คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 185

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 761 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 589/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา การป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ และอำนาจศาลในการวินิจฉัย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาแม้จำเลยให้การรับสารภาพ หากทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยได้กระทำการป้องกันตนเองศาลก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยให้เป็นผลดีแก่จำเลยได้
จำเลยไปทวงเงินที่ผู้ตายเป็นหนี้อยู่ผู้ตายกลับต่อยจำเลยและติดตามเข้าไปทำร้ายซ้ำเติมอีกจำเลยอายุเพียง 19 ปี รูปร่างเล็กและเตี้ยกว่าผู้ตายไม่มีทางสู้แรงปะทะของผู้ตายได้จึงใช้มีดแทงไป 1 ที บังเอิญมีดไปถูกที่สำคัญเข้า ผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 394/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อยกเว้นการใช้บทสนับสนุนความผิดอาญาในความผิด พ.ร.บ.การพนัน ผู้จัดให้เล่นพนันไม่ต้องรับโทษฐานสนับสนุน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าสำนักจัดให้มีการเล่นการพนันไพ่ผ่องไม่รับอนุญาตเป็นการช่วยเหลือสนับสนุนให้จำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 เป็นผู้เข้าเล่นพนัน แม้จำเลยที่ 1 รับสารภาพตามฟ้อง ก็ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐาน สมรู้หรือสนับสนุนผู้กระทำผิดตามประมวลก.ม. อาญา ม. 86 ไม่ได้ เพราะแม้ว่าประมวล ก.ม. อาญา ม.17 ให้นำบทบัญญัติในภาค 1 แห่งประมวล ก.ม. อาญา มาใช้ในกรณีแห่งความผิดตามกฎหมายอื่นด้วย ก็ตาม แต่ข้อความในตอนท้ายแห่ง ม. 17 นี้เองก็มีข้อยกเว้นอยู่ว่า "เว้นแต่กฎหมายนั้น ๆ จะได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น" กรณีสำหรับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเพียงผู้จัดให้มีการเล่นพนันก็ได้มี พ.ร.บ. การพนัน พ.ศ. 2478 ม. 4, 12 บัญญัติความผิดไว้เป็นอย่างอื่นชัดแจ้งแล้ว จึงเข้าข้อยกเว้นที่จะนำเอาบทบัญญัติเรื่องสนับสนุนผู้กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม. 86 มาใช้ หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 394/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อยกเว้นการนำบทบัญญัติสนับสนุนความผิดมาใช้กับความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าสำนักจัดให้มีการเล่นการพนันไพ่ผ่องไม่รับอนุญาตเป็นการช่วยเหลือสนับสนุนให้จำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 เป็นผู้เข้าเล่นพนันแม้จำเลยที่ 1 รับสารภาพตามฟ้อง ก็ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานสมรู้หรือสนับสนุนผู้กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 85 ไม่ได้เพราะแม้ว่าประมวลกฎหมายอาญา ม.17 ให้นำบทบัญญัติในภาค1 แห่งประมวลกฎหมายอาญา มาใช้ในกรณีแห่งความผิดตามกฎหมายอื่นด้วย ก็ตาม. แต่ข้อความในตอนท้ายแห่ง ม.17 นี้เองก็มีข้อยกเว้นอยู่ว่า.'เว้นแต่กฎหมายนั้นๆ จะได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น'. กรณีสำหรับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเพียงผู้จัดให้มีการเล่นพนันก็ได้มี พ.ร.บ.การพนันพ.ศ.2478 ม.4,12 บัญญัติความผิดไว้เป็นอย่างอื่นชัดแจ้งแล้ว. จึงเข้าข้อยกเว้นที่จะนำเอาบทบัญญัติเรื่องสนับสนุนผู้กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.86 มาใช้ หาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องของโจทก์ร่วมในคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัว ย่อมระงับสิทธิฟ้องของอัยการ
อัยการและผู้เสียหายเป็นโจทก์ร่วมกันฟ้องคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวอันยอมความกันได้ เมื่อผู้เสียหายซึ่งร้องทุกข์และเข้าเป็นโจทก์ร่วมได้ขอถอนคำร้องทุกข์และขอถอนฟ้องสิทธิฟ้องคดีของอัยการย่อมระงับไปตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(2) ศาลต้องพิพากษายกฟ้องของอัยการเสียด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับสิทธิฟ้องคดีอาญาเมื่อผู้เสียหายถอนฟ้อง
อัยการและผู้เสียหายเป็นโจทก์ร่วมกันฟ้องคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวอันยอมความกันได้ เมื่อผู้เสียหายซึ่งร้องทุกข์และเข้าเป็นโจทก์ร่วมได้ขอถอนคำร้องทุกข์และขอถอนฟ้อง สิทธิฟ้องคดีของอัยการย่อมระงับไปตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 39(2) ศาลต้องพิพากษายกฟ้องของอัยการเสียด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1618/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแยกความผิดหลายบทกับหลายกะทงในคดีอาญา: บุกรุกและพยายามฆ่า
