คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 127

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 60/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานเพื่อกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์
การที่จำเลยเป็นคนเอากุญแจมืออย่างของตำรวจใส่เจ้าทรัพย์และพวกเจ้าทรัพย์ทั้งได้กระทำการค้น ถือว่าเป็นการแสดงตนและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 60/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานเพื่อกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์
การที่จำเลยเป็นคนเอากุญแจมืออย่างของตำรวจใส่เจ้าทรัพย์และพวกเจ้าทรัพย์ ทั้งได้กระทำการค้นถือว่าเป็นการแสดงตนและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1941/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยปลอมตัวเป็นเจ้าพนักงานขู่กรรโชกทรัพย์ราษฎร เข้าข่ายความผิดฐานปล้นทรัพย์
จำเลย 5 คนเป็นราษฎรแสดงตนว่าเป็นเจ้าพนักงานตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มีปืนและมีดไปจับราษฎรมา โดยแกล้งกล่าวหาว่าเล่นเบี้ยโบกมาตามทางได้ใช้ปืนและมีดขู่เขาให้ให้เงิน ผู้ถูกจับกลัวจึงให้เงินไป 800 บาทจำเลยจึงปล่อยเขาไป เช่นนี้ นอกจากจำเลยจะผิดฐานปลอมตัวเป็นเจ้าพนักงาน และทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพแล้ว ยังมีผิดฐานทำการปล้นเขาด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1941/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมตัวเป็นเจ้าพนักงาน, กักขัง และขู่กรรโชกทรัพย์
จำเลย 5 คน เป็นราษฎรแสดงตนว่าเป็นเจ้าพนักงานตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มีปืนและมีดไปจับราษฎรมา โดยแกล้งกล่าวหาว่าเล่นเบี้ยโบกมาตามทางได้ใช้ปืนและมีดขู่เขาให้ ๆ เงิน ผู้ถูกจับกลัวจึงให้เงินไป 800 บาท จำเลยจึงปล่อยเขาไป เช่นนี้ นอกจากจำเลยจะผิดฐานปลอมตัวเป็นเจ้าพนักงาน และทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพแล้ว ยังมีผิดฐานทำการปล้นเขาด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 574/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมคบกันปล้นทรัพย์, ปลอมตัวเป็นเจ้าพนักงาน, และฆ่าเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่
ความผิดฐานปลอมตนไปกระทำการเป็นเจ้าพนักงานตามม.127 นั้น กฎหมายไม่ได้บัญญัติว่าผู้กระทำจะต้องแต่งเครื่องแบบเจ้าพนักงานด้วย
เมื่อคดีได้ความชัดว่าจำเลยทุกคนกับพวกสมคบกันมากระทำการโจรกรรมโดยมีแผนการณ์ว่าเป็นเจ้าพนักงานจะขอตรวจค้นปืนของผิดกฎหมายแล้วได้ดำเนินการโจรกรรมตามอุบายนี้ ฉะนั้น จำเลยอื่นที่มิได้แต่งเครื่องแบบเจ้าพนักงาน(ตำรวจ)ก็ย่อมมีความผิดฐานเป็นตัวการปลอมตนมากระทำการเป็นเจ้าพนักงานตาม ม.127 เช่นเดียวกับจำเลยที่แต่งเครื่องแบบด้วย
