พบผลลัพธ์ทั้งหมด 69 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 620/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับเรียกเงินและการสมรู้ร่วมคิด ตำรวจและราษฎรมีความผิดฐานต่างกัน
ตำรวจกับราษฎรจับคนมีสุราเถื่อนไปบังคับเรียกเอาเงินเขายอมให้เงินโดยถูกบังคับมิใช่ให้โดยสมัครใจ ตำรวจมีผิดตามมาตรา 136 ส่วนราษฎรมีผิดฐานสมรู้
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานตัวการ ได้ความว่าเป็นผิดเพียงฐานสมรู้ลงโทษได้
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานตัวการ ได้ความว่าเป็นผิดเพียงฐานสมรู้ลงโทษได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 460/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจการจับกุมและการยึดของกลางของตำรวจนอกเขตพื้นที่: ตำรวจมีอำนาจสืบสวนนอกเขตท้องที่
ตำรวจจับผู้กระทำผิด แล้วยึดของกลางไว้เป็นประโยชน์ส่วนตัว ไม่นำส่งเจ้าพนักงานสอบสวน แม้การจับนั้นอยู่นอกเขตต์ท้องที่ที่ตนประจำการ ก็คงมีความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่
(อ้างฎีกาที่ 140/2490)
(อ้างฎีกาที่ 140/2490)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 460/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตอำนาจหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนนอกเขตพื้นที่: การยึดของกลางเป็นเจ้าพนักงานทุจริต
ตำรวจจับผู้กระทำผิด แล้วยึดของกลางไว้เป็นประโยชน์ส่วนตัวไม่นำส่งเจ้าพนักงานสอบสวนแม้การจับนั้นอยู่นอกเขตท้องที่ที่ตนประจำการก็คงมีความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่(อ้างฎีกาที่ 140/2490)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 517/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานป่าไม้รับสินน้ำใจ ไม่ถือว่าเรียกเก็บภาษีอากร จึงไม่มีความผิดตาม ม.135
เจ้าพนักงานป่าไม้ออกใบอนุญาตไม้แปรรูปซึ่งเขาไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตโดยบุตร์เป็นผู้เขียนเขียนแล้วเรียกเงินจากเขาส่งให้จำเลยซึ่งเป็นบิดา จำเลยรับไว้เป็นสินน้ำใจดังนี้ ไม่มีผิดตาม ม.135
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 517/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับเงินเพื่อเอื้อประโยชน์ในการออกใบอนุญาตไม้แปรรูป ไม่ถึงขั้นผิดฐานเรียกรับผลประโยชน์
เจ้าพนักงานป่าไม้ออกใบอนุญาตไม้แปรรูปซึ่งเขาไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตโดยบุตรเป็นผู้เขียน เขียนแล้วเรียกเงินจากเขาส่งให้จำเลยซึ่งเป็นบิดา จำเลยรับไว้เป็นสินน้ำใจ ดังนี้ ไม่มีผิดตาม มาตรา 135
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 491/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องความผิดเจ้าพนักงานที่เรียกทรัพย์สินและรับสินน้ำใจ/สินบน ศาลต้องชี้ขาดความผิดตามข้อเท็จจริง
โจทก์บรรยายฟ้องตอนต้นว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจหน้าที่ทางทุจจริตบังคับให้เขาส่งทรัพย์ และในตอนหลังว่า จำเลยรับทรัพย์เหล่านั้นไว้เป็นสินบนหรือสินน้ำใจทางกฎหมายลักษณะอาญา ม.136,137,138 เป็นบทลงโทษดังนี้ ศาลฟังลงโทษตามที่บทพิจารณา ได้ความได้ไม่ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 491/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดเจ้าพนักงานใช้อำนาจเรียกทรัพย์สิน และรับสินน้ำใจ/สินบน ศาลชี้ขาดความผิดตามฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องตอนต้นว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจหน้าที่ทางทุจริตบังคับให้เขาส่งทรัพย์ และในตอนหลังว่า จำเลยรับทรัพย์เหล่านั้นไว้เป็นสินบนหรือสินน้ำใจอ้างกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 136, 137,138 เป็นบทลงโทษดังนี้ ศาลฟังลงโทษตามบทที่พิจารณาได้ความได้ ไม่ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตเป็นองค์ประกอบความผิดมาตรา 136-138 การอ้างไม่รู้กฎหมายใช้ไม่ได้หากยังไม่ครบองค์ความผิด
ความผิดตาม มาตรา 136,137,138 ผู้กระทำจะต้องมีเจตนาทุจริต
กำนันเรียกค่าเปรียบเทียบความโดยเข้าใจว่ามีสิทธิเรียกได้ดังนี้ ไม่มีความผิด
ปัญหาว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ข้อกฎหมายที่ไม่ยอมให้จำเลยยกเอาข้อที่ตัวไม่รู้กฎหมายมาเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิดนั้น จะใช้ยันจำเลยได้ต่อเมื่อจำเลยได้กระทำผิดครบองค์ความผิดอันต้องมีโทษตามกฎหมายทุกประการแล้ว
กำนันเรียกค่าเปรียบเทียบความโดยเข้าใจว่ามีสิทธิเรียกได้ดังนี้ ไม่มีความผิด
ปัญหาว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ข้อกฎหมายที่ไม่ยอมให้จำเลยยกเอาข้อที่ตัวไม่รู้กฎหมายมาเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิดนั้น จะใช้ยันจำเลยได้ต่อเมื่อจำเลยได้กระทำผิดครบองค์ความผิดอันต้องมีโทษตามกฎหมายทุกประการแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตเป็นองค์ประกอบความผิด ม.136-138 อาญา การอ้างไม่รู้กฎหมายใช้ไม่ได้เมื่อยังไม่ครบองค์ความผิด
ความผิดตาม ม.136,137,138 ผู้กระทำจะต้องมีเจตนาทุจริต
กำนันเรียกค่าเปรียบเทียบความโดยเข้าใจว่ามีสิทธิเรียกได้ดังนี้ ไม่มีความผิด
ปัญหาว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ข้อกฎหมายที่ไม่ยอมให้จำเลยยกเอาข้อที่ตัวไม่รู้กฎหมายมาเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิดนั้น จะใช้ยันจำเลยได้ต่อเมื่อจำเลยได้กระทำผิดครบองค์ความผิดอันต้องมีโทษตาม ก.ม.ทุกประการแล้ว
กำนันเรียกค่าเปรียบเทียบความโดยเข้าใจว่ามีสิทธิเรียกได้ดังนี้ ไม่มีความผิด
ปัญหาว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ข้อกฎหมายที่ไม่ยอมให้จำเลยยกเอาข้อที่ตัวไม่รู้กฎหมายมาเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิดนั้น จะใช้ยันจำเลยได้ต่อเมื่อจำเลยได้กระทำผิดครบองค์ความผิดอันต้องมีโทษตาม ก.ม.ทุกประการแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 690/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดกับเจ้าพนักงาน: ศาลลงโทษได้ตามฐานความผิดที่พิจารณาได้จริง
จำเลยที่เป็นราษฎรทำการอุดหนุนแก่จำเลยที่เป็นเจ้าพนักงานตำรวจกระทำความผิดตาม มาตรา 136 นั้นย่อมมีความผิดฐานเป็นผู้สมรู้ด้วยเจ้าพนักงาน ฟ้องที่กล่าวว่าจำเลยเป็นตัวการกระทำผิด แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเป็นผิดแต่เพียงฐานสมรู้นั้นศาลลงโทษได้ไม่นอกคำขอ