พบผลลัพธ์ทั้งหมด 19 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 773/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากเจตนาเป็นประมาท: โจทก์ไม่สามารถฎีกาในข้อหาเดิมได้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนา ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยฆ่าคนตายโดยประมาท โจทก์จะฎีกาในข้อที่ว่าจำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนาอีกไม่ได้ ต้องห้ามตามมาตรา 219 ป.วิ.อาญา
โจทก์กล่าวในฟ้องและมุ่งประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนา แต่ข้อเท็จจริงกลับได้ความว่า จำเลยฆ่าคนโดยประมาท ซึ่งลักษณะความผิดและโทษต่างกันห่างไกลมาก เรียกได้ว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้อง และไม่ใช่เรื่องที่โจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษ ต้องตามนัยของมาตรา 192 วรรค 2 และ 3 แห่ง ป.วิ.อาญา ลงโทษจำเลยไม่ได้
โจทก์กล่าวในฟ้องและมุ่งประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนา แต่ข้อเท็จจริงกลับได้ความว่า จำเลยฆ่าคนโดยประมาท ซึ่งลักษณะความผิดและโทษต่างกันห่างไกลมาก เรียกได้ว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้อง และไม่ใช่เรื่องที่โจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษ ต้องตามนัยของมาตรา 192 วรรค 2 และ 3 แห่ง ป.วิ.อาญา ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 635/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความผิดเจ้าพนักงานละเว้นการจับกุม และการใช้ดุลยพินิจยกโทษจำคุกในคดีพะนัน
ฎีกาว่าศาลฟังข้อเท็จจริงไม่ตรงตามสำนวนนั้นเป็นข้อกฎหมาย
พลตำรวจไม่จับกุมผู้ลักเล่นการพะนันนั้นไม่เป็นความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 146 เพราะการไม่จับกุมไม่ถือว่า เป็นการป้องกันและขัดขวางมิให้การเป็นไปตามกฎหมาย
การใช้ดุลยพินิจยกโทษจำคุกตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 40 แก่จำเลยในคดีการพะนันย่อมใช้ได้ ไม่เป็นการขัดต่อ พ.ร.บ.การพะนัน
พลตำรวจไม่จับกุมผู้ลักเล่นการพะนันนั้นไม่เป็นความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 146 เพราะการไม่จับกุมไม่ถือว่า เป็นการป้องกันและขัดขวางมิให้การเป็นไปตามกฎหมาย
การใช้ดุลยพินิจยกโทษจำคุกตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 40 แก่จำเลยในคดีการพะนันย่อมใช้ได้ ไม่เป็นการขัดต่อ พ.ร.บ.การพะนัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 767/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาในข้อเท็จจริงขัดแย้งกับข้อพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ จึงต้องห้ามฎีกา
คดีศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องแม้ฟังข้อเท็จจริงไม่ตรงกันก็ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 528/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตเป็นสาระสำคัญของความผิดฐานลักทรัพย์ หากไม่มีเจตนา แม้มีการกระทำแต่ไม่ครบองค์ความผิด
เมื่อข้อเท็จจริงเป็นอันยุติแล้วว่าจำเลยไม่มีเจตนาทุจริต ปัญหาข้อกฏหมายทีว่าการกระทำของจำเลยครบองค์ความผิดฐานลักทรัพย์หรือไม่ ก็ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 295/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเข้าค้นบ้านพักอาศัยต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของบ้านหรือผู้รักษา หากไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นความผิดฐานบุกรุก
ตำรวจมีหมายค้นเข้าค้นบ้านโดยมิได้รับอนุญาตจากคนในบ้าน เพราะเป็นขณะที่เจ้าของไม่อยู่ เป็นการกระทำที่มีมูลในความผิดฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 115/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีลักทรัพย์/รับของโจร/ยักยอก: ศาลฎีกาเน้นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงเป็นสำคัญ
ปัญหาว่ากรรมที่จำเลยกระทำเป็นความผิดฐานใด อันย่อมแล้วแต่ข้อเท็จจริงนั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ไม่มีปัญหากฏหมาย