พบผลลัพธ์ทั้งหมด 870 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 513/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางอาญาจากการขับรถประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และประเด็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท
กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท
บาดเจ็บถึงสาหัส
จำเลยขับรถรางโดยประมาทชนนางสาวอัมพรบาดเจ็บสาหัสเป็นการกระทำโดยกรรมเดียว ผิดกฎหมายหลายบท ผิด กฎหมายอาญา มาตรา259 และพระราชบัญญัติจราจรฯลฯ ลงโทษตามกฎหมายอาญา มาตรา 259 ซึ่งเป็นบทหนัก
ศีรษะของผู้บาดเจ็บกระแทกเข้ากับฐานซิเมนต์อย่างแรงจนกระเทือนถึงสมองทำให้เรียนหนังสือไม่ได้ อ่านหนังสือไม่ได้ตลอดเวลา 21 วันและตลอดเวลา 2 เดือน เศษแล้วก็ยังเรียนหนังสือไม่ได้ตามปรกติโดยจะดูหนังสือเกินชั่วโมงก็ปวดศีรษะ ถือว่าถึงความทุพพลภาพมีอาการประกอบด้วยทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน เป็นบาดเจ็บถึงสาหัสตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 256(8)
บาดเจ็บถึงสาหัส
จำเลยขับรถรางโดยประมาทชนนางสาวอัมพรบาดเจ็บสาหัสเป็นการกระทำโดยกรรมเดียว ผิดกฎหมายหลายบท ผิด กฎหมายอาญา มาตรา259 และพระราชบัญญัติจราจรฯลฯ ลงโทษตามกฎหมายอาญา มาตรา 259 ซึ่งเป็นบทหนัก
ศีรษะของผู้บาดเจ็บกระแทกเข้ากับฐานซิเมนต์อย่างแรงจนกระเทือนถึงสมองทำให้เรียนหนังสือไม่ได้ อ่านหนังสือไม่ได้ตลอดเวลา 21 วันและตลอดเวลา 2 เดือน เศษแล้วก็ยังเรียนหนังสือไม่ได้ตามปรกติโดยจะดูหนังสือเกินชั่วโมงก็ปวดศีรษะ ถือว่าถึงความทุพพลภาพมีอาการประกอบด้วยทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน เป็นบาดเจ็บถึงสาหัสตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 256(8)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 500/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำเข้ากระบือหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร สถานที่นำเข้าไม่กระทบความผิด
ใบอนุญาตให้นำกระบือเข้ามาตรวจ (เข้ามาในราชอาณาจักร) นั้นหาเกี่ยวข้องกับเรื่องภาษีศุลกากรไม่ เมื่อจำเลยนำเข้ามาโดยไม่เสียภาษีก็ต้องมีความผิด
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยนำกระบือเข้ามาโดยมิได้ผ่านด่านและเสียภาษีศุลกากรในการพิจารณาจำเลยรับว่าได้พากระบือเข้ามาในราชอาณาจักรทางด่านคลองใหญ่โดยมิได้ผ่านด่านและเสียภาษีที่ด่านคลองใหญ่ ดังนี้ก็เป็นอันชัดแจ้งว่า ข้อเท็จจริงตามที่ได้ความในการพิจารณาตรงกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้อง ความข้อนี้จึงเป็นอันยุติ ไม่ต้องพิจารณาถึงข้อที่ว่าจำเลยพากระบือเข้ามาโดยทางใดตำบลใดอีกเลย ฉะนั้นจะยกเอาเหตุที่ว่าทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยพากระบือเข้ามาทางด่านคลองใหญ่ ไม่ใช่ทางบ้านท่าเลื่อน (ดังที่โจทก์กล่าวในฟ้อง) ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาจึงต่างกับฟ้องไม่ได้.
