คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 185

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 761 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 425/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขุดทำนบเพื่อระบายน้ำ ไม่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 191 หากไม่ปรากฏว่าการกระทำนั้นอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์
คดีที่ฟ้องจำเลยหาว่าขุดทำลายทำนบกั้นน้ำหนองสาธารณะชำรุดเสียหายอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ตาม มาตรา 191 นั้นเพียงแต่โจทก์มีพยานสืบแต่ว่าจำเลยขุดทำนบกั้นน้ำสาธารณะเพื่อระบายน้ำออกไป โดยเกรงน้ำจะท่วมนาจำเลย ที่จำเลยกระทำนั้นจะสามารถอาจจะเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ได้อย่างไรหรือไม่ ไม่ปรากฏ กลับปรากฏตามคำพยานโจทก์อีกว่าถ้าน้ำในหนองมากก็ต้องเปิดทำนบระบายน้ำออกเหมือนกันเช่นนี้ ถือว่าโจทก์สืบไม่ได้ครบองค์ความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 191
ยังลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 133-134/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รวมคดีอาญาเหตุเดียวกัน การรับฟังพยานหลักฐานรวมกันได้ ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยได้ทั้งสองสำนวน
คดีอาญาราษฎรและอัยยการ ต่างเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในกรณีเหตุอันเดียวกันนั้น ถ้าศาลสั่งให้รวมการพิจารณาคดีเป็นคดีเดียวกันแล้ว การฟังคำพยานหลักฐานก็รวมเป็นคดีเดียวกันได้ ไม่ต้องแยกว่าเป็นพยานของสำนวนไหน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 133-134/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รวมคดีเหตุเดียวกัน ฟังพยานหลักฐานรวมกันได้ แม้ฟ้องต่างสำนวน ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยได้
คดีอาญาราษฎรและอัยการต่างเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในกรณีเหตุอันเดียวกันนั้น ถ้าศาลสั่งให้รวมการพิจารณาคดีเป็นคดีเดียวกันแล้วการฟังคำพยานหลักฐานก็รวมเป็นคดีเดียวกันได้ ไม่ต้องแยกว่าเป็นพยานของสำนวนไหน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 84/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกฟ้องคดีอาญาแล้ว สิทธิฟ้องร้องในประเด็นเดียวกันระงับตามกฎหมาย
ศาลพิพากษายกฟ้องคดีที่เจ้าทุกข์เป็นโจทก์ โดยวินิจฉัยว่า การกระทำตามฟ้องไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์ ถือว่าเป็นการยกฟ้องตามมาตรา 185 เมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว อัยยการจะมาฟ้องจำเลยฐานยักยอกในเรื่องเดียวกันนั้นอีกไม่ได้ ต้องห้ามตามมาตรา 39(4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 84/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกฟ้องคดีอาญาแล้ว สิทธิฟ้องร้องในความผิดเดิมย่อมระงับตามกฎหมาย
ศาลพิพากษายกฟ้องคดีที่เจ้าทุกข์เป็นโจทก์ โดยวินิจฉัยว่า การกระทำตามฟ้องไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์ ถือว่าเป็นการยกฟ้องตามมาตรา 185 เมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว อัยการจะมาฟ้องจำเลยฐานยักยอกในเรื่องเดียวกันนั้นอีกไม่ได้ ต้องห้ามตามมาตรา 39(4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 503/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แม้ฟ้องผิดนามสกุล แต่หากไม่ผิดตัวบุคคล ไม่ถือเป็นการฟ้องผิดตัว
ฟ้องของโจทก์กล่าวนามสกุลของจำเลยผิดไปแต่ถ้าไม่ผิดตัวบุคคล ก็มิใช่เป็นการฟ้องผิดตัว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 503/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญา แม้ชื่อสกุลไม่ถูกต้อง แต่ไม่ผิดตัวบุคคล ไม่ถือเป็นการฟ้องผิดตัว
ฟ้องของโจทก์กล่าวนามสกุลของจำเลยผิดไป แต่ถ้าไม่ผิดตัวบุคคล ก็มิใช่เป็นการฟ้องผิดตัว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 436/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้คำรับสารภาพของจำเลยประกอบพยานหลักฐานที่ไม่สมบูรณ์ในคดีอาญา ศาลฎีกาตัดสินให้ลงโทษฐานลักทรัพย์ได้
โจทก์ฟ้องคดีอาญาอ้างบทลงโทษเกินกว่าสิบปี และโทษเบารวมกันมา จำเลยให้การรับสารภาพ โจทก์สืบพะยานประกอบในข้อหาอุกฉกรรจ์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำผิด ศาลก็ลงโทษในข้อหาฐานเมาได้ แม้คำพะยานโจทก์ในข้อหานี้จะไม่มีน้ำหนักก็ตาม เพราะจำเลยให้การรับสารภาพแล้ว ไม่มีกฎหมายบังคับให้สืบพะยานประกอบ เช่น ข้อหาอุกฉกรรจ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับซื้อของหลีกเลี่ยงภาษี ไม่เป็นความผิดฐานหลีกเลี่ยงภาษี แต่เป็นการช่วยเหลือหลังกระทำผิด
จำเลยรับซื้อของหนีภาษีไว้จากผู้ลักลอบพาของนั้นผ่านด่านศุลกากรเข้ามาในประเทศไทยไม่เสียภาษีนั้น ไม่เป็นผิดฐานหลีกเลี่ยง หรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษี เพราะเป็นการสมรู้ช่วยเหลือภายหลังการกระทำผิด และไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าเป็นผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับซื้อของหลีกเลี่ยงภาษี ไม่เป็นความผิดฐานหลีกเลี่ยงภาษี แต่เป็นการช่วยเหลือหลังกระทำผิด
จำเลยรับซื้อของหนีภาษีไว้จากผู้ลักลอบพาของนั้นผ่านด่านศุลกากรเข้ามาในประเทศโดยไม่เสียภาษีนั้น ไม่เป็นผิดฐานหลีกเลี่ยง หรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษี เพราะเป็นการสมรู้ช่วยเหลือภายหลังการกระทำผิด และไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าเป็นผิด
of 77