การที่จะวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกะทงหรือเป็นความผิดกะทงเดียวแต่ต้องด้วย ก.ม.หลายบท มีหลักวินิจฉัยดังนี้คือ ถ้าการกระทำใดเป็นความผิดต้องด้วย ก.ม.หลายบทแล้วจะแยกการกระทำนั้นออกจากกันไม่ได้ ก็เป็นความผิดที่ต้องด้วย ก.ม.หลายบท แต่ถ้า ก.ม.บัญญัติการกระทำเป็นความผิดไว้คนละอย่างต่างกัน เช่น ลักทรัพย์กับทำร้ายร่างกายหรือทำร้ายร่างกายกับบุกรุกดังนี้ ผู้ที่กระทำผิดทั้งสองอย่างก็ต้องเป็นความผิด 2 กะทงไม่ใช่ต้องด้วย ก.ม.หลายบทเพราะต่างกรรมต่างวาระกัน
การที่จำเลยที่ 1 ทำผิดทั้งบุกรุกและพยายามฆ่าคนเป็นความผิด 2 ฐาน ไม่ใช่เป็นการกระทำเพียงอย่างเดียวจำเลยที่ 1 จึงต้องมีความผิดเป็นสองกะทงคือฐานบุกรุกกะทงหนึ่งและฐานพยายามฆ่าคนอีกกะทงหนึ่ง แต่ถ้าความผิดอาญานั้นเกี่ยวเนื่องกันศาลอาจใช้ดุลยพินิจรวมกะทงลงโทษจำเลยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1618/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาความผิดฐานบุกรุกและพยายามฆ่า: แยกกระทงหรือรวมกระทง
การที่จะวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกระทงหรือเป็นความผิดกระทงเดียวแต่ต้องด้วยกฎหมายหลายบท มีหลักวินิจฉัยดังนี้คือ ถ้าการกระทำใดเป็นความผิดต้องด้วยกฎหมายหลายบทแล้วจะแยกการกระทำนั้นออกจากกันไม่ได้ ก็เป็นความผิดที่ต้องด้วยกฎหมายหลายบท แต่ถ้ากฎหมายบัญญัติการกระทำเป็นความผิดไว้คนละอย่างต่างกัน เช่นลักทรัพย์กับทำร้ายร่างกาย หรือทำร้ายร่างกายกับบุกรุกดังนี้ ผู้ที่กระทำผิดทั้งสองอย่างก็ต้องเป็นความผิด 2 กระทงไม่ใช่ต้องด้วยกฎหมายหลายบทเพราะต่างกรรมต่างวาระกัน
การที่จำเลยที่ 1 ทำผิดทั้งบุกรุกและพยายามฆ่าคนเป็นความผิด 2 ฐาน ไม่ใช่เป็นการกระทำเพียงอย่างเดียวจำเลยที่ 1 จึงต้องมีความผิดเป็นสองกระทงคือฐานบุกรุกกระทงหนึ่งและฐานพยายามฆ่าคนอีกกระทงหนึ่ง แต่ถ้าความผิดอาญานั้นเกี่ยวเนื่องกันศาลอาจใช้ดุลพินิจรวมกระทงลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1561/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการกระทำความผิดทางอาญา: การประเมินจากพฤติการณ์และข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
จำเลยกระทำอย่างไรเป็นปัญหาข้อเท็จจริง แต่การกระทำนั้นจะเป็นความผิดหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ในการวินิจฉัยข้อกฎหมายจำต้องอาศัยข้อเท็จจริงต่างๆประกอบ เมื่อขาดข้อเท็จจริงบางอย่างเช่นขวากวางห่างหัวคันนาเพียงใด แล้วก็หาอาจวินิจฉัยได้ไม่ว่าจำเลยมีเจตนาจะให้ผู้เดินนอกนาต้องได้รับบาดเจ็บจากขวาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1561/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาความผิดอาญา: การวางขวากกีดขวางทางเดินและการพิสูจน์เจตนาทำร้าย
จำเลยกระทำอย่างไรเป็นปัญหาข้อเท็จจริง แต่การกระทำนั้นจะเป็นความผิดหรือไม่เป็นปัญหาข้อ ก.ม.
ในการวินิจฉัยข้อกฎหมายจำต้องอาศัยข้อเท็จจริงต่าง ๆ ประกอบ เมื่อขาดข้อเท็จจริงบางอย่างเช่นขวากวางห่างหัวคันนาเพียงใดแล้วก็หาอาจวินิจฉัยได้ไม่ว่าจำเลยมีเจตนาจะให้ผู้เดินนอกนาต้องได้รับบาดเจ็บจากขวาก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1414/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า พิจารณาจากเหตุ เตรียมการ อาวุธ และลักษณะบาดแผล
ในการที่จะพิเคราะห์ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าคนตายหรือไม่จะต้องพิจารณาถึงสาเหตุการตระเตรียมการก่อนลงมือกระทำร้ายลักษณะของอาวุธที่ใช้ทำร้ายตลอดจนการกระทำของจำเลยและลักษณะบาดแผลรวมประกอบกัน
ได้ความว่าจำเลยกับผู้ตายมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อนแล้วเกิดเป็นปากเสียงทะเลาะกันอีกพอเกิดทะเลาะกันแล้วจำเลยหยิบเอาเหล็กสว่านแต่จะใช้เป็นไขควงก็ได้ยาว 10 ซ.ม. ด้ามเป็นเหล็กขนาดเท่าๆกัน ส่วนใหญ่ที่สุดของสว่านก็คือตอนที่ใกล้กับส่วนปลายที่แหลมและกว้าง 0.6 ซ.ม. ซึ่งเป็นเครื่องประหารที่ทำให้ร่างกายบุบสลายถึงสาหัสได้ หยิบแล้วเอาใส่กระเป๋ากางเกงไว้ แสดงว่าเป็นการตระเตรียมจะทำร้ายด้วยของกลางแล้วจำเลยได้ใช้ไขควงหรือสว่านนี้แทงอกทางซ้ายของผู้ตายซึ่งเป็นที่สำคัญ แผลที่แทงปรากฏว่าลึกถึง 8 ซ.ม. เห็นได้ว่าจำเลยได้แทงเข้าไปอย่างแรงจนเกือบมิดด้ามของเหล็กไขควง ถือได้แล้วว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำที่อาจแลเห็นผลได้ เข้าลักษณะเจตนาฆ่า
of 77