พบผลลัพธ์ทั้งหมด 102 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 968/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันเกินกว่าเหตุ: ผู้ต้องหาเข้าใจผิดว่าผู้ตายจะทำร้ายภรรยา จึงแทงผู้ตาย ศาลฎีกายืนตามอุทธรณ์
ผู้ตายกับภรรยาทะเลาะกัน แล้วภรรยาผู้ตายหนีไปอยู่ในห้องของอ. ผู้ตายตามเข้าไปโดยมีมีดปลายแหลม 1 เล่ม กับสนับมือ 1 อัน เป็นอาวุธจำเลยเป็นพี่ของภรรยาผู้ตายและอยู่ในห้องของ อ.ด้วยขณะที่ผู้ตายแหวกม่านจะเข้าไปถึงตัวภรรยาของตน จำเลยก็แทงผู้ตายโดยเข้าใจว่าจะเข้าไปทำร้ายภรรยา ดังนี้ เป็นการป้องกัน แต่เกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 740/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนาและการป้องกันเกินสมควร ศาลฎีกาแก้ไขโทษจำคุก
ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลย 7 ปี 6 เดือน ตามมาตรา 249
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยกระทำการป้องกันแต่เกินสมควรแก่เหตุตามมาตรา 249,53 จำคุก 1 ปี แต่ให้รอการลงอาญาไว้ ดังนี้ เป็นการแก้มาก โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยกระทำการป้องกันแต่เกินสมควรแก่เหตุตามมาตรา 249,53 จำคุก 1 ปี แต่ให้รอการลงอาญาไว้ ดังนี้ เป็นการแก้มาก โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุและการใช้สิทธิป้องกันตัวตามกฎหมายอาญา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนา ศาลชั้นต้นชี้ขาดข้อเท็จจริงว่า จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายเป็นการป้องกันตัว แต่กระทำเกินกว่าเหตุควรรับโทษ โจทก์ไม่อุทธรณ์ ดังนี้ ชั้นฎีกา โจทก์จะกลับขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาหาได้ไม่
ผู้ตายมีพรรคพวก 5 คน พากันไปหน้าบ้านจำเลย ผู้ตายผลักบานประตูบ้านจำเลยเปิดออกและผู้ตายกับจำเลยพูดโต้เถียงกัน จำเลยบอกให้ผู้ตายกลับไปเสีย หายเมาจึงพูดกันใหม่ ผู้ตายไม่ยอมกลับ จำเลยปิดประตู ผู้ตายผลักบานประตูกระแทกจำเลยเซ แล้วผู้ตายก้าวเท้าข้างหนึ่งล้ำเข้าไปในประตู และใช้มีดปลายแหลมจ้วงแทงจำเลย ๆ หลบเสีย มีดจึงไม่ถูกผู้ตายแทงซ้ำ จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้ตาย 2 นัดซ้อน ผู้ตายเซถอยแล้วล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ ถือว่าจำเลยได้ทำการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุไม่ควรลงโทษจำเลย
ผู้ตายมีพรรคพวก 5 คน พากันไปหน้าบ้านจำเลย ผู้ตายผลักบานประตูบ้านจำเลยเปิดออกและผู้ตายกับจำเลยพูดโต้เถียงกัน จำเลยบอกให้ผู้ตายกลับไปเสีย หายเมาจึงพูดกันใหม่ ผู้ตายไม่ยอมกลับ จำเลยปิดประตู ผู้ตายผลักบานประตูกระแทกจำเลยเซ แล้วผู้ตายก้าวเท้าข้างหนึ่งล้ำเข้าไปในประตู และใช้มีดปลายแหลมจ้วงแทงจำเลย ๆ หลบเสีย มีดจึงไม่ถูกผู้ตายแทงซ้ำ จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้ตาย 2 นัดซ้อน ผู้ตายเซถอยแล้วล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ ถือว่าจำเลยได้ทำการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุไม่ควรลงโทษจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: ศาลฎีกายืนพิพากษาให้ยกฟ้อง เนื่องจากโจทก์ไม่โต้แย้งข้อเท็จจริงเดิม
