พบผลลัพธ์ทั้งหมด 761 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3516/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมความในคดีอาญา ความผิดอันยอมความได้ สิทธิในการฟ้องระงับ
ในคดีความผิดอันยอมความกันได้ ผู้เสียหายแถลงต่อศาลชั้นต้นว่าได้ทำสัญญาประนีประนอม โดยได้รับชดใช้ค่าเสียหายจากจำเลย จนเป็นที่พอใจแล้ว จึงไม่ติดใจเอาความแก่จำเลยทั้งหมด และจำเลยทั้งสี่กับผู้เสียหายได้ลงชื่อไว้ในท้ายรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นแสดงว่าผู้เสียหายและจำเลยได้ยอมความกันถูกต้องตามกฎหมายแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272, 273 ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 273 ซึ่งเป็นบทหนักเมื่อปรากฏว่าความผิดตามมาตรา 272 เป็นความผิดอันยอมความได้ และได้มีการยอมความกันโดยถูกต้องจนสิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไปแล้วศาลฎีกาย่อมพิพากษาแก้ให้ยกฟ้องในความผิดตามมาตรา 272 คงให้ลงโทษตามมาตรา 273 เท่านั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272, 273 ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 273 ซึ่งเป็นบทหนักเมื่อปรากฏว่าความผิดตามมาตรา 272 เป็นความผิดอันยอมความได้ และได้มีการยอมความกันโดยถูกต้องจนสิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไปแล้วศาลฎีกาย่อมพิพากษาแก้ให้ยกฟ้องในความผิดตามมาตรา 272 คงให้ลงโทษตามมาตรา 273 เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2778/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่การพิสูจน์ของโจทก์ในคดีอาวุธปืนและการงดลงโทษเมื่อพยานหลักฐานไม่เพียงพอ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืนที่ไม่มีเครื่องหมายทะเบียนของพนักงานเจ้าหน้าที่และกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนและกระสุนปืนไปในทางสาธารณะเข้าหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต และใช้อาวุธปืนและกระสุนปืนดังกล่าวยิงพยายามฆ่าผู้อื่นจำเลยให้การปฏิเสธเมื่อจับจำเลยได้ก็ไม่ได้อาวุธปืนและกระสุนปืนเป็นของกลางดังนี้ โจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบว่าอาวุธปืนที่จำเลยถือมาในที่เกิดเหตุนั้นเป็นปืนไม่มีทะเบียนและจำเลยไม่มีใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนนั้น เมื่อโจทก์ไม่นำสืบให้ได้ความดังกล่าวจึงลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนโดยไม่รับอนุญาตไม่ได้ (อ้างฎีกาที่795/2504)
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ในข้อหาจำเลยพาอาวุธปืนและกระสุนปืนติดตัวไปในทางสาธารณะและในหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อโจทก์ไม่อุทธรณ์ในข้อหานี้ข้อหาดังกล่าวจึงถึงที่สุดแล้ว ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาลงโทษจำเลยในข้อหานี้ไม่ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ในข้อหาจำเลยพาอาวุธปืนและกระสุนปืนติดตัวไปในทางสาธารณะและในหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อโจทก์ไม่อุทธรณ์ในข้อหานี้ข้อหาดังกล่าวจึงถึงที่สุดแล้ว ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาลงโทษจำเลยในข้อหานี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2778/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่นำสืบอาวุธปืนไม่มีทะเบียน-ใบอนุญาต & ศาลอุทธรณ์ลงโทษซ้ำข้อหาที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องไม่ได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืนที่ไม่มีเครื่องหมายทะเบียนของพนักงานเจ้าหน้าที่และกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนและกระสุนปืนไปในทางสาธารณะเข้าหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต และใช้อาวุธปืนและกระสุนปืนดังกล่าวยิงพยายามฆ่าผู้อื่นจำเลยให้การปฏิเสธเมื่อจับจำเลยได้ก็ไม่ได้อาวุธปืนและกระสุนปืนเป็นของกลางดังนี้ โจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบว่าอาวุธปืนที่จำเลยถือมาในที่เกิดเหตุนั้นเป็นปืนไม่มีทะเบียนและจำเลยไม่มีใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนนั้น เมื่อโจทก์ไม่นำสืบให้ได้ความดังกล่าวจึงลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนโดยไม่รับอนุญาตไม่ได้(อ้างฎีกาที่795/2504)
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ในข้อหาจำเลยพาอาวุธปืนและกระสุนปืนติดตัวไปในทางสาธารณะและในหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อโจทก์ไม่อุทธรณ์ในข้อหานี้ข้อหาดังกล่าวจึงถึงที่สุดแล้ว ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาลงโทษจำเลยในข้อหานี้ไม่ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ในข้อหาจำเลยพาอาวุธปืนและกระสุนปืนติดตัวไปในทางสาธารณะและในหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อโจทก์ไม่อุทธรณ์ในข้อหานี้ข้อหาดังกล่าวจึงถึงที่สุดแล้ว ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาลงโทษจำเลยในข้อหานี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2358/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานที่ไม่มาเบิกความในศาล และการพิสูจน์ความผิดอาญาจากหลักฐานที่ไม่เพียงพอ
ว. ประจักษ์พยานของโจทก์เป็นชาวญวนอพยพไปอยู่ในประเทศที่สาม ไม่ได้มาเบิกความในศาล จึงรับฟังคำให้การชั้นสอบสวนของ ว.ไม่ได้ เพราะการพิจารณาและสืบพยานในศาลต้องทำโดยเปิดเผยต่อหน้าจำเลย เว้นแต่ที่บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172
จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวน แต่ให้การปฏิเสธในชั้นพิจารณาโจทก์ต้องสืบให้เห็นว่าจำเลยกระทำผิดดังฟ้อง เมื่อพยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมาไม่พอฟังว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิด ก็ต้องยกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 และ 227
จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวน แต่ให้การปฏิเสธในชั้นพิจารณาโจทก์ต้องสืบให้เห็นว่าจำเลยกระทำผิดดังฟ้อง เมื่อพยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมาไม่พอฟังว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิด ก็ต้องยกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 และ 227
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1745/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อส.มีอาวุธปืนประจำตัวเพื่อปฏิบัติหน้าที่ราชการ ไม่ถือมีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ
จำเลยเป็นสมาชิกอาสาสมัครรักษาดินแดน สังกัดกองร้อย อส.อำเภออรัญประเทศ ปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์รับผู้อพยพลี้ภัยชาวเขมร นายอำเภอได้จ่ายอาวุธปืนคาร์ไปน์ของกลางให้ประจำตัวจำเลย ปืนของกลางจึงเป็นอาวุธปืนของทางราชการที่จ่ายให้เป็นอาวุธปืนประจำตัวของจำเลยใช้ในราชการอาสาสมัครรักษาดินแดน จำเลยไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตไว้ในครอบครองตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ
ปัญหาตามวรรคแรกแม้จะไม่มีประเด็นมาสู่ศาลฎีกาโดยตรง แต่เป็นปัญหาที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้
ปัญหาตามวรรคแรกแม้จะไม่มีประเด็นมาสู่ศาลฎีกาโดยตรง แต่เป็นปัญหาที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1745/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อส.รักษาดินแดนมีอาวุธประจำตัว ปืนของราชการ ไม่ผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน
จำเลยเป็นสมาชิกอาสาสมัครรักษาดินแดน สังกัดกองร้อย อส.อำเภออรัญประเทศปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์รับผู้อพยพลี้ภัยชาวเขมร นายอำเภอได้จ่ายอาวุธปืนคาร์ไปน์ของกลางให้ประจำตัวจำเลย ปืนของกลางจึงเป็นอาวุธปืนของทางราชการที่จ่ายให้เป็นอาวุธปืนประจำตัวของจำเลยใช้ในราชการอาสาสมัครรักษาดินแดน จำเลยไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตไว้ในครอบครองตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ
ปัญหาตามวรรคแรกแม้จะไม่มีประเด็นมาสู่ศาลฎีกาโดยตรงแต่เป็นปัญหาที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้
ปัญหาตามวรรคแรกแม้จะไม่มีประเด็นมาสู่ศาลฎีกาโดยตรงแต่เป็นปัญหาที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1476/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพไม่ผูกพันศาล หากพยานหลักฐานฟังได้ว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิด ศาลสามารถพิพากษายกฟ้องได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 ที่แก้ไขใหม่ที่ว่า เมื่อจำเลยรับสารภาพตามฟ้อง ให้ศาลพิพากษาได้นั้น มิได้หมายความว่า เมื่อจำเลยรับสารภาพแล้วจะต้องพิพากษาลงโทษจำเลยเสมอไป เมื่อศาลเห็นว่าจำเลยมิได้กระทำผิดศาลย่อมพิพากษายกฟ้องได้ โดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1476/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยรับสารภาพ แต่ศาลยกฟ้องได้ หากพยานหลักฐานฟังได้ว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิดตามฟ้อง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 ที่แก้ไขใหม่ที่ว่า เมื่อจำเลยรับสารภาพตามฟ้อง ให้ศาลพิพากษาได้นั้น มิได้หมายความว่า เมื่อจำเลยรับสารภาพแล้วจะต้องพิพากษาลงโทษจำเลยเสมอไป เมื่อศาลเห็นว่าจำเลยมิได้กระทำผิดศาลย่อมพิพากษายกฟ้องได้ โดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 245/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแจ้งความเท็จต้องระบุความจริงชัดเจน หากไม่ระบุจำเลยไม่เข้าใจความเท็จ แม้รับสารภาพก็ลงโทษไม่ได้
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จ โดยบรรยายถึงข้อความที่จำเลยแจ้งความและกล่าวว่า ซึ่งความจริงมิใช่เช่นนั้น แต่มิได้บรรยายว่าความจริงเป็นอย่างไร จำเลยย่อมไม่อาจเข้าใจได้ดีว่าข้อความที่แจ้งเป็นความเท็จ เป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5)
เมื่อฟ้องโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) แล้ว แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
เมื่อฟ้องโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) แล้ว แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 245/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแจ้งความเท็จต้องระบุความจริงให้ชัดเจน มิฉะนั้นฟ้องไม่ชอบ
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จ โดยบรรยายถึงข้อความที่จำเลยแจ้งความและกล่าวว่า ซึ่งความจริงมิใช่เช่นนั้น แต่มิได้บรรยายว่าความจริงเป็นอย่างไร จำเลยย่อมไม่อาจเข้าใจได้ดีว่าข้อความที่แจ้งเป็นความเท็จ เป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158 (5)
เมื่อฟ้องโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158 (5) แล้ว แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
เมื่อฟ้องโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158 (5) แล้ว แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้