พบผลลัพธ์ทั้งหมด 45 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 500/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ปลัดอำเภอเรียกสินบนจากผู้กระทำผิด พ.ร.บ.สาธารณสุข: ความผิดฐานรับสินบน
ปลัดอำเภอประจำตำบลมีอำนาจจับกุมผู้กระทำผิด พระราชบัญญัติสาธารณสุข ถ้าไปเรียกเงินจากผู้กระทำผิด ก็มีผิดฐานเรียกสินบน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 140/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจตำรวจนอกเขต – การเรียกสินบน: ตำรวจมีอำนาจจับกุมนอกเขตพื้นที่ และการเรียกสินบนเป็นความผิด
ตำรวจมีอำนาจจับกุมผู้กระทำผิดอาญา ซึ่งตนไปนอกเขตต์ที่ตนประจำการอยู่ได้และเมื่อเรียกสินบนจากผู้กระทำผิดนั้น ก็ต้องเป็นผิดฐานเจ้าพนักงานเรียกสินบน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 140/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจตำรวจนอกเขต – การเรียกสินบน – ความผิดเจ้าพนักงาน
ตำรวจมีอำนาจจับกุมผู้กระทำผิดอาญา ซึ่งตนไปนอกเขตที่ตนประจำการอยู่ได้ และเมื่อเรียกสินบนจากผู้กระทำผิดนั้นก็ต้องเป็นผิดฐานเจ้าพนักงานเรียกสินบน (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2489)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 522/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมรู้ร่วมคิดรับสินบน เจ้าพนักงานออกบัตรโดยมิชอบ และความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 2 สมคบกับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ออกบัตรให้กรรมกรหยุดงานได้โดยมิได้กล่าวในฟ้องด้วยว่า จำเลยที่ 2 มีอำนาจออกบัตรนั้นด้วย ดังนี้ศาลก็คงลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานสมรู้กับจำเลยที่ 1 ได้
ฟ้องตอนแรกบรรยายว่าจำเลยรับเงินไว้เป็นสินน้ำใจตอนหลังว่าเป็นสินบน ดังนี้ไม่ใช่ฟ้องเคลือบคลุม
เมื่อได้ความว่า จำเลยมีอำนาจออกบัตรให้กรรมกรหยุดงานเพราะป่วยได้แล้ว แม้ปรากฏว่าจำเลยได้ทำเตรียมบัตรนั้นไว้ก่อนได้รับมอบตัวกรรมกรก็ตาม จำเลยก็ต้องมีความผิดฐานปลอมหนังสือในตำแหน่งหน้าที่ราชการ
ศาลอุทธรณ์มีความเห็นแย้ง แต่มิได้อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ดังนี้จำเลยฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
ฟ้องตอนแรกบรรยายว่าจำเลยรับเงินไว้เป็นสินน้ำใจตอนหลังว่าเป็นสินบน ดังนี้ไม่ใช่ฟ้องเคลือบคลุม
เมื่อได้ความว่า จำเลยมีอำนาจออกบัตรให้กรรมกรหยุดงานเพราะป่วยได้แล้ว แม้ปรากฏว่าจำเลยได้ทำเตรียมบัตรนั้นไว้ก่อนได้รับมอบตัวกรรมกรก็ตาม จำเลยก็ต้องมีความผิดฐานปลอมหนังสือในตำแหน่งหน้าที่ราชการ
ศาลอุทธรณ์มีความเห็นแย้ง แต่มิได้อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ดังนี้จำเลยฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 522/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบกันเรียกรับสินบนและปลอมแปลงเอกสารราชการ โดยจำเลยมีหน้าที่ออกบัตรอนุญาต
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 2 สมคบกับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ออกบัตร์ให้กรรมกรหยุดงานได้โดยมิได้กล่าวในฟ้องด้วยว่า จำเลยที่ 2 มีอำนาจออกบัตร์นั้นด้วย ดังนี้ศาลก็คงลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานสมรู้กับจำเลยที่ 1 ได้
ฟ้องตอนแรกบรรยายว่าจำเลยรับเงินไว้เป็นสินน้ำใจ ตอนหลังว่าเป็นสินบน ดังนี้ไม่ใช่ฟ้องเคลือบคลุม
เมื่อได้ความว่า จำเลยมีอำนาจออกบัตร์ให้กรรมกรหยุดงานเพราะป่วยได้แล้ว แม้ปรากฏว่าจำเลยได้ทำเตรียมบัตร์นั้นไว้ก่อนได้รับมอบตัวกรรมกรก็ตาม จำเลยก็ต้องมีความผิดฐานปลอมหนังสือในตำแหน่งหน้าที่ราชการ
ศาลอุทธรณ์มีความเห็นแย้ง แต่มิได้อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ดังนี้จำเลยฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
ฟ้องตอนแรกบรรยายว่าจำเลยรับเงินไว้เป็นสินน้ำใจ ตอนหลังว่าเป็นสินบน ดังนี้ไม่ใช่ฟ้องเคลือบคลุม