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยนำกระบือเข้ามาโดยมิได้ผ่านด่านและเสียภาษีศุลกากรในการพิจารณาจำเลยรับว่าได้พากระบือเข้ามาในราชอาณาจักรทางด่านคลองใหญ่โดยมิได้ผ่านด่านและเสียภาษีที่ด่านคลองใหญ่ ดังนี้ก็เป็นอันชัดแจ้งว่า ข้อเท็จจริงตามที่ได้ความในการพิจารณาตรงกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้อง ความข้อนี้จึงเป็นอันยุติ ไม่ต้องพิจารณาถึงข้อที่ว่าจำเลยพากระบือเข้ามาโดยทางใดตำบลใดอีกเลย ฉะนั้นจะยกเอาเหตุที่ว่าทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยพากระบือเข้ามาทางด่านคลองใหญ่ ไม่ใช่ทางบ้านท่าเลื่อน (ดังที่โจทก์กล่าวในฟ้อง) ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาจึงต่างกับฟ้องไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 500/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำเข้ากระบือหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร: ข้อเท็จจริงในชั้นพิจารณาตรงกับฟ้อง แม้สถานที่นำเข้าต่างกัน
ใบอนุญาตให้นำกระบือเข้ามาตรวจ(เข้ามาในราชอาณาจักร) นั้นหาเกี่ยวข้องกับเรื่องภาษีศุลกากรไม่เมื่อจำเลยนำเข้ามาโดยไม่เสียภาษีก็ต้องมีความผิด
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยนำกระบือเข้ามาโดยมิได้ผ่านด่านและเสียภาษีศุลกากร ในการพิจารณาจำเลยรับว่าได้พากระบือเข้ามาในราชอาณาจักรทางด่านคลองใหญ่โดยมิได้ผ่านด่านและเสียภาษีที่ด่านคลองใหญ่ ดังนี้ก็เป็นอันชัดแจ้งว่าข้อเท็จจริงตามที่ได้ความในการพิจารณาตรงกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้อง ความข้อนี้จึงเป็นอันยุติ ไม่ต้องพิจารณาถึงข้อที่ว่าจำเลยพากระบือเข้ามาโดยทางใดตำบลใดอีกเลยฉะนั้นจะยกเอาเหตุที่ว่าทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยพากระบือเข้ามาทางด่านคลองใหญ่ไม่ใช่ทางบ้านท่าเลื่อน (ดังที่โจทก์กล่าวในฟ้อง) ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาจึงต่างกับฟ้องไม่ได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยนำกระบือเข้ามาโดยมิได้ผ่านด่านและเสียภาษีศุลกากร ในการพิจารณาจำเลยรับว่าได้พากระบือเข้ามาในราชอาณาจักรทางด่านคลองใหญ่โดยมิได้ผ่านด่านและเสียภาษีที่ด่านคลองใหญ่ ดังนี้ก็เป็นอันชัดแจ้งว่าข้อเท็จจริงตามที่ได้ความในการพิจารณาตรงกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้อง ความข้อนี้จึงเป็นอันยุติ ไม่ต้องพิจารณาถึงข้อที่ว่าจำเลยพากระบือเข้ามาโดยทางใดตำบลใดอีกเลยฉะนั้นจะยกเอาเหตุที่ว่าทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยพากระบือเข้ามาทางด่านคลองใหญ่ไม่ใช่ทางบ้านท่าเลื่อน (ดังที่โจทก์กล่าวในฟ้อง) ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาจึงต่างกับฟ้องไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 469/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันทรัพย์สิน: การยิงเพื่อหยุดยั้งการลักทรัพย์ในเวลากลางคืนและสถานการณ์เร่งด่วน
พฤติการณ์ที่เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 469/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันทรัพย์สินที่พอสมควรแก่เหตุ: การยิงเพื่อหยุดยั้งการลักทรัพย์
พฤติการณ์ที่เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 418/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดิน: หน้าที่ของผู้ขายในการจดทะเบียนแบ่งแยกและโอนขาย แม้ผู้ขายเป็นบุคคลไร้ความสามารถ
สัญญาจะซื้อขายความว่า ผู้ขายยอมขายที่ดิน ซึ่งอยู่ระหว่างแบ่งแยกระหว่างผู้ถือกรรมสิทธิ์รวม เฉพาะส่วนของผู้ขาย 3 ไร่ ดังนี้ เป็นหน้าที่ของผู้ขายต้องจดทะเบียนแบ่งแยก และโอนขายให้ผู้ซื้อผู้ซื้อบังคับตามสัญญาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 368/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกกล่าวเปลี่ยนแปลงลักษณะการยึดถือและการหมดอายุความฟ้องคดีครอบครองปรปักษ์ กรณีผู้เช่าอ้างพินัยกรรม
