พบผลลัพธ์ทั้งหมด 43 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 545/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงนามแทนผู้อื่นและข้อความเท็จ: ไม่ถึงขั้นปลอมแปลงเอกสาร
ข้าราชการได้รับบัญชีพลเพื่อให้ไปกรอกข้อความเอาเองเมื่อกรอกข้อความเท็จลงไปก็ย่อมไม่เป็นผิดฐานปลอมหนังสือ แต่อาจเป็นเรื่องจดข้อความเท็จตามมาตรา 230 หรือยักยอกลายมือชื่อตามมาตรา 315 ได้
การลงนามในหนังสือราชการนั้นเมื่อลงนามแทนผู้อื่นโดยมีอำนาจแล้วแม้จะไม่ระบุข้อความว่าลงนามแทนกัน ก็ย่อมไม่เป็นผิดฐานปลอมหนังสือ
การลงนามในหนังสือราชการนั้นเมื่อลงนามแทนผู้อื่นโดยมีอำนาจแล้วแม้จะไม่ระบุข้อความว่าลงนามแทนกัน ก็ย่อมไม่เป็นผิดฐานปลอมหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 545/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลอมหนังสือ vs. จดข้อความเท็จ: การกระทำที่ไม่เข้าข่ายความผิดฐานปลอมหนังสือเมื่อกรอกข้อความในบัญชีพลเอง
ข้าราชการได้รับบัญชีพลเพื่อให้ไปกรอกข้อความเอาเองเมื่อกรอกข้อความเท็จลงไปก็ย่อมไม่เป็นผิดฐานปลอมหนังสือแต่อาจเป็นเรื่องจดข้อความเท็จตามมาตรา 230 หรือยักยอกลายมือชื่อตามมาตรา 315 ได้
การลงนามในหนังสือราชการนั้นเมื่อลงนามแทนผู้อื่นโดยมีอำนาจแล้วแม้จะไม่ระบุข้อความว่าลงนามแทนกัน ก็ย่อมไม่เป็นผิดฐานปลอมหนังสือ
การลงนามในหนังสือราชการนั้นเมื่อลงนามแทนผู้อื่นโดยมีอำนาจแล้วแม้จะไม่ระบุข้อความว่าลงนามแทนกัน ก็ย่อมไม่เป็นผิดฐานปลอมหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลแขวง: คดีนอกฟ้องเกินอำนาจศาลหรือไม่ ศาลแขวงมีอำนาจพิจารณาได้หากบทที่ถูกอ้างถึงเป็นบทนอกฟ้อง
คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 223,304 นั้นอยู่ในอำนาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษาตามพระธรรมนูญศาลยุตติธรรม แม้หนังสือที่ปลอมจะเป็นหนังสือสำคัญอันจะเป็นความผิดตามมาตรา 224,225 ซึ่งมีอัตราโทษเกินอำนาจศาลแขวงก็ดี ก็เป็นเรื่องนอกฟ้องนอกความประสงค์ของโจทก์จึงเป็นคดีที่ศาลแขวงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาได้อยู่นั่นเอง
ศาลแขวงพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยวินิจฉัยว่า คดีเกินอำนาจศาลแขวง โจทก์พอใจมิได้อุทธรณ์ แต่จำเลยกลับอุทธรณ์ว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวง ขอให้ศาลแขวงพิจารณาต่อไป ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าเป็นคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวงจึงให้ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาต่อไป ดังนี้โจทก์ย่อมมีสิทธิฎีกาขอให้ยกฟ้องตามคำวินิจฉัยของศาลแขวงได้
ศาลแขวงพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยวินิจฉัยว่า คดีเกินอำนาจศาลแขวง โจทก์พอใจมิได้อุทธรณ์ แต่จำเลยกลับอุทธรณ์ว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวง ขอให้ศาลแขวงพิจารณาต่อไป ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าเป็นคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวงจึงให้ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาต่อไป ดังนี้โจทก์ย่อมมีสิทธิฎีกาขอให้ยกฟ้องตามคำวินิจฉัยของศาลแขวงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาล: คดีอาญาที่เกินอำนาจศาลแขวงแต่โจทก์ไม่โต้แย้ง จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์และฎีกา
คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 223,304 นั้นอยู่ในอำนาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษาตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม แม้หนังสือที่ปลอมจะเป็นหนังสือสำคัญอันจะเป็นความผิดตามมาตรา 224,225 ซึ่งมีอัตราโทษเกินอำนาจศาลแขวงก็ดีก็เป็นเรื่องนอกฟ้องนอกความประสงค์ของโจทก์จึงเป็นคดีที่ศาลแขวงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาได้อยู่นั่นเอง
ศาลแขวงพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยวินิจฉัยว่า คดีเกินอำนาจศาลแขวงโจทก์พอใจมิได้อุทธรณ์ แต่จำเลยกลับอุทธรณ์ว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวงขอให้ศาลแขวงพิจารณาต่อไป ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวงจึงให้ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาต่อไป ดังนี้ โจทก์ย่อมมีสิทธิฎีกาขอให้ยกฟ้องตามคำวินิจฉัยของศาลแขวงได้
ศาลแขวงพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยวินิจฉัยว่า คดีเกินอำนาจศาลแขวงโจทก์พอใจมิได้อุทธรณ์ แต่จำเลยกลับอุทธรณ์ว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวงขอให้ศาลแขวงพิจารณาต่อไป ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวงจึงให้ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาต่อไป ดังนี้ โจทก์ย่อมมีสิทธิฎีกาขอให้ยกฟ้องตามคำวินิจฉัยของศาลแขวงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 889/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลอมแปลงใบเสร็จรับเงินโดยเจตนาทุจริตเพื่อหลอกลวงผู้อื่น ถือเป็นความผิดฐานปลอมหนังสือ
จำเลยเป็นเสมียนเทศบาลสังกัดในแผนกสมุหบัญชี มีหน้าที่รับเงินภาษีอากรต่าง ๆ ที่ผู้มีหน้าที่นำมาชำระ ว.ฝากเงินจำเลยมาชำระค่าภาษีโรงเรือน จำเลยเอาเงินใช้เสียแล้วใช้ปลายขั้วแบบพิมพ์ใบเสร็จรับเงินของเทศบาลที่เหลือใช้จากปีก่อนมากรอกข้อความว่า ว.ได้ชำระภาษีโรงเรือนแล้ว จำเลยลงชื่อตนเองในช่องผู้รับเงินและพนักงานเก็บภาษี ซึ่งจำเลยจะเซ็นชื่อช่องพนักงานเก็บภาษีไม่ได้ เพราะไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นพนักงานเก็บภาษี ดังนี้ เป็นการแสดงชัดแจ้งว่าเจตนากระทำเทียมให้หลงเชื่อว่าเป็นใบเสร็จอันแท้จริง จำเลยย่อมมีผิดฐานปลอมหนังสือตามมาตรา 225.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 889/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลอมแปลงเอกสารราชการ (ใบเสร็จรับเงิน) เพื่อหลอกลวงผู้อื่น มีความผิดฐานปลอมแปลงหนังสือ
