พบผลลัพธ์ทั้งหมด 27 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 883/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดำรงชีพจากอาชีพอื่น แม้ได้รับเงินจากผู้ค้าประเวณี ไม่ถือเป็นความผิดตามประมวลอาญามาตรา 286
จำเลยมีรายได้จากการค้าและทำไร่พอดำรงชีพ แม้จะได้รับเงินส่วนแบ่งจากหญิงซึ่งค้าประเวณีจำเลยก็ไม่มีความผิดตาม ประมวลอาญา มาตรา 286
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2555/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดำรงชีพจากรายได้จากการค้าประเวณี: ไม่ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 286 หากมีรายได้อื่นเพียงพอ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยดำรงชีพอยู่ด้วยผลจากรายได้ของหญิงซึ่งค้าประเวณี โดยไม่มีปัจจัยอย่างอื่นอันปรากฏสำหรับดำรงชีพ และไม่มีปัจจัยเพียงพอสำหรับดำรงชีพ ได้บังอาจรับเงินโดยหญิงซึ่งค้าประเวณีเป็นผู้จัดให้ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 286วรรคสอง เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยมีรายได้จากการรับจ้างซ่อมวิทยุและโทรทัศน์และจากค่าเช่าบ้าน ไม่ปรากฏว่ารายได้ดังกล่าวไม่เพียงพอสำหรับดำรงชีพ ถึงจำเลยจะได้รับเงินส่วนแบ่งจากหญิงซึ่งค้าประเวณีก็ตาม ก็ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 286
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1488/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของสถานการค้าประเวณีไม่ผิด ม.286 หากมีรายได้จากอาชีพอื่นเพียงพอต่อการดำรงชีพ
จำเลยเป็นเจ้าของสถานการค้าประเวณีไม่ได้รับอนุญาต โดยจำเลยเป็นผู้ดำเนินการเองมีหญิงซึ่งค้าประเวณีอาศัยอยู่กินกับจำเลยหลายคน เงินที่ได้จากการค้าประเวณีของหญิงเหล่านี้จำเลยได้รับส่วนแบ่งครึ่งหนึ่ง แต่เมื่อฟังได้ว่าจำเลยค้าขายเสื้อสำเร็จรูป แสดงว่าจำเลยมีรายได้จากการค้าขาย และไม่ปรากฏว่ารายได้ดังกล่าว ไม่เพียงพอสำหรับดำรงชีพ แม้จำเลยจะได้รับเงินส่วนแบ่งจากหญิงซึ่งค้าประเวณี จำเลยก็ไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 286
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำในกรรมเดียวกัน ศาลชอบที่จะยกฟ้องเมื่อมีคำพิพากษาลงโทษแล้ว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยดำรงชีพอยู่ด้วยรายได้ของหญิงในการค้าประเวณีสำนวนหนึ่งและในวันเดียวกันโจทก์ยังฟ้องจำเลยเกี่ยวกับการกระทำผิดอันเดียวกันเป็นอีกสำนวนหนึ่งว่าจำเลยเป็นผู้จัดการสถานการค้าประเวณีโดยมิได้ขอให้พิจารณา คดีรวมกันเห็นได้ว่าเป็นการฟ้องขอให้ลงโทษในกรรมเดียวซ้ำกัน 2 ครั้งข้อหาในอีกสำนวนหนึ่งนั้นย่อมหมายความว่าจำเลยมีรายได้จากสินจ้างซึ่งได้รับจากลูกค้าของสถานการค้าประเวณี แล้วจำเลยแบ่งรายได้นั้นให้แก่หญิงที่ค้าประเวณีแต่ข้อหาในสำนวนนี้ว่าจำเลยดำรงชีพอยู่จากรายได้ของหญิงที่ค้าประเวณีในสถานที่แห่งเดียวกัน เมื่อในคดีอีกสำนวนหนึ่งนั้นจำเลยรับสารภาพข้อเท็จจริงฟังได้ตามฟ้อง และศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยแล้วจึงชอบที่ศาลจะยกฟ้องคดีสำนวนนี้เสีย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำในความผิดกรรมเดียว ศาลมีอำนาจยกฟ้องได้เมื่อศาลได้พิพากษาลงโทษแล้ว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยดำรงชีพอยู่ด้วยรายได้ของหญิงในการค้าประเวณีสำนวนหนึ่งและในวันเดียวกันโจทก์ยังฟ้องจำเลยเกี่ยวกับการกระทำผิดอันเดียวกันเป็นอีกสำนวนหนึ่งว่าจำเลยเป็นผู้จัดการสถานการค้าประเวณีโดยมิได้ขอให้พิจารณาคดีรวมกันเห็นได้ว่าเป็นการฟ้องขอให้ลงโทษในกรรมเดียวซ้ำกัน 2 ครั้งข้อหาในอีกสำนวนหนึ่งนั้นย่อมหมายความว่าจำเลยมีรายได้จากสินจ้างซึ่งได้รับจากลูกค้าของสถานการค้าประเวณี แล้วจำเลยแบ่งรายได้นั้นให้แก่หญิงที่ค้าประเวณีแต่ข้อหาในสำนวนนี้ว่าจำเลยดำรงชีพอยู่จากรายได้ของหญิงที่ค้าประเวณีในสถานที่แห่งเดียวกัน เมื่อในคดีอีกสำนวนหนึ่งนั้นจำเลยรับสารภาพข้อเท็จจริงฟังได้ตามฟ้อง และศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยแล้วจึงชอบที่ศาลจะยกฟ้องคดีสำนวนนี้เสีย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 783/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีลักทรัพย์/ฉ้อโกง: พยานหลักฐานไม่พอฟังลงโทษ จำเลยชนะทั้งสามศาล
สาลชั้นต้นพิพากสายกฟ้องโจทโดยวินิฉัยไนข้อกดหมาย สาลอุธรน์ฟังข้อเท็ดจิงแล้วพิพากสายกฟ้องโดยยืนตามสาลชั้นต้น โจทดีกาไนปัญหาข้อเท็ดจิงได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2484
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำขอให้ประกาศคำพิพากษาต้องยื่นก่อนศาลพิพากษา การร้องภายหลังเป็นการแก้ไขคำพิพากษา
ขอให้ศาลประกาศคำพิพากษาในข้อที่จำเลยหมิ่นประมาทโจทก์ ต้องขอเสียก่อนศาลพิพากษา จะร้องภายหลังไม่ได้เพราะจะเป็นการแก้ไขคำพิพากษา