ผู้เช่านามือเปล่าไม่ชำระค่าเช่า และบอกผู้ให้เช่าว่ามีผู้ทำพินัยกรรมยกนานั้นให้ผู้เช่าเป็นการบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะการยึดถือถ้าผู้ให้เช่าไม่ฟ้องใน 1 ปี ก็หมดสิทธิฟ้องเรียกคืนแม้ผู้ให้เช่าฟ้องครั้งหนึ่งแล้วถอนฟ้องเสียผลของการถอนฟ้องทำให้กลับสู่ฐานะเดิมเหมือนไม่มีการฟ้องเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358-359/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะลูกจ้างกระทบฐานความผิดยักยอกทรัพย์ของเจ้าพนักงาน
จำเลยได้รับการแต่งตั้งเป็นเสมียนเจ้าพนักงานประจำแผนกกลางของสำนักงานท่องเที่ยวกรมประชาสัมพันธ์สำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่ฝ่ายการเงินของสำนักงานท่องเที่ยวกรมประชาสัมพันธ์คือการรับเงินจ่ายเงิน ปกครองรักษาและนำเงินผลประโยชน์รายได้ต่างๆของสำนักงานท่องเที่ยวกรมประชาสัมพันธ์ส่งต่อเจ้าหน้าที่แผนกคลังกรมประชาสัมพันธ์เป็นรายได้ของรัฐบาล จำเลยได้ยักยอกเงินที่ได้รับไว้ในหน้าที่ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ของสำนักงานท่องเที่ยวนี้ได้รับเงินเดือนประเภทการจรมีฐานะเป็นลูกจ้างรายเดือนของสำนักงานและในคำให้การของจำเลยชั้นสอบสวนปรากฏว่าจำเลยรับราชการเป็นลูกจ้างได้ค่าจ้างเป็นรายเดือน จำเลยจึงไม่เป็นข้าราชการตามพระราชบัญญัติข้าราชการพลเรือน ถือไม่ได้ว่าเป็นเจ้าพนักงานอันจะเป็นผิดตาม มาตรา131
ในคดียักยอกทรัพย์ถึงที่สุดในศาลอุทธรณ์โดยศาลพิพากษาว่าจำเลยผิด กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา319(3) คู่ความไม่ได้ฎีกาขึ้นมาก็ตามแต่เนื่องจากประมวลกฎหมายอาญา มาตรา3 บัญญัติให้ใช้ กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิดและตามประมวลกฎหมายอาญามิได้บัญญัติการกระทำของจำเลยอันความผิดตรงกับ มาตรา319 ดังนั้นความผิดของจำเลยจึงเข้า มาตรา352 ฐานยักยอกทรัพย์ธรรมดาซึ่งมีโทษเบากว่าโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา319 จึงต้องใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา352 บังคับลงโทษจำเลย
ในคดียักยอกทรัพย์ถึงที่สุดในศาลอุทธรณ์โดยศาลพิพากษาว่าจำเลยผิด กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา319(3) คู่ความไม่ได้ฎีกาขึ้นมาก็ตามแต่เนื่องจากประมวลกฎหมายอาญา มาตรา3 บัญญัติให้ใช้ กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิดและตามประมวลกฎหมายอาญามิได้บัญญัติการกระทำของจำเลยอันความผิดตรงกับ มาตรา319 ดังนั้นความผิดของจำเลยจึงเข้า มาตรา352 ฐานยักยอกทรัพย์ธรรมดาซึ่งมีโทษเบากว่าโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา319 จึงต้องใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา352 บังคับลงโทษจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 335/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งสำเนาเอกสารประกอบการต่อสู้คดี ศาลรับฟังได้แม้ไม่ได้ส่งสำเนาก่อนวันสืบพยาน
จำเลยอ้างเอกสารเป็นประเด็นในคำให้การ และวันชี้สองสถานศาลได้เรียกเอกสารนั้นไปจากจำเลย แล้วให้โจทก์ดูเอกสารนั้นแล้ว เช่นนี้จำเลยหาจำต้องส่งสำเนาเอกสารให้แก่โจทก์ก่อนวันสืบพยานอีกไม่ และอนึ่งการที่ไม่ได้ส่งสำเนาเอกสารให้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งนั้นไม่ถึงกับทำให้ศาลรับฟังเอกสารนั้นไม่ได้เสียทีเดียว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 335/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารประกอบการต่อสู้คดี ศาลรับฟังได้แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้คู่ความ หากศาลได้ตรวจสอบแล้ว
จำเลยอ้างเอกสารเป็นประเด็นในคำให้การ และวันชี้สองสถานศาลได้เรียกเอกสารนั้นไปจากจำเลย แล้วให้โจทก์ดูเอกสารนั้นแล้วเช่นนี้จำเลยหาจำต้องส่งสำเนาเอกสารให้แก่โจทก์ก่อนวันสืบพยานอีกไม่ และอนึ่งการที่ไม่ได้ส่งสำเนาเอกสารให้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งนั้นไม่ถึงกับทำให้ศาลรับฟังเอกสารนั้นไม่ได้เสียทีเดียว