พบผลลัพธ์ทั้งหมด 102 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1830/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันเกินสมควรแก่เหตุจากการทำร้ายร่างกายภรรยา โดยชู้เข้าไปช่วย
สามีภรรยาทะเลาะกันแล้วสามีใช้มีดฟันภรรยา ๆ ร้องให้ชู้ช่วย ชู้จึงเข้ามาเอามีดฟันสามีที่ศีร์ษะ 3 ทีติดกันโดยไม่ยั้งมือซึ่งแต่ละแผลแตกแยกถึงมันสมองไหลอาจถึงตายในทันทีได้ทุกแผลและโดยไม่ปรากฎว่า ระหว่างการฟันครั้งที่ 2-3 นั้นสามียังทำร้ายภรรยาอยู่ต่อไปหรือไม่เช่นนี้ ถือว่าการกระทำของชู้เป็นการป้องกันภรรยา แต่เป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1830/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันเกินสมควรแก่เหตุจากการทำร้ายร่างกาย: กรณีชู้ช่วยเหลือภรรยาที่ถูกทำร้าย
สามีภรรยาทะเลาะกันแล้ว สามีใช้มีดฟันภรรยา ภรรยาร้องให้ชู้ช่วย.ชู้จึงเข้ามาเอามีดฟันสามีที่ศีรษะ 3 ทีติดกันโดยไม่ยั้งมือซึ่งแต่ละแผลแตกแยกถึงมันสมองไหลอาจถึงตายในทันทีได้ทุกแผล และโดยไม่ปรากฏว่าระหว่างการฟันครั้งที่ 2-3 นั้นสามียังทำร้ายภรรยาอยู่ต่อไปหรือไม่ เช่นนี้ ถือว่า การกระทำของชู้เป็นการป้องกันภรรยา แต่เป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1805/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันเกียรติยศเกินสมควรแก่เหตุ: การกระทำความรุนแรงจนถึงแก่ความตาย
ไปพบผู้ตายนอนกอดภริยาตนอยู่บนแคร่ ซึ่งมีคนอื่นนอนอยู่ด้วยอีกหลายคน จึงเอาไม้ตีผู้ตายดังนี้เป็นการกระทำเพื่อป้องกันเกียรติยศและชื่อเสียงเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1805/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันเกียรติยศเกินสมควรแก่เหตุเป็นเหตุให้ความผิดฐานฆ่าลดลง
ไปพบผู้ตายนอนกอดภริยาตนอยู่บนแคร่ ซึ่งมีคนอื่นนอนอยู่ด้วยอีกหลายคน จึงเอาไม้ตีผู้ตาย และตีซ้ำอีกจนผู้ตายตาย ดังนี้ เป็นการกระทำเพื่อป้องกันเกียรติยศและชื่อเสียงเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1572/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันทรัพย์สิน: การใช้กำลังพอสมควรแก่เหตุในการเผชิญหน้ากับผู้ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
คนร้ายเข้าไปลักแตงในไร่จำเลยถึง 3 คน ในเวลาค่ำมืดแล้ว คนร้ายคนหนึ่งก็มีมีดติดตัวอยู่ด้วย จำเลยได้ใช้มีดฟันคนร้ายไปโดยหาได้รู้ว่าผู้ร้ายเป็นใครไม่ ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยได้กระทำลงไปในขณะเผชิญภัยโดยประจันหน้ากับผู้ร้ายถึง 3 คน ซึ่งกำลังลักทรัพย์ของจำเลยอยู่ในที่มืดเช่นนี้ เป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1572/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันทรัพย์สิน: การใช้กำลังสกัดผู้ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนและเผชิญหน้ากับผู้กระทำผิดหลายคน ถือเป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุ
คนร้ายเข้าไปลักแตงในไร่จำเลยถึง 3 คน ในเวลาค่ำมืดแล้ว คนร้ายคนหนึ่งมีมีดติดตัวอยู่ด้วยจำเลยได้ใช้มีฟันคนร้ายไปโดยหาได้รู้ว่าผู้ร้ายเป็นใครไม่ ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยได้กระทำลงไปในขณะเผชิญภัยโดยประจันหน้ากับผู้ร้ายถึง 3 คน ซึ่งกำลังลักทรัพย์ของจำเลยอยู่ในที่มืดเช่นนี้ เป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ: ศาลฎีกายืนตามอุทธรณ์ หากผู้ถูกทำร้ายถูกรุมทำร้ายและใช้มีดป้องกันตน ถือเป็นการป้องกันตัวพอสมควร
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 251,53 โจทก์พอใจมิได้อุทธรณ์หรือแก้อุทธรณ์แต่อย่างใด จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโดยเห็นว่า เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ดังนี้ โจทก์จะฎีกาว่า การกระทำของจำเลยไม่ใช่เป็นการป้องกันเลยไม่ได้ คงฎีกาได้แต่เพียงว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุเท่านั้น