จำเลยเป็นเสมียนเทศบาลสังกัดในแผนกสมุหบัญชี มีหน้าที่รับเงินภาษีอากรต่างๆ ที่ผู้มีหน้าที่นำมาชำระ ว. ฝากเงินจำเลยมาชำระค่าภาษีโรงเรือน จำเลยเอาเงินใช้เสียแล้วใช้ปลายขั้วแบบพิมพ์ใบเสร็จรับเงินของเทศบาลที่เหลือใช้จากปีก่อนมากรอกข้อความว่า ว. ได้ชำระภาษีโรงเรือนแล้วจำเลยลงชื่อตนเองในช่องผู้รับเงินและพนักงานเก็บภาษี ซึ่งจำเลยจะเซ็นชื่อช่องพนักงานเก็บภาษีไม่ได้ เพราะไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นพนักงานเก็บภาษีดังนี้ เป็นการแสดงชัดแจ้งว่าเจตนากระทำเทียมให้หลงเชื่อว่าเป็นใบเสร็จอันแท้จริงจำเลยย่อมมีผิดฐานปลอมหนังสือตามมาตรา 225
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14/92)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14/92)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 149/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญาหลังเจ้าของสิทธิถึงแก่กรรม และการอนุญาตฎีกาของผู้พิพากษาที่ย้ายศาล
ผู้พิพากษาซึ่งเคยนั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้น แม้จะถูกย้ายไปอยู่ศาลอื่นก็ตาม ถ้าหากยังคงเป็นผู้พิพากษาอยู่ ก็ย่อมอนุญาตให้คู่ความในคดีนั้นฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221
คดีของโจทก์มีพยานเอกสารมากมาย เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าพยานบุคคลรับฟังไม่ได้ แม้มีพยานเอกสารมาเจือสมก็ไม่มีผลดีแก่คดีของโจทก์แล้ว ศาลอุทธรณ์จะไม่พิจารณาพยานเอกสารนั้นๆ ต่อไปก็ได้ ไม่เป็นการผิดกฎหมาย
คดีลักทรัพย์ ถ้าปรากฏว่าจำเลยได้กระทำผิดก่อนเจ้าทรัพย์ถึงแก่กรรมทายาทหรือผู้จัดการมรดกของเจ้าทรัพย์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องร้องเพราะไม่ใช่ผู้เสียหาย
ฟ้องโจทก์ได้กล่าวหาว่าจำเลยปลอมหนังสือสัญญากู้และกระทำพยานหลักฐานเท็จตั้งแต่ระยะเวลาก่อนผู้เสียหายถึงแก่กรรมตลอดมาจนภายหลังถึงแก่กรรม คดีไม่อาจชี้ได้ว่าจำเลยกระทำผิดในระยะใด คดีไม่มีทางที่จะรู้ได้ว่าโจทก์จะมีอำนาจฟ้องได้หรือไม่ เช่นนี้ในชั้นฎีกาก็ไม่จำเป็นต้องพิจารณาข้อเท็จจริงต่อไป
ในข้อหาที่ว่าจำเลยอ้างหลักฐานเท็จในคดีแพ่ง คือหาว่าจำเลยอ้างสัญญากู้ที่จำเลยทำปลอมขึ้นโดยเจตนาจะใช้แทนสัญญากู้ฉบับที่จำเลยกู้เงินจากผู้ตาย ดังนี้เมื่อเป็นคดีที่จำเลยฟ้องร้องกันเองในคดีแพ่ง โจทก์ซึ่งเป็นทายาทหรือผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ย่อมไม่ใช่เป็นผู้เสียหายในคดีนั้นจึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีอาญาในข้อหาฐานอ้างหลักฐานเท็จ
คดีของโจทก์มีพยานเอกสารมากมาย เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าพยานบุคคลรับฟังไม่ได้ แม้มีพยานเอกสารมาเจือสมก็ไม่มีผลดีแก่คดีของโจทก์แล้ว ศาลอุทธรณ์จะไม่พิจารณาพยานเอกสารนั้นๆ ต่อไปก็ได้ ไม่เป็นการผิดกฎหมาย
คดีลักทรัพย์ ถ้าปรากฏว่าจำเลยได้กระทำผิดก่อนเจ้าทรัพย์ถึงแก่กรรมทายาทหรือผู้จัดการมรดกของเจ้าทรัพย์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องร้องเพราะไม่ใช่ผู้เสียหาย
