คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 219.

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 19 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1424/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำกัดสิทธิฎีกาคดีเด็ก: ศาลเปลี่ยนโทษจำคุกเป็นส่งตัวไปฝึกอบรม ไม่ถือเป็นการลงโทษ จึงห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยซึ่งเป็นเยาวชนมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคแรก, 279 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 277 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนัก ลงโทษจำคุกจำเลย 4 ปี เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นส่งตัวจำเลยไปฝึกอบรมที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคแรก ประกอบกับมาตรา 80 ลงโทษจำคุกจำเลย 2 ปี 4 เดือน เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นส่งตัวจำเลยไปฝึกอบรมที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลาง กรณีเป็นการแก้บทลงโทษและกำหนดโทษแม้จะเป็นการแก้ไขมากแต่การที่ศาลทั้งสองเปลี่ยนโทษจำคุกเป็นส่งตัวจำเลยไปฝึกอบรมที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลาง มิใช่การลงโทษ ถือมิได้ว่าศาลทั้งสองพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยเกิน 1 ปี จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219ประกอบกับพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ. 2494 มาตรา 29.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 727/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามฆ่า vs. ทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาชนิดและระยะใกล้ของอาวุธในการประเมินเจตนา
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249, 60 ศาลชั้นต้นไม่เชื่อข้อ เท็จจริง พิพากษายกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บตามมาตรา 254 จำคุก 2 ปี ดังนี้ ดจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามฐานพยายามฆ่าคนตามมาตรา 249 - 60 ได้, ไม่ต้องห้าม.
ปืนที่จำเลยใช้ยิงเขาเป็นปืนลูกซองพก ยาวราว 1 คืบ กระสุนโตเท่าเมล็ดพริกไทย ยิงในระยะห่าง 5 วา ถูกผู้เสีย หายกระสุนฝังเนื้อกล้าม หมอได้แคะออกแสดงว่า ฝังอยู่ตื้น ๆ ผู้เสียหายคนหนึ่งรักษาบาดแผล 10 วัน หาย อีกคน หนึ่งรักษา 6 - 7 วันหาย ประกอบกับโจทก์ไม่ได้สืบว่าปืนนี้ หรือปืนชะนิดนี้อย่างนี้มีกำลังแรงมากน้อยเพียงไร สามารถยิงให้หถึงตายได้หรือไม่ นั้น ควรฟังว่าปืนที่ยิงนั้น ไม่สามารถจะทำให้ผู้ถูกยิงถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึง ยังไม่ผิดฐานพยายามฆ่าคนตาย คงผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บ เท่านั้น. /

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1223/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการดำเนินคดีอาญาเมื่อข้อพิพาทเรื่องสิทธิในที่ดินยังไม่สิ้นสุด และการโต้แย้งสิทธิในที่ดินในทางแพ่ง
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยขัดคำสั่งนายอำเภอที่สั่งให้จำเลยออกจากหนองสาธารณะตาม พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 334(2) จำเลยต่อสู้ว่า ที่พิพาทไม่ใช่หนองสาธารณะ หากเป็นที่ของจำเลยมีกรรมสิทธิ
ศาลชั้นต้นฟังว่า ที่พิพาทไม่ใช่หนองสาธารณะ จึงพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ฟังว่าที่พิพาทเป็นหนองสาธารณะ แต่คงเห็นว่าจำเลยไม่ผิดในทางอาญา จึงพิพากษายืนให้ยกฟ้อง ดังนี้ดดจำเลยจะฎีกาให้ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ว่าที่พิพาทไม่ใช่หนองสาธารณะ ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัยให้ โดยเห็นว่าประเด็นข้อขัดคำสั่งทางอาญานั้นได้ยุติลงแล้วคู่ความชอบที่จะโต้แย้งกันในทางแพ่งได้ว่า หนองพิพาทเป็นหนองสาธารณะหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 708/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงข้อหาจากฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาเป็นเจตนาได้หลังอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249
แม้ศาลชั้นต้นจะพิพากษาลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 251 และศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับให้ยกฟ้องก็ตาม โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริง ขอให้ศาลฎีกาพิพากษาลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 558/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจสอบสวนของตำรวจสันติบาล: การพิพากษายกฟ้องเมื่อโจทก์มิได้แสดงหลักฐานทางกฎหมาย
การที่ศาลชั้นต้นไม่รับฟังว่านายตำรวจสันติบาลผู้ทำการสอบสวนคดีหนึ่งเป็นผู้มีอำนาจสอบสวนเนื่องจากโจทก์มีแต่คำนายตำรวจผู้สอบสวนคดีเดียวมาเบิกความว่า ตำรวจสันติบาลมีตำแหน่งหน้าที่สอบสวนคดีได้ทั้วราชอาณาจักร โดยมิได้อ้างเหตุว่าอาศัยบทกฎหมายข้อบังคับหลักฐานอันใดมาแสดง จึงรับฟังไม่ได้และพิพากษายกฟ้องนั้นเป็นการพิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริง เมื่อศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน โจทก์ย่อมฎีกาไม่ได้ ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 219