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนา ศาลชั้นต้นชี้ขาดข้อเท็จจริงว่า จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายเป็นการป้องกันตัว แต่กระทำเกินกว่าเหตุ ควรรับโทษ โจทก์ไม่อุทธรณ์ดังนี้ ชั้นฎีกาโจทก์จะกลับขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาหาได้ไม่
ผู้ตายมีพรรคพวก 5 คนพากันไปหน้าบ้านจำเลย ผู้ตายผลักบานประตูบ้านจำเลยเปิดออกและผู้ตายกับจำเลยพูดโต้เถียงกันจำเลยบอกให้ผู้ตายกลับไปเสียหายเมาจึงพูดกันใหม่ ผู้ตายไม่ยอมกลับ จำเลยปิดประตู ผู้ตายผลักบานประตูกระแทกจำเลยเซแล้วผู้ตายก้าวเท้าข้างหนึ่งล้ำเข้าไปในประตูและใช้มีดปลายแหลมจ้วงแทงจำเลย จำเลยหลบเสีย มีดจึงไม่ถูก ผู้ตายแทงซ้ำ จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้ตาย 2 นัดซ้อน ผู้ตายเซถอยแล้วล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ ถือว่าจำเลยได้ทำการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ ไม่ควรลงโทษจำเลย
ผู้ตายมีพรรคพวก 5 คนพากันไปหน้าบ้านจำเลย ผู้ตายผลักบานประตูบ้านจำเลยเปิดออกและผู้ตายกับจำเลยพูดโต้เถียงกันจำเลยบอกให้ผู้ตายกลับไปเสียหายเมาจึงพูดกันใหม่ ผู้ตายไม่ยอมกลับ จำเลยปิดประตู ผู้ตายผลักบานประตูกระแทกจำเลยเซแล้วผู้ตายก้าวเท้าข้างหนึ่งล้ำเข้าไปในประตูและใช้มีดปลายแหลมจ้วงแทงจำเลย จำเลยหลบเสีย มีดจึงไม่ถูก ผู้ตายแทงซ้ำ จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้ตาย 2 นัดซ้อน ผู้ตายเซถอยแล้วล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ ถือว่าจำเลยได้ทำการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ ไม่ควรลงโทษจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 94/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและการใช้สิทธิป้องกันเกินสมควรแก่เหตุในคดีทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย
ผู้ตายมีอายุ 30 ปี จำเลยมีอายุ 19 ปีรูปร่างเล็กกว่าผู้ตาย ผู้ตายได้เกิดโต้เถียงกับจำเลย มีคนห้าม ผู้ตายก็เดินเลยไป แล้วก็กลับมาหาจำเลยอีก ตรงเข้าพูดกับจำเลยว่าไม่ต้องพูดมาก แล้วผลักจำเลยเซไปกระทบกระถางต้นไม้ พอจำเลยทรงตัวได้ ผู้ตายเข้าต่อยจำเลย พอต่อยได้ทีเดียวจำเลยใช้มีดแทงสวนแล้วจำเลยก็วิ่งหนีไป ผู้ตายวิ่งไปทางเดียวกับจำเลย แล้วล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ การที่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายนั้น เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ไม่มีโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 92/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบธรรม: การใช้มีดเพื่อป้องกันการถูกทำร้ายจากผู้มีรูปร่างใหญ่กว่า
ผู้ตายมีอายุ 30 ปี จำเลยมีอายุ 19 ปีรูปร่างเล็กกว่า ผู้ตาย ผู้ตายได้เกิดโต้เถียง-กับจำเลย มีคนห้าม ผู้ตายก็เดินเลยไป แล้วก็กลับมาหาจำเลยอีก ตรงเข้าพูดกับจำเลยว่าไม่ต้องพูดมาก แล้วผลักจำเลยเซไปกระทบกระถางต้นไม้ พอจำเลยทรงตัวได้ ผู้ตายเข้าต่อยจำเลย พอต่อยได้ทีเดียวจำเลยใช้มีดแทงสวนแล้วจำเลยก็วิ่งหนีไป ผู้ตายวิ่งไปทางเดียวกับจำเลย แล้วล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ การที่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายนั้น เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุไม่มีโทษ./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยเจตนาจากการป้องกันเกินสมควร การลดโทษจากเหตุทำอนาจาร
