก์อ้างว่าชำรุดทรุดโทรมไปจากเดิม เป็นเรื่องนอกเหนือจากกรณีที่จะต้องบังคับตามสัญญาประนีประนอมยอมความศาลจะวินิจฉัยให้หักเงินค่าที่ดินและอาคารพิพาทในชั้นบังคับคดีนี้หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2142/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีตามสัญญาประนีประนอมยอมความ: จำเลยต้องทำให้ที่ดินปลอดจำนองก่อนโจทก์วางเงิน
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาลว่า จำเลยยอมขายที่ดินพร้อมอาคารพิพาทให้โจทก์โดยปลอดจำนอง ดังนี้ จำเลยจะต้องทำให้ที่ดินและอาคารดังกล่าวปลอดจำนองเสียก่อนจึงจะขอให้โจทก์วางเงินค่าที่ดิน ตามสัญญาประนีประนอมยอมความได้ ส่วนปัญหาค่าซ่อมแซมอาคารพิพาทซึ่งโจทก์อ้างว่าชำรุดทรุดโทรมไปจากเดิม เป็นเรื่องนอกเหนือจากกรณีที่จะต้องบังคับตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ศาลจะวินิจฉัยให้หักเงินค่าที่ดินและอาคารพิพาทในชั้นบังคับคดีนี้หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2141/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีตามสัญญายอมความที่ยังไม่ปลอดจำนองและอาคารชำรุด ศาลฎีกาพิพากษางดการบังคับคดี
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยจำเลยยอมขายที่ดินพร้อมอาคารพิพาทให้โจทก์โดยปลอดจำนอง ศาลพิพากษาตามยอม คดีถึงที่สุดแล้ว เมื่อปรากฏว่าจำเลยยังมิได้ทำที่ดินและอาคารพิพาทให้ปลอดจำนองตามสัญญาและโจทก์อ้างว่าอาคารพิพาทชำรุดบกพร่อง ดังนี้ ที่ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดียึดทรัพย์โจทก์ขำระค่าที่ดินและอาคารพิพาทตามคำขอของจำเลยนั้นเป็นการไม่ชอบและเมื่ออาคารพิพาทยังไม่ปลอดจำนอง จึงมีเหตุสมควรงดการบังคับคดีไว้ก่อน
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16/2521)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16/2521)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2141/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความซื้อขายที่ดินพร้อมอาคาร: ศาลฎีกาวางหลักงดบังคับคดีหากที่ดินยังไม่ปลอดจำนองและอาคารชำรุด
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยจำเลยยอมขายที่ดินพร้อมอาคารพิพาทให้โจทก์โดยปลอดจำนอง ศาลพิพากษาตามยอม คดีถึงที่สุดแล้ว เมื่อปรากฏว่าจำเลยยังมิได้ทำที่ดินและอาคารพิพาทให้ปลอดจำนองตามสัญญาและโจทก์ก็อ้างว่าอาคารพิพาทชำรุดบกพร่อง ดังนี้ ที่ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดียึดทรัพย์โจทก์ชำระค่าที่ดิน และอาคารพิพาทตามคำขอของจำเลยนั้นเป็นการไม่ชอบ และเมื่ออาคารพิพาทยังไม่ปลอดจำนอง จึงมีเหตุสมควรงดการบังคับคดีไว้ก่อน(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16/2521)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1716/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: สิทธิและหน้าที่ในการชำระหนี้และการโอนทรัพย์สินต้องควบคู่กันไป
ข้อตกลงให้จำเลยชำระเงินตามเวลาที่กำหนด โจทก์จะโอนที่ดินแก่จำเลย แต่ไม่ได้กำหนดว่าโจทก์จะโอนที่ดินแก่จำเลยเมื่อใด ดังนี้ โจทก์ต้องโอนที่ดินแก่จำเลยตอบแทนในคราวเดียวกันโดยปลอดภาระติดพันด้วย เมื่อศาลอุทธรณ์อนุญาตให้จำเลยวางเงินได้ภายใน 7 วันนับแต่วันมีคำสั่ง และเป็นหน้าที่ศาลชั้นต้นพิจารณาสั่งการบังคับคดี แต่ศาลชั้นต้นไม่กำหนดวิธีการบังคับคดี ก็ไม่ถือว่าจำเลยที่ 3 ผิดนัด จะถือกำหนดวันที่จำเลยที่ 3 ต้องวางเงินตามข้อตกลงเดิมไม่ได้ ศาลให้จำเลยนำเช็คของธนาคารมาวางศาลใน7 วัน นับแต่ฟังคำพิพากษา ให้โจทก์โอนที่ดินแก่จำเลยโดยปลอดภาระติดพัน แล้วให้โจทก์รับเช็คไปจากศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1611/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสัญญาขายลดเช็ค: สัญญาต่างตอบแทน อายุความ 10 ปี เริ่มนับใหม่เมื่อมีหนังสือรับสภาพหนี้