จำเลยถูกคน 2 คนใช้ไม้กลุ้มรุมทำร้าย และคนหนึ่งกอดจำเลยไว้ อีกคนหนึ่งใช้ไม้ตีเช่นนี้ จำเลยใช้มีดพกปลายแหลมยาวเกือบคืบที่แย่งมาได้จากคน 2 คนนั้นแทงคนทั้ง 2 ไป ย่อมเป็นการแสดงว่าจำเลยจะแทงเพื่อให้รอดพ้นจากการถูกกระทำร้ายเท่านั้น จึงเป็นการป้องกันตนพอสมควรแก่เหตุ
จำเลยถูกคน 2 คนใช้ไม้กลุ้มรุมทำร้าย และคนหนึ่งกอดจำเลยไว้ อีกคนหนึ่งใช้ไม้ตีเช่นนี้ จำเลยใช้มีดพกปลายแหลมยาวเกือบคืบที่แย่งมาได้จากคน 2 คนนั้นแทงคนทั้ง 2 ไป ย่อมเป็นการแสดงว่าจำเลยจะแทงเพื่อให้รอดพ้นจากการถูกกระทำร้ายเท่านั้น จึงเป็นการป้องกันตนพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเกินกว่าเหตุ: ศาลพิจารณาจากสถานการณ์ถูกทำร้ายรุมทำร้าย ไม่มีทางหลบหนี
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 251, 53 โจทก์พอใจมิได้อุทธรณ์หรือแก้อุทธรณ์แต่อย่างใด จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโดยเห็นว่าเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ดังนี้โจทก์จะฎีกาว่าการกระทำของจำเลยไม่ใช่เป็นการป้องกันเลยไม่ได้ คงฎีกาได้แต่เพียงว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุเท่านั้น
จำเลยถูกคน 2 คนใช้ไม้กลุ้มรุมทำร้าย และคนหนึ่งกอดจำเลยไว้ อีกคนหนึ่งใช้ไม้ตีเช่นนี้จำเลยใช้มีดพกปลายแหลมยาวเกือบคืบที่แย่งมาได้จากคน 2 คนนั้นแทงคนทั้ง 2 ไป ย่อมเป็นการแสดงว่าจำเลยจะแทงเพื่อให้รอดพ้นจากการถูกกระทำร้ายเท่านั้น จึงเป็นการป้องกันตนพอสมควรแก่เหตุ
จำเลยถูกคน 2 คนใช้ไม้กลุ้มรุมทำร้าย และคนหนึ่งกอดจำเลยไว้ อีกคนหนึ่งใช้ไม้ตีเช่นนี้จำเลยใช้มีดพกปลายแหลมยาวเกือบคืบที่แย่งมาได้จากคน 2 คนนั้นแทงคนทั้ง 2 ไป ย่อมเป็นการแสดงว่าจำเลยจะแทงเพื่อให้รอดพ้นจากการถูกกระทำร้ายเท่านั้น จึงเป็นการป้องกันตนพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1375/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ การใช้กำลังทำร้ายถึงแก่ชีวิต
ผู้ตายเมาสุราขึ้นไปก่อเหตุบนเรือนของจำเลยและใช้ขวดเหล้าใช้ไม้รุกไล่ตีจำเลย ๆ จึงเอามีดที่ใช้สับเปลือกไม้กินหมากอยู่ในมือแทงตอบไป ย่อมฟังได้ว่าจำเลยทำากรป้องกันตาม ก.ม.แต่ปรากฎว่าไม้ที่ผู้ตายใช้ตีเป็นเพียงไม้ไผ่ ถึงตีถูกก็ปรากฎว่าเพียงแต่ทำให้ฟกช้ำเท่านั้น การที่จำเลยใช้มีดมีคมปลายแหลมยาคืบเศษแทงผู้ตายตรงหน้าอกโดยแรง มีดเข้าเนื้อทะลุในและแทงปักเข้าที่ซอกคออีกทีหนึ่ง จนลึกทลุในเป็นผลให้ผู้ตายล้มลงขาดใจตายโดยทันทีหรือเกือบจะทันทีเช่นนี้ ย่อมเป็นที่เห็นได้ว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุต้องมีโทษตามมาตรา 249, 53
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1375/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเกินกว่าเหตุ: การใช้กำลังป้องกันต้องสมส่วนกับภัยอันตรายที่ถูกคุกคาม
ผู้ตายเมาสุราขึ้นไปก่อเหตุบนเรือนของจำเลย และใช้ขวดเหล้าใช้ไม้รุกไล่ตีจำเลย จำเลยจึงเอามีดที่ใช้สับเปลือกไม้กินหมากอยู่ในมือแทงตอบไป ย่อมฟังได้ว่าจำเลยทำการป้องกันตามกฎหมาย แต่ปรากฏว่าไม้ที่ผู้ตายใช้ตี เป็นเพียงไม้ไผ่ ถึงตีถูกก็ปรากฏว่าเพียงแต่ทำให้ฟกช้ำเท่านั้น การที่จำเลยใช้มีดมีคมปลายแหลมยาวคืบเศษแทงผู้ตายตรงหน้าอกโดยแรง มีดเข้าเนื้อทะลุในและแทงปักเข้าที่ซอกคออีกทีหนึ่ง จนลึกทะลุใน เป็นผลให้ผู้ตายล้มลงขาดใจตายโดยทันทีหรือเกือบจะทันทีเช่นนี้ ย่อมเป็นที่เห็นได้ว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุต้องมีโทษตามมาตรา 249,53