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาคดีฆ่าคนตายโดยเจตนา: ศาลฎีกาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าโดยเจตนา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามมาตรา 251 ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโดยไม่เชื่อข้อเท็จจริงดังนี้ โจทก์ยังมีสิทธิฎีกาในข้อเท็จจริง ขอให้ศาลฎีกาลงโทษจำเลยในความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามมาตรา 249 ได้ไม่ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.
อาญามาตรา 219.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1918-1919/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดสมคบกันปล้นทรัพย์และพยายามปล้นทรัพย์: ศาลฎีกาแก้ไขคำพิพากษาให้เป็นไปตามศาลชั้นต้น
คดีที่หาว่า จำเลยปล้นทรัพย์ 2 ราย ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดจริงดังข้อหาทั้ง 2 ราย พิพากษารวมกะทงให้จำคุกจำเลยคนละ 10 ปี ลดกึ่งหนึ่งคงเหลือ 5 ปี ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยพยายามปล้นทรัพย์รายเดียวพิพากษาแก้ให้จำคุกคนละ 6 ปี 8 เดือน ลด 1 ใน 3 คงจำคุกคนละ 4 ปี 5 เดือน 10 วัน ยกฟ้องรายหนึ่ง ดังนี้ โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1344/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีอาญาที่ศาลยกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง ทำให้ฎีกาไม่รับ เพราะเป็นการพิพากษาโดยอาศัยข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยถือว่าทางพิจารณาได้ความต่างกับฟ้อง ก็คือถือว่า ทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยทำผิดตามฟ้องนั่นเอง เป็นการพิพากษาโดยอาศัยข้อเท็จจริงและศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงที่ไม่เชื่อว่าจำเลยได้กระทำผิดดังข้อหา ดังนี้ คดีโจทก์ต้องห้ามฎีกาต่อไป ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 219.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 259/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้สักแปรรูปกลายเป็นล้อเกวียนแล้ว ไม่ถือเป็นไม้แปรรูปตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
ไม้สักได้กลายสภาพเป็นสิ่งของ คือล้อเกวียนไปแล้ว จึงไม่ใช่ไม้แปรรูปตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ 2484 มาตรา 4 (4)
โจทก์ฎีกาว่า วงล้อของกลางหามีเครื่องประกอบพร้อมทุกอย่างอันจะเรียกว่าวงล้อตามความหมายที่เข้าใจกันไม่ จึงยังไม่กลายสภาพมาเป็นสิ่งของ คือล้อเกวียน ดังนี้ เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง จึงต้องห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 874/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเรา: การล่วงล้ำทางเพศภายนอกช่องคลอดไม่ถึงสำเร็จ
ศาลชั้นต้นลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 244 จำคุก 2 ปี ศาลอุทธรณ์แก้ให้ลงโทษตามมาตรา 244, 60 จำคุก 1 ปี 4 เดือน ดังนี้ ถือว่า เป็นการแก้ข้อกำหนดโทษและฐานแห่งความผิด เป็นการแก้มากฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้
ของลับของชายคงถูไถอยู่แต่ปากช่องคลอดด้านนอก ยังไม่เข้าไปข้างใน เป็นผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเรา
of 2