เมื่อได้ความว่า จำเลยมีอำนาจออกบัตร์ให้กรรมกรหยุดงานเพราะป่วยได้แล้ว แม้ปรากฏว่าจำเลยได้ทำเตรียมบัตร์นั้นไว้ก่อนได้รับมอบตัวกรรมกรก็ตาม จำเลยก็ต้องมีความผิดฐานปลอมหนังสือในตำแหน่งหน้าที่ราชการ
ศาลอุทธรณ์มีความเห็นแย้ง แต่มิได้อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ดังนี้จำเลยฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 491/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องความผิดเจ้าพนักงานที่เรียกทรัพย์สินและรับสินน้ำใจ/สินบน ศาลต้องชี้ขาดความผิดตามข้อเท็จจริง
โจทก์บรรยายฟ้องตอนต้นว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจหน้าที่ทางทุจจริตบังคับให้เขาส่งทรัพย์ และในตอนหลังว่า จำเลยรับทรัพย์เหล่านั้นไว้เป็นสินบนหรือสินน้ำใจทางกฎหมายลักษณะอาญา ม.136,137,138 เป็นบทลงโทษดังนี้ ศาลฟังลงโทษตามที่บทพิจารณา ได้ความได้ไม่ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 491/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดเจ้าพนักงานใช้อำนาจเรียกทรัพย์สิน และรับสินน้ำใจ/สินบน ศาลชี้ขาดความผิดตามฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องตอนต้นว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจหน้าที่ทางทุจริตบังคับให้เขาส่งทรัพย์ และในตอนหลังว่า จำเลยรับทรัพย์เหล่านั้นไว้เป็นสินบนหรือสินน้ำใจอ้างกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 136, 137,138 เป็นบทลงโทษดังนี้ ศาลฟังลงโทษตามบทที่พิจารณาได้ความได้ ไม่ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตเป็นองค์ประกอบความผิด ม.136-138 อาญา การอ้างไม่รู้กฎหมายใช้ไม่ได้เมื่อยังไม่ครบองค์ความผิด
ความผิดตาม ม.136,137,138 ผู้กระทำจะต้องมีเจตนาทุจริต
กำนันเรียกค่าเปรียบเทียบความโดยเข้าใจว่ามีสิทธิเรียกได้ดังนี้ ไม่มีความผิด
ปัญหาว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ข้อกฎหมายที่ไม่ยอมให้จำเลยยกเอาข้อที่ตัวไม่รู้กฎหมายมาเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิดนั้น จะใช้ยันจำเลยได้ต่อเมื่อจำเลยได้กระทำผิดครบองค์ความผิดอันต้องมีโทษตาม ก.ม.ทุกประการแล้ว
กำนันเรียกค่าเปรียบเทียบความโดยเข้าใจว่ามีสิทธิเรียกได้ดังนี้ ไม่มีความผิด
ปัญหาว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ข้อกฎหมายที่ไม่ยอมให้จำเลยยกเอาข้อที่ตัวไม่รู้กฎหมายมาเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิดนั้น จะใช้ยันจำเลยได้ต่อเมื่อจำเลยได้กระทำผิดครบองค์ความผิดอันต้องมีโทษตาม ก.ม.ทุกประการแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตเป็นองค์ประกอบความผิดมาตรา 136-138 การอ้างไม่รู้กฎหมายใช้ไม่ได้หากยังไม่ครบองค์ความผิด
ความผิดตาม มาตรา 136,137,138 ผู้กระทำจะต้องมีเจตนาทุจริต
กำนันเรียกค่าเปรียบเทียบความโดยเข้าใจว่ามีสิทธิเรียกได้ดังนี้ ไม่มีความผิด
ปัญหาว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ข้อกฎหมายที่ไม่ยอมให้จำเลยยกเอาข้อที่ตัวไม่รู้กฎหมายมาเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิดนั้น จะใช้ยันจำเลยได้ต่อเมื่อจำเลยได้กระทำผิดครบองค์ความผิดอันต้องมีโทษตามกฎหมายทุกประการแล้ว
กำนันเรียกค่าเปรียบเทียบความโดยเข้าใจว่ามีสิทธิเรียกได้ดังนี้ ไม่มีความผิด
ปัญหาว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ข้อกฎหมายที่ไม่ยอมให้จำเลยยกเอาข้อที่ตัวไม่รู้กฎหมายมาเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิดนั้น จะใช้ยันจำเลยได้ต่อเมื่อจำเลยได้กระทำผิดครบองค์ความผิดอันต้องมีโทษตามกฎหมายทุกประการแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 471/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขรก.ใช้อำนาจหน้าที่ทุจริต รับสินบนจากผู้กระทำผิดกฎหมายเหมืองแร่และการเข้าเมือง
ปลัดอำเภอกระทำความผิดตาม ก.ม.อาญา ม.142 ไม่ได้แต่กระทำความผิดตาม ม.138,และ 146 ได้