ฟ้องโจทก์ได้กล่าวหาว่าจำเลยปลอมหนังสือสัญญากู้และกระทำพยานหลักฐานเท็จตั้งแต่ระยะเวลาก่อนผู้เสียหายถึงแก่กรรมตลอดมาจนภายหลังถึงแก่กรรม คดีไม่อาจชี้ได้ว่าจำเลยกระทำผิดในระยะใด คดีไม่มีทางที่จะรู้ได้ว่าโจทก์จะมีอำนาจฟ้องได้หรือไม่ เช่นนี้ในชั้นฎีกาก็ไม่จำเป็นต้องพิจารณาข้อเท็จจริงต่อไป
ในข้อหาที่ว่าจำเลยอ้างหลักฐานเท็จในคดีแพ่ง คือหาว่าจำเลยอ้างสัญญากู้ที่จำเลยทำปลอมขึ้นโดยเจตนาจะใช้แทนสัญญากู้ฉบับที่จำเลยกู้เงินจากผู้ตาย ดังนี้เมื่อเป็นคดีที่จำเลยฟ้องร้องกันเองในคดีแพ่ง โจทก์ซึ่งเป็นทายาทหรือผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ย่อมไม่ใช่เป็นผู้เสียหายในคดีนั้นจึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีอาญาในข้อหาฐานอ้างหลักฐานเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 34/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริต-การปลอมหนังสือ: ปัญหาข้อเท็จจริง-ไม่มีความผิด
การกระทำของจำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกับศาลชั้นต้น แต่แก้กำหนดโทษจาก 2 ปีเหลือ 1 ปี ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่าจำเลยไม่มีความผิดโจทก์จะฎีกาในข้อนี้ไม่ได้
คนขายสุราของบริษัทเอาน้ำสุราไปขายที่อื่นแล้ว ทำบิลว่านำสุราส่งไปขายให้แก่ร้านค้าปลีกของบริษัท ถือว่าเป็นการทำหนังสือเท็จ ไม่เป็นความผิด ฐานปลอมหนังสือ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกับศาลชั้นต้น แต่แก้กำหนดโทษจาก 2 ปีเหลือ 1 ปี ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่าจำเลยไม่มีความผิดโจทก์จะฎีกาในข้อนี้ไม่ได้
คนขายสุราของบริษัทเอาน้ำสุราไปขายที่อื่นแล้ว ทำบิลว่านำสุราส่งไปขายให้แก่ร้านค้าปลีกของบริษัท ถือว่าเป็นการทำหนังสือเท็จ ไม่เป็นความผิด ฐานปลอมหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 443/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาต้องระบุรายละเอียดเอกสารที่ถูกกล่าวหา หากไม่ส่งเอกสารประกอบการฟ้อง แม้ศาลเสนอให้ส่ง ก็ถือเป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยปลอมหนังสือรวม 43 ฉบับ แต่มิได้ส่งสำเนาให้จำเลย และมิได้ระบุรายละเอียดว่าฉบับไหนใครทำ และทำเมื่อใดแม้โจทก์จะได้ระบุไว้ในฟ้องว่า จะส่งเอกสารในวันพิจารณาก็ดี แต่เมื่อจำเลยคัดค้านโจทก์ก็ยังยืนยันตามฟ้องเดิมไม่ส่งเอกสารเพิ่มเติมดังนี้ ต้องถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 443/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาต้องระบุรายละเอียดข้อหาชัดเจน หากไม่ส่งเอกสารสำคัญประกอบการฟ้อง ถือเป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยปลอมหนังสือรวม 43 ฉะบับ แต่มิได้ส่งสำเนาให้จำเลย และมิได้ระบุรายละเอียดว่า ฉะบับไหนใครทำ และทำเมื่อใด แม้โจทก์จะได้ระบุไว้ในฟ้องว่า จะส่งเอกสารในวันพิจารณาก็ดี แต่เมื่อจำเลยคัดค้านโจทก์ก็ยังยืนยันตามฟ้องเดิมไม่ส่งเอกสารเพิ่มเติมดังนี้ ต้องถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม