คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 53

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 102 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: การกระทำเพื่อความจำเป็นเพื่อป้องกันภัยอันตรายถึงชีวิต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามมาตรา 251 - 55 จำคุกจำเลย 6 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยผิดตามมาตรา 249 - 53 จำคุก 2 ปี ดังนี้ เป็นแก้มาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้ไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 218
ผู้ตายไล่ตามจะทำร้ายจำเลยเข้าไปในห้องผู้มีชื่อ แล้วมีการต่อสู้กัน จำเลยแทงผู้ตาย 5 แห่ง ดังนี้เป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุคดีเข้ามาตรา 249 - 53.
(ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ การต่อสู้ และการพิจารณาความจำเป็นในการกระทำเพื่อป้องกันภัย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามมาตรา 251,55 จำคุกจำเลย 6 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยผิดตาม มาตรา 249,53 จำคุก 2 ปี ดังนี้เป็นแก้มาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้ไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ผู้ตายไล่ตามจะทำร้ายจำเลยเข้าไปในห้องผู้มีชื่อ แล้วมีการต่อสู้กัน จำเลยแทงผู้ตาย 5 แห่ง ดังนี้เป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุคดีเข้ามาตรา 249,53 (ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1430/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยสมควรแก่เหตุ: การใช้มีดป้องกันการทำร้ายร่างกายฉุกเฉิน
จำเลยไม่ได้เกี่ยวข้องในการวิวาท เป็นแต่ผู้ยืนดูอยู่ข้างนอก ผู้ตายมาตีจำเลย 2-3 ที่แล้วยังจะตีซ้ำอีก จำเลยจำต้องป้องกันตัวและไม่มีโอกาสที่จะมัวเลือกหาอาวุธอื่นใดมาใช้ได้ทัน จึงต้องใช้อาวุธมีดที่มีอยู่แทงสวนไป ในการที่จำเลยแทงผู้ตายไปในขณะกำลังฉุกละหุกเช่นนี้ หามีเวลาจะเลือกว่าจะแทงให้ถูกตรงไหนไม่การที่แทงไปถูกท้องเป็นการบังเอิญ หาใช่จำเลยตั้งใจเอาชีวิตผู้ตายไม่ และจำเลยแทงผู้ตายเพียงทีเดียวเท่านั้น การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวไม่เกินสมควรแก่เหตุจำเลยได้รับยกเว้นโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1430/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ: จำเลยถูกทำร้ายจึงใช้มีดป้องกันตนเอง
จำเลยไม่ได้เกี่ยวข้องในการวิวาท เป็นแต่ผู้ยืนดูอยู่ข้างนอก ผู้ตายมาตีจำเลย 2-3 ที่แล้วยังจะตีซ้ำอีก จำเลยจำต้องป้องกันตัวและไม่มีโอกาศที่จะมัวเลือกหาอาวุธอื่นใดมาใช้ได้ทัน จึงต้องใช้อาวุธมีดที่มีอยู่แทงสวนไป ในการที่จำเลยแทงผู้ตายไปในขณะกำลังฉุกละหุก เช่นนี้ หามีเวลาจะเลือกว่าจะแทงให้ถูกตรงไหนไม่ การที่แทงไปถูกท้องเป็นการบังเอิญ หาใช่จำเลยตั้งใจเอาชีวิตผู้ตายไม่และจำเลยแทงผู้ตายเพียงทีเดียวเท่านั้น การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวไม่เกินสมควรแก่เหตุ จำเลยได้รับยกเว้นโทษ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1292/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักการใช้กฎหมายอาญาที่แตกต่างกันตามช่วงเวลา และการเลือกใช้กฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลย
การใช้กฎหมายส่วนที่เป็นคุณแก่จำเลยตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 3 นั้น ต้องพิจารณาทั้งโทษสูงและโทษต่ำ เช่น ถ้าจะลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสถ้าจะลงโทษจำคุกเกิน 7 ปี ซึ่งจะลงได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 เช่นนี้ ต้องใช้ มาตรา 256 เพราะลงโทษจำคุกได้ไม่เกิน 7 ปี แต่ถ้าจะลงโทษต่ำกว่า 2 ปีลงมา (ถึง 6 เดือน) ต้องใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297เพราะบัญญัติให้ทำได้