ผู้ตายถูกแทงที่รักแร้ลึกเข้าปอด และที่ลิ้นปี่ลึกเข้าช่องท้องอันตรายแก่กระเพาะอาหารเป็นบาดแผลถูกแทงโดยแรงผู้แทงย่อมคาดหมายได้ว่าผู้ถูกแทงจะต้องตายเป็นธรรมดา และผู้ตายก็ล้มลงและขาดใจตายหน้าห้องจำเลย ดังนี้ การกระทำของจำเลย แสดงว่าเจตนาฆ่ามีผิดตามมาตรา 249
จำเลยได้แทงผู้ตายในขณะที่เห็นผู้ตายกำลังกอดปล้ำทำอนาจารแก่ภริยาตน เรียกว่าเป็นการกระทำการป้องกันแต่เกินสมควรแก่เหตุ ควรได้ลดหย่อนอาญาลงตามมาตรา50,53 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/92)
จำเลยได้แทงผู้ตายในขณะที่เห็นผู้ตายกำลังกอดปล้ำทำอนาจารแก่ภริยาตน เรียกว่าเป็นการกระทำการป้องกันแต่เกินสมควรแก่เหตุ ควรได้ลดหย่อนอาญาลงตามมาตรา50,53 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/92)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยเจตนาจากการป้องกันตัวเกินสมควร: ลดหย่อนผ่อนโทษได้
ผู้ตายถูกแทงที่รักแร้ลึกเข้าปอด และที่ลิ้นปี่ลึกเข้าช่องท้องอันตรายแก่กะเพาะอาหารเป็นบาดแผลถูกแทงโดยแรง ผู้แทงย่อมคาดหมายได้ว่าผู้ถูกแทงจะต้องตายเป็นธรรมดา และผู้ตายก็ล้มลงและขาดใจตายหน้าห้องจำเลย ดังนี้ การกระทำของจำเลยแสดงว่าเจตนาฆ่า มีผิดตามมาตรา 249
จำเลยได้แทงผู้ตายในขณะที่เห็นผู้ตายกำลังกอดปล้ำ ทำอนาจารแก่ภริยาตน เรียกว่าเป็นการกระทำการป้องกัน แต่เกินสมควรแก่เหตุ ควรได้ลดหย่อนอาญาลงตามมาตรา 50,53.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2492)
จำเลยได้แทงผู้ตายในขณะที่เห็นผู้ตายกำลังกอดปล้ำ ทำอนาจารแก่ภริยาตน เรียกว่าเป็นการกระทำการป้องกัน แต่เกินสมควรแก่เหตุ ควรได้ลดหย่อนอาญาลงตามมาตรา 50,53.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1148/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันเกินสมควร: การใช้กำลังเกินกว่าเหตุเพื่อป้องกันตัวจากอาวุธ ทำให้มีความผิดอาญา
ผู้ตายถือปืนยาวแบบญี่ปุ่นขึ้นไปบนเรือนจำเลยที่ 1 เกิดโต้เถียงกันผู้ตายยกปืนขึ้นและกระชากขึ้นลำกล้องหันปากกระบอกปืนไปทางจำเลยที่ 1จำเลยที่ 1 แย่งปืนและเอาขวานฟันผู้ตายหลายที และเรียกจำเลยที่ 2 มาช่วย จำเลยที่ 2 ใช้ดาบฟันผู้ตายหลายที ผู้ตายล้มลงสักครู่ก็ขาดใจตาย มีบาดแผล 38 แผล ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำเกินกว่าความจำเป็นเพื่อป้องกันชีวิตและร่างกายของจำเลย ย่อมมีผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249,53
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1148/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุทางอาญา: กรณีแย่งอาวุธและทำร้ายจนถึงแก่ความตาย
ผู้ตายถือปืนยาวแบบญี่ปุ่นขึ้นไปบนเรือนจำเลยที่ 1 เกิดโต้เถียงกัน ผู้ตายยกปืนขึ้นและกระชากขึ้นลำกล้อง หันปากกระบอกปืนไปทางจำเลยที่ 1 ๆ แย่งปืนและเอาขวานฟันผู้ตายหลายที และเรียกจำเลยที่ 2 มาช่วย จำเลยที่2ใช้ดาบฟันผู้ตายหลายที ผู้ตายล้มลงสักครู่ก็ขาดใจตาย มีบาดแผล 38 แผล ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำเกินกว่าความจำเป็นเพื่อป้องกันชีวิตและร่างกายของจำเลย ย่อมมีผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249, 53