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ได้ทำหนังสือสัญญารับสภาพหนี้และรับใช้หนี้ให้ไว้กับโจทก์ โดยยอมรับว่า ตามที่จำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาขายลดเช็คไว้กับโจทก์ 10 ฉบับ และตั๋วสัญญาใช้เงินอีก 1 ฉบับ รวมยอดเงินหลังจากชำระหนี้บ้างแล้วคงเหลือเงินจำนวนหนึ่ง จำเลยขอผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์เป็นรายเดือน เดือนละ 20,000 บาท โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน เห็นได้ว่าโจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดในมูลหนี้ตามสัญญาขายลดเช็ค หาได้ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดในฐานะผู้สั่งจ่ายเช็คและผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือผู้สลักหลังเช็คหรือตั๋วสัญญาใช้เงินไม่ จำเลยที่ 1 ก็ให้การรับว่าได้ขายลดเช็คและตั๋วสัญญาใช้เงินจริง เท่ากับให้การรับว่าเป็นหนี้โจทก์ในมูลหนี้ตามสัญญาขายลดเช็คที่โจทก์นำมาฟ้อง
สัญญาขายลดเช็คเป็นสัญญาต่างตอบแทนประเภทหนึ่ง สิทธิเรียกร้องของโจทก์ตามสัญญาขายลดเช็ค ไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 คือมีกำหนดอายุความ 10 ปี สัญญารับสภาพหนี้ทำไว้เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2515 ซึ่งขณะนั้นสิทธิเรียกร้องตามสัญญาขายลดเช็คและตั๋วสัญญาใช้เงินยังไม่ขาดอายุความ จึงทำให้อายุความสะดุดหยุดลงเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันนั้น ถึงวันฟ้องยังไม่เกิน 10 ปี จึงยังไม่ขาดอายุความ
สัญญาขายลดเช็คเป็นสัญญาต่างตอบแทนประเภทหนึ่ง สิทธิเรียกร้องของโจทก์ตามสัญญาขายลดเช็ค ไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 คือมีกำหนดอายุความ 10 ปี สัญญารับสภาพหนี้ทำไว้เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2515 ซึ่งขณะนั้นสิทธิเรียกร้องตามสัญญาขายลดเช็คและตั๋วสัญญาใช้เงินยังไม่ขาดอายุความ จึงทำให้อายุความสะดุดหยุดลงเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันนั้น ถึงวันฟ้องยังไม่เกิน 10 ปี จึงยังไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1611/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสัญญาขายลดเช็ค: การรับสภาพหนี้ทำให้สะดุดอายุความ เริ่มนับใหม่
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ได้ทำหนังสือสัญญารับสภาพหนี้และรับใช้หนี้ให้ไว้กับโจทก์โดยยอมรับว่า ตามที่จำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาขายลดเช็คไว้กับโจทก์ 10 ฉบับ และตั๋วสัญญาใช้เงินอีก 1 ฉบับ รวมยอดเงินหลังจากชำระหนี้บ้างแล้วคงเหลือเงินจำนวนหนึ่ง จำเลยขอผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์เป็นรายเดือนเดือนละ 20,000 บาท โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน เห็นได้ว่าโจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดในมูลหนี้ตามสัญญาขายลดเช็ค หาได้ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดในฐานะผู้สั่งจ่ายเช็คและผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินหรือผู้สลักหลังเช็คหรือตั๋วสัญญาใช้เงินไม่ จำเลยที่ 1 ก็ให้การรับว่าได้ขายลดเช็คและตั๋วสัญญาใช้เงินจริงเท่ากับให้การรับว่าเป็นหนี้โจทก์ในมูลหนี้ตามสัญญาขายลดเช็คที่โจทก์นำมาฟ้อง
สัญญาขายลดเช็คเป็นสัญญาต่างตอบแทนประเภทหนึ่ง สิทธิเรียกร้องของโจทก์ตามสัญญาขายลดเช็คไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164คือมีกำหนดอายุความ 10 ปี สัญญารับสภาพหนี้ทำไว้เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2515 ซึ่งขณะนั้นสิทธิเรียกร้องตามสัญญาขายลดเช็คและตั๋วสัญญาใช้เงินยังไม่ขาดอายุความ จึงทำให้อายุความสะดุดหยุดลงเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันนั้น ถึงวันฟ้องยังไม่เกิน 10 ปี จึงยังไม่ขาดอายุความ
สัญญาขายลดเช็คเป็นสัญญาต่างตอบแทนประเภทหนึ่ง สิทธิเรียกร้องของโจทก์ตามสัญญาขายลดเช็คไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164คือมีกำหนดอายุความ 10 ปี สัญญารับสภาพหนี้ทำไว้เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2515 ซึ่งขณะนั้นสิทธิเรียกร้องตามสัญญาขายลดเช็คและตั๋วสัญญาใช้เงินยังไม่ขาดอายุความ จึงทำให้อายุความสะดุดหยุดลงเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันนั้น ถึงวันฟ้องยังไม่เกิน 10 ปี จึงยังไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 906/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งมอบห้องเช่าเดิมเป็นเงื่อนไขการเช่าใหม่ และอำนาจฟ้องคดีแย่งการครอบครอง
โจทก์ บรรยายฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้เช่าห้องไม้เดิมซึ่งถูกรื้อเพื่อสร้างแฟลตโจทก์จับสลากขอเช่าแฟลต ได้รับสิทธิเช่าแฟลตห้องพิพาทได้ย้ายทะเบียนบ้านเข้าเรียบร้อยแล้วแต่จำเลยที่ 1 กลับให้จำเลยที่ 2 เข้าอยู่ห้องพิพาททำให้โจทก์เข้าอยู่ไม่ได้ ฟ้องของโจทก์ได้แสดงโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหา ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้ว จึงไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
โจทก์เป็นผู้เช่าห้องไม้ซึ่งจะถูกรื้อจากจำเลยที่ 1 ได้อนุญาตให้จำเลยที่ 2 และครอบครัวเข้าไปอาศัยอยู่ร่วมด้วย ต่อมาเมื่อโจทก์จับสลากได้รับสิทธิเช่าแฟลตห้องพิพาทจำเลยที่ 1 กำหนดเงื่อนไขว่าโจทก์จะต้องส่งมอบห้องไม้คืนให้จำเลยที่ 1 ภายในกำหนดจึงจะมีสิทธิเช่าแต่โจทก์ไม่สามารถส่งมอบภายในกำหนด เนื่องจากจำเลยที่ 2 ไม่ยอมออกย่อมเป็นความผิดของโจทก์เอง หาใช่ความผิดของจำเลยที่ 1 ที่ไม่ขับไล่จำเลยที่ 2 ไม่ โจทก์จึงจะฟ้องบังคับให้จำเลยที่ 1 ยอมให้โจทก์เป็นผู้เช่าห้องพิพาทมิได้
จำเลยที่ 2 อยู่ในห้องพิพาทโดยอาศัยสิทธิของจำเลยที่ 1 โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยที่ 2 ละเมิด แย่งการครอบครองขอให้ขับไล่ แต่โจทก์ยังไม่เคยเข้าครอบครองห้องพิพาทจึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2
โจทก์เป็นผู้เช่าห้องไม้ซึ่งจะถูกรื้อจากจำเลยที่ 1 ได้อนุญาตให้จำเลยที่ 2 และครอบครัวเข้าไปอาศัยอยู่ร่วมด้วย ต่อมาเมื่อโจทก์จับสลากได้รับสิทธิเช่าแฟลตห้องพิพาทจำเลยที่ 1 กำหนดเงื่อนไขว่าโจทก์จะต้องส่งมอบห้องไม้คืนให้จำเลยที่ 1 ภายในกำหนดจึงจะมีสิทธิเช่าแต่โจทก์ไม่สามารถส่งมอบภายในกำหนด เนื่องจากจำเลยที่ 2 ไม่ยอมออกย่อมเป็นความผิดของโจทก์เอง หาใช่ความผิดของจำเลยที่ 1 ที่ไม่ขับไล่จำเลยที่ 2 ไม่ โจทก์จึงจะฟ้องบังคับให้จำเลยที่ 1 ยอมให้โจทก์เป็นผู้เช่าห้องพิพาทมิได้
จำเลยที่ 2 อยู่ในห้องพิพาทโดยอาศัยสิทธิของจำเลยที่ 1 โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยที่ 2 ละเมิด แย่งการครอบครองขอให้ขับไล่ แต่โจทก์ยังไม่เคยเข้าครอบครองห้องพิพาทจึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 633/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ไม่จดทะเบียนผูกพันเฉพาะคู่สัญญาเดิม ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ไม่ต้องผูกพันเกิน 3 ปี
เจ้าของที่ดินให้คนรับเหมาก่อสร้างตึกแถวยกให้เป็นของเจ้าของที่ดิน โดยผู้รับเหมาเรียกเงินช่วยค่าก่อสร้างแล้วเจ้าของที่ดินทำสัญญาให้เช่าตึกแถวโดยสัญญาเช่า 4 ฉบับ ฉบับละ 3 ปี สัญญาต่างตอบแทนนอกเหนือการเช่านี้เป็นบุคคลสิทธิ ผูกพันคู่สัญญาเท่านั้นเจ้าของที่ดินขายตึกแก่โจทก์สัญญาเช่าผูกพันโจทก์เพียง 3 ปี แม้โจทก์จะทราบข้อสัญญาระหว่างเจ้าของที่ดินกับผู้เช่าที่ออกเงินช่วยค่าก่อสร้างโจทก์ก็ขับไล่ผู้เช่าเมื่อพ้น 3 ปีแรกได้