แต่ถ้าการวางโทษอยู่ในระดับที่ใช้กฎหมายลักษณะอาญาก็ได้หรือใช้ประมวลกฎหมายอาญาก็ได้ เช่นนี้ควรใช้กฎหมายลักษณะอาญา อันเป็นกฎหมายในขณะทำผิด
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 10/2500)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1958/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ แม้ถูกทำร้ายก่อน ศาลพิจารณาบาดแผลและพฤติการณ์
ผู้ตายเป็นคนมุทะลุดุร้ายเคยทุบตีรังแกจำเลยเสมอ ตอนหัวค่ำของวันเกิดเหตุผู้ตายเอาไม้คานตีจำเลย โดยจำเลยไม่ได้ต่อสู้มีรอยฟกช้ำหลายแห่ง จำเลยวิ่งหนีไป ผู้ตายวิ่งตามไปขู่ว่าไม่กลับจะต้องตายจำเลยกลัวก็ยอมกลับ ราว 2 ทุ่มผู้ตายเอามีดมาลับและพูดกับจำเลยว่ามึงมองดูฟ้าเสียเถอะต่อไปมึงจะไม่ได้ดูแล้ว ลับมีดแล้วผู้ตายก็เข้าไปนอน ราว 2 ยามบุตรคนเล็กร้องจำเลยกลัวและผู้ตายก็ตื่นจำเลยอุ้มให้บุตรกินนม ขณะนั้นผู้ตายล้วงเอามีดออกจากใต้ที่นอน จำเลยจึงวางบุตรลงแล้วเข้าแย่งมีดจากผู้ตาย เมื่อแย่งได้ก็ใช้ฟันผู้ตายหลายทีจนผู้ตายเงียบไป ผู้ตายถูกฟันมีแผล 8 แห่งและมีแผลที่สันหลังด้วย.เห็นได้ว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายมากมายจนไม่มีโอกาสที่จะทำอะไรจำเลย หรือจำเลยมีทางที่จะหลีกเลี่ยงไปให้พ้นอันตรายได้ก็หาหลีกหนีไปไม่และทั้งๆ ที่ผู้ตายไม่มีอาวุธอะไรจะทำร้ายจำเลยๆ ก็ยังฟันผู้ตายซ้ำเติมอีกโดยไม่ยับยั้งใจ ฟันเพื่อให้ผู้ตายตายเลยเช่นนี้ถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1080/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันเกินสมควรแก่เหตุในคดีทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย พิจารณาจากพฤติการณ์ต่อเนื่อง
การที่ผู้ตายทำร้ายแล้วขัดขืนไม่ยอมให้จับ ผู้ตายแกว่งมีดจะแทงผู้เข้าจับๆ ถอยล้มลง ผู้ตายจะเข้าแทง ทันใดนั้นจำเลยจะเข้าตีผู้ตายๆ ถือมีดจะมาแทงจำเลยผู้เข้าจับคนนั้นจึงตีผู้ตายล้มลง กำลังผู้ตายจะลุกขึ้นจำเลยก็ตีศีรษะอีก 1 ที ถึงตาย ดังนี้จะเห็นได้ว่าการที่จำเลยตีผู้ตายครั้งหลังขณะที่ล้มอยู่นี้เป็นการกระทำที่เกี่ยวพันกระชั้นชิดกันจึงต้องพิจารณาพฤติการณ์รวมกันไปจึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1074/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวและการป้องกันผู้อื่น: การใช้กำลังเพื่อป้องกันภัยอันตรายถึงชีวิต
ผู้ตายใช้มีดแทงผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านร้องให้ช่วย จำเลยที่ 1 จึงใช้ไม้ตี 1 ทีและจำเลยที่ 2 ใช้ปืนยิง 1 นัดพร้อมๆ กันทั้งสองคน
เมื่อข้อเท็จจริงได้ความตามพยานโจทก์ว่าผู้ตายใช้มีดโถมเข้าแทงผู้ใหญ่บ้านๆ หลบล้มลงและเรียกให้ช่วย จำเลยที่ 2 จึงยิงผู้ตาย 1 นัดในทันทีทันใดขณะที่ยิงนั้นผู้ตายกำลังจะแทงผู้ใหญ่บ้าน ตัวมีดห่างตัวผู้ใหญ่บ้านในขณะที่ล้มอยู่ประมาณ 1 ศอก ถ้าไม่ยิงก่อนนายแผนอาจถูกทำร้ายถึงตายได้ ดังนั้นการกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการกระทำเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: การแทงตอบโต้เมื่อถูกทำร้ายและสถานการณ์ที่จำเลยต้องเผชิญ
ผู้ตายเมาสุราอาละวาดถือมีดไล่แทงผู้มีชื่อๆ หนีแอบข้างหลังจำเลยๆ ร้องขอห้าม ผู้ตายไม่ฟังจึงกอดคอจำเลยและแทงจำเลยถูกชายโครง จำเลยจึงแทงผู้ตายรวม 11 แผล ดังนี้การกระทำของจำเลยเป็นลักษณะของการป้องกัน แต่กระทำเกินกว่าเหตุเข้าเกณฑ์ตาม มาตรา 251,53

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 746/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ ฆ่าคนตาย ศาลลดโทษ
ผู้ตายประพฤติเป็นพาล จำเลยสำลักสุราก็หาว่าทำตาแดงใส่ แล้วตบหน้าเตะจำเลยจำเลยหนีลงเรือนผู้ตายตามลงไปจึงเกิดทำร้ายกันขึ้นจำเลยมีมีดผู้ตายไม่มีอาวุธอะไรปรากฏว่าผู้ตายมีแผลถูกแทงสองแห่งที่หน้าท้องและที่แขนถึงแก่ความตายจำเลยมีแผลเล็กน้อยที่เข่าและฝ่ามือย่อมถือได้ว่าการที่จำเลยกระทำแก่ผู้ตายเป็นการป้องกันตัวแต่เกินกว่าเหตุ มีผิดตาม กฎหมายอาญามาตรา 251,53
of 11