และเมื่อคดีได้ความว่าก่อนลงมือปล้น จำเลยกับพวกทุกคนได้ยินยอมให้คนบนบ้านไปตามผู้ตายซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านมารู้เห็นในการที่จำเลยกับพวกจะทำการตรวจค้น ดังนี้ก็เห็นได้ว่าจำเลยกับพวกได้พร้อมใจกันที่จะทำการต่อต้านขัดขวางในเมื่อผู้ใหญ่บ้านจะกระทำการตามหน้าที่ด้วยอุบายจะยึดตัวผู้ตายหรือต่อสู้ทำร้ายก็แล้วแต่เหตุการณ์ ฉะนั้นเมื่อจำเลยคนใดยิงผู้ใหญ่บ้าน การกระทำนั้นก็อยู่ในแผนการณ์ที่พวกจำเลยทุกคนร่วมรู้อยู่ก่อนแล้วนั่นเอง จำเลยทุกคนย่อมได้ชื่อว่าเป็นตัวการในการฆ่าผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่ด้วย ผิดกับเรื่อง+ไปปล้นเอาทรัพย์อย่าง+ ฉะเพาะ แต่ผู้ร้ายบางคน+ไปยิงใครตายขึ้นโดยเพื่อ+อื่นไม่อาจคาดหมายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 574/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานปลอมตัวเป็นเจ้าพนักงานและร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่
ความผิดฐานปลอมตนไปกระทำการเป็นเจ้าพนักงานตามมาตรา127นั้น กฎหมายไม่ได้บัญญัติว่าผู้กระทำจะต้องแต่งเครื่องแบบเจ้าพนักงานด้วย
เมื่อคดีได้ความชัดว่าจำเลยทุกคนกับพวกสมคบกันมากระทำการโจรกรรมโดยมีแผนการณ์ว่าเป็นเจ้าพนักงานจะขอตรวจค้นปืนของผิดกฎหมาย แล้วได้ดำเนินการโจรกรรมตามอุบายนี้ฉะนั้นจำเลยอื่นที่มิได้แต่งเครื่องแบบเจ้าพนักงาน(ตำรวจ)ก็ย่อมมีความผิดฐานเป็นตัวการปลอมตนมากระทำการเป็นเจ้าพนักงานตามมาตรา 127 เช่นเดียวกับจำเลยที่แต่งเครื่องแบบด้วยและเมื่อคดีได้ความว่าก่อนลงมือปล้นจำเลยกับพวกทุกคนได้ยินยอมให้คนบนบ้านไปตามผู้ตายซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านมารู้เห็นในการที่จำเลยกับพวกจะทำการตรวจค้น ดังนี้ก็เห็นได้ว่าจำเลยกับพวกได้พร้อมใจกันที่จะทำการต่อต้านขัดขวางในเมื่อผู้ใหญ่บ้านจะกระทำการตามหน้าที่ด้วยอุบายจะยึดตัวผู้ตายหรือต่อสู้ทำร้ายก็แล้วแต่เหตุการณ์ฉะนั้นเมื่อจำเลยคนใดยิงผู้ใหญ่บ้าน การกระทำนั้นก็อยู่ในแผนการณ์ที่พวกจำเลยทุกคนร่วมรู้ก่อนแล้วนั่นเองจำเลยทุกคนย่อมได้ชื่อว่าเป็นตัวการในการฆ่าผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่ด้วย ผิดกับเรื่องสมคบกันไปปล้นเอาทรัพย์อย่างเดียวโดยเฉพาะ แต่ผู้ร้ายบางคนเกิดไปยิงใครตายขึ้นโดยเพื่อนผู้ร้ายอื่นไม่อาจคาดหมายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาซ้ำซ้อน ศาลยกฟ้องแล้ว สิทธิฟ้องระงับ
ความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 127,128 อันเป็นความผิดต่อแผ่นดินนั้น ผู้ที่ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดนั้น ก็มีสิทธิเป็นโจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษผู้กระทำผิดได้
การกระทำผิดโดยกรรมเดียววาระเดียว แม้จะเป็นการละเมิดกฎหมายหลายบท ก็จะฟ้องผู้กระทำผิดได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดไปแล้วจะยกกฎหมายบทอื่นที่จำเลย ทำละเมิด แต่ไม่ได้ฟ้องไว้ในครั้งก่อนมาฟ้องจำเลยอีกไม่ได้
จำเลยปลอมตนไปกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยแสดงตนว่าเป็นเจ้าพนักงานสรรพสามิต มาตรวจจับกุมผู้เสียหายหาว่ากระทำผิดแล้วเรียกร้องเอาเงินจากผู้เสียหาย ผู้เสียหายจึงเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 127,268 ศาลไต่สวนแล้วสั่งว่าคดีมีมูลเฉพาะข้อหาตามมาตรา 268 เท่านั้น จำเลยยอมใช้เงิน ผู้เสียหายจึงถอนฟ้องดังนี้ ย่อมถือว่าความผิดตามมาตรา 127 นั้น ศาลได้ยกฟ้องเสียแล้ว สิทธินำคดีมาฟ้องจำเลยตามมาตรา 128 ก็ย่อมระงับไปด้วย อัยการจึงจะมาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 127 หรือ 128 อีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาซ้ำซ้อนเมื่อศาลยกฟ้องไปแล้ว และสิทธิการฟ้องของเหยื่อในความผิดต่อแผ่นดิน
ความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 127,128 อันเป็นความผิดแผ่นดินนั้น ผู้ที่ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดนั้น ก็มีสิทธิเป็นโจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษผู้กระทำผิดได้
การกระทำโดยกรรมเดียววาระเดียว แม้จะเป็นการละเมิดกฎหมายหลายบท ก็จะฟ้องผู้กระทำผิดได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดไปแล้วจะยกกฎหมายบทอื่นที่จำเลย ทำละเมิด แต่ไม่ได้ฟ้องไว้ในครั้งก่อนมาฟ้องจำเลยอีกไม่ได้
จำเลยปลอมตนไปกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยแสดงตนว่าเป็นเจ้าพนักงานสรรพสามิตต์ มาตรวจจับกุมผู้มเสียหายหาว่ากระทำผิดแล้วเรียกร้องเอาเงินจากผู้เสียหาย ๆ จึงเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 127,268 ศาลไต่สวนแล้วสั่งว่าคดีมีมูลเฉพาะข้อหาตามมาตรา 268 เท่านั้น จำเลยยอมใช้เงิน ผู้เสียหายจึงถอนฟ้องดังนี้ ย่อมถือว่าความผิดตามมาตรา 127 นั้น ศาลได้ยกฟ้องเสียแล้ว สิทธินำคดีมาฟ้องจำเลยตามมาตรา 128 ก็ย่อมระงับไปด้วย อัยการจึงจะมาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 127 หรือ 128 อีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 969/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาปลอมตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ การแต่งเครื่องแบบตำรวจต้องมีเจตนาและลงมือกระทำการด้วยจึงผิด
เพียงแต่ว่าจำเลยสรวมหมวกอันเป็นเครื่องแบบตำรวจจะฟังว่าจำเลยปลอมตนเป็นเจ้าพนักงานเสมอไป หาได้ไม่ คดีจะต้องได้ความว่าการกระทำเช่นนั้นจำเลยจะมีเจตนาปลอมตนเป็นเจ้าพนักงาน ทั้งจะต้องได้ความต่อไปอีกว่า ไปกระทำการเป็นเจ้าพนักงานด้วย จึงจะเป็นผิดตามมาตรา 127

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 969/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสวมหมวกตำรวจไม่ใช่การปลอมตัวเป็นเจ้าพนักงาน ต้องมีเจตนาและลงมือกระทำการ
เพียงแต่จำเลยสวมหมวกอันเป็นเครื่องแบบตำรวจ จะฟังว่าจำเลยปลอมตนเป็นเจ้าพนักงานเสมอไปหาได้ไม่ คดีจะต้องได้ความว่าการกระทำเช่นนั้นจำเลยจะมีเจตนาปลอมตนเป็นเจ้าพนักงาน ทั้งจะต้องได้ความต่อไปอีกว่าไปกระทำการเป็นเจ้าพนักงานด้วย จึงจะเป็นผิดตามมาตรา 127
of 2