คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 185

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 761 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3266/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วม พยายามฆ่า: การกระทำเพื่อขัดขวางการช่วยเหลือผู้ถูกทำร้าย ย่อมถือเป็นเจตนาในการร่วมกระทำผิด
จำเลยทั้งสองกับพวกมีเจตนาจะร่วมกันทำร้าย พ. เมื่อจำเลยที่ 1 ชกต่อยและใช้มีดพกปลายแหลมแทง พ.โดยเจตนาฆ่าแล้ว ป.จะเข้าช่วยเหลือ พ. จำเลยที่ 2 ซึ่งตามจำเลยที่ 1 เข้าไปอย่างใกล้ชิดได้ใช้เก้าอี้ไม้ตี ป.เพื่อมิให้เข้าช่วย พ.ทันที แล้วจำเลยทั้งสองกับพวกพากันหลบหนีไป ย่อมเล็งเห็นเจตนาของจำเลยที่ 2 ได้ว่าร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำความผิด จำเลยที่ 2 จึงเป็นตัวการในการที่จำเลยที่ 1 พยายามฆ่า พ.ด้วย แต่จำเลยที่ 2 มิได้เป็นคนแทง พ. จึงสมควรลงโทษลดหลั่นจากโทษที่ลงแก่จำเลยที่ 1

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3266/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วม พยายามฆ่า: การกระทำต่อเนื่องเพื่อขัดขวางการช่วยเหลือบ่งชี้เจตนา
จำเลยทั้งสองกับพวกมีเจตนาจะร่วมกันทำร้าย พ. เมื่อจำเลยที่ 1 ชกต่อยและใช้มีดพกปลายแหลมแทง พ.โดยเจตนาฆ่าแล้ว ป.จะเข้าช่วยเหลือ พ. จำเลยที่ 2 ซึ่งตามจำเลยที่ 1 เข้าไปอย่างใกล้ชิดได้ใช้เก้าอี้ไม้ตี ป.เพื่อมิให้เข้าช่วย พ.ทันที แล้วจำเลยทั้งสองกับพวกพากันหลบหนีไป ย่อมเล็งเห็นเจตนาของจำเลยที่ 2 ได้ว่าร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำความผิด จำเลยที่ 2 จึงเป็นตัวการในการที่จำเลยที่ 1 พยายามฆ่า พ.ด้วยแต่จำเลยที่2มิได้เป็นคนแทงพ. จึงสมควรลงโทษลดหลั่นจากโทษที่ลงแก่จำเลยที่ 1

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3065/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานไม่พอฟังลงโทษจำเลย โจทก์ต้องพิสูจน์ความผิดด้วยตนเอง
คำให้การของพยานในชั้นสอบสวนเป็นพยานบอกเล่า รับฟังได้แต่เพียงเป็นพยานประกอบคำเบิกความของพยานในชั้นศาล เมื่อคำเบิกความของพยานโจทก์ในชั้นศาลไม่มีผู้ใดรู้เห็นว่าจำเลยกระทำผิด ลำพังแต่บันทึกการจับกุมและคำให้การชั้นสอบสวนไม่พอฟังลงโทษจำเลยได้
ในคดีอาญา โจทก์มีภาระหน้าที่ต้องนำพยานหลักฐานมาสืบพิสูจน์ให้เห็นถึงความผิดของจำเลย เมื่อโจทก์นำสืบไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิด แม้จำเลยจะไม่สืบพยานก็ลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3065/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานไม่เพียงพอฟังลงโทษจำเลย โจทก์มีภาระนำสืบพยานหลักฐานพิสูจน์ความผิด
คำให้การของพยานในชั้นสอบสวนเป็นพยานบอกเล่า รับฟังได้แต่เพียงเป็นพยานประกอบคำเบิกความของพยานในชั้นศาลเมื่อคำเบิกความของพยานโจทก์ในชั้นศาลไม่มีผู้ใดรู้เห็นว่าจำเลยกระทำผิด ลำพังแต่บันทึกการจับกุมและคำให้การชั้นสอบสวนไม่พอฟังลงโทษจำเลยได้
ในคดีอาญา โจทก์มีภาระหน้าที่ต้องนำพยานหลักฐานมาสืบพิสูจน์ให้เห็นถึงความผิดของจำเลย เมื่อโจทก์นำสืบไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิด แม้จำเลยจะไม่สืบพยานก็ลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความน่าเชื่อถือพยาน การเบิกความไม่ตรงกันในชั้นสอบสวนและศาล ศาลฎีกาพิจารณาจากเหตุผลประกอบ
ประจักษ์พยานโจทก์ให้การในชั้นสอบสวนยืนยันว่าจำเลยเป็นคนร้าย ทั้งเมื่อพนักงานสอบสวนนำตัวจำเลยมาให้พยานดูตัว พยานก็ยืนยันอีกว่าจำเลยเป็นคนร้ายและลงชื่อไว้ในบันทึกการจับกุม แต่มาชั้นศาล พยานกลับเบิกความบ่ายเบี่ยงไปว่า ตอนพนักงานสอบสวนนำตัวจำเลยมาให้ดูนั้น พยานดูแล้วบอกพนักงานสอบสวนว่า จำเลยคล้าย ๆ คนร้าย เห็นได้ชัดว่าพยานเบิกความชั้นศาลเพื่อช่วยเหลือจำเลย คำเบิกความของพยานในชั้นศาลน่าจะไม่เป็นความจริง ส่วนคำยืนยันและคำให้การชั้นสอบสวนของพยานนั้นโจทก์มีพนักงานสอบสวนมาเบิกความยืนยันว่า ชั้นสอบสวนพยานได้ยืนยันและให้การดังกล่าว น่าจะเป็นความจริงและรับฟังได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความน่าเชื่อถือพยานหลักฐาน: การเบิกความไม่ตรงกันในชั้นสอบสวนและชั้นศาล
ประจักษ์พยานโจทก์ให้การในชั้นสอบสวนยืนยันว่าจำเลยเป็นคนร้าย ทั้งเมื่อพนักงานสอบสวนนำตัวจำเลยมาให้พยานดูตัวพยานก็ยืนยันอีกว่าจำเลยเป็นคนร้ายและลงชื่อไว้ในบันทึกการจับกุมแต่มาชั้นศาล พยานกลับเบิกความบ่ายเบี่ยงไปว่าตอนพนักงานสอบสวนนำตัวจำเลยมาให้ดูนั้น พยานดูแล้วบอกพนักงานสอบสวนว่า จำเลยคล้ายๆคนร้าย เห็นได้ชัดว่าพยานเบิกความชั้นศาลเพื่อช่วยเหลือจำเลย คำเบิกความของพยานในชั้นศาลน่าจะไม่เป็นความจริง ส่วนคำยืนยันและคำให้การชั้นสอบสวนของพยานนั้น โจทก์มีพนักงานสอบสวนมาเบิกความยืนยันว่า ชั้นสอบสวนพยานได้ยืนยันและให้การดังกล่าวน่าจะเป็นความจริงและรับฟังได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1988/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเรียงกระทงความผิดฐานมีสุราและเครื่องมือทำสุรา โดยพิจารณาจากกรรมต่างกันและความถูกต้องของอัตราโทษ
ความผิดฐานมีภาชนะสำหรับทำสุราแช่กับความผิดฐานมีภาชนะและเครื่องกลั่นสำหรับทำสุรากลั่นนั้น โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดหลายกรรมต่างกันของกลางก็คนละส่วน ทั้งสภาพของความผิดก็สามารถแยกออกเป็นต่างกรรมกันได้ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพย่อมต้องฟังว่าจำเลยกระทำผิดหลายกรรมและต้องเรียงกระทงลงโทษ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ลงโทษปรับจำเลยฐานทำสุราแช่ 360 บาท นั้นเป็นการเกินอัตราโทษที่กฎหมายกำหนดไว้ให้ปรับไม่เกิน 200 บาทศาลฎีกาจึงต้องแก้เสียให้เป็นการถูกต้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1988/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเรียงกระทงลงโทษความผิดฐานทำและมีสุราแช่/กลั่น และการแก้ไขโทษปรับที่ไม่ถูกต้อง
ความผิดฐานมีภาชนะสำหรับทำสุราแช่กับความผิดฐานมีภาชนะและเครื่องกลั่นสำหรับทำสุรากลั่นนั้น โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดหลายกรรมต่างกันของกลางก็คนละส่วน ทั้งสภาพของความผิดก็สามารถแยกออกเป็นต่างกรรมกันได้ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพย่อมต้องฟังว่าจำเลยกระทำผิดหลายกรรมและต้องเรียงกระทงลงโทษ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ลงโทษปรับจำเลยฐานทำสุราแช่ 360 บาทนั้นเป็นการเกินอัตราโทษที่กฎหมายกำหนดไว้ให้ปรับไม่เกิน 200 บาท ศาลฎีกาจึงต้องแก้เสียให้เป็นการถูกต้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1724/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลอุทธรณ์วินิจฉัยแม้ข้อหาบางส่วนต้องห้ามอุทธรณ์ และการพิจารณาพิพากษาคดีอาญา
แม้ข้อหามีกล้องสูบฝิ่นจะต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193ทวิแต่จำเลยอุทธรณ์รวมมากับข้อหาที่ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีอำนาจวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 185 และเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3516/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมความในคดีอาญา: ผลกระทบต่อการฟ้องคดี และการพิจารณาความผิดหลายบท
ในคดีความผิดอันยอมความกันได้ ผู้เสียหายแถลงต่อศาลชั้นต้นว่าได้ทำสัญญาประนีประนอม โดยได้รับชดใช้ค่าเสียหายจากจำเลย จนเป็นที่พอใจแล้ว จึงไม่ติดใจเอาความแก่จำเลยทั้งหมด และจำเลยทั้งสี่กับผู้เสียหายได้ลงชื่อไว้ในท้ายรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้น แสดงว่าผู้เสียหายและจำเลยได้ยอมความกันถูกต้องตามกฎหมายแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 272, 273 ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 273 ซึ่งเป็นบทหนักเมื่อปรากฏว่าความผิดตามมาตรา 272 เป็นความผิดอันยอมความได้และได้มีการยอมความกันโดยถูกต้องจนสิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไปแล้วศาลฎีกาย่อมพิพากษาแก้ให้ยกฟ้องในความผิดตามมาตรา 272 คงให้ลงโทษตามมาตรา 273 เท่านั้น
of 77