พบผลลัพธ์ทั้งหมด 870 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1490/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องหนี้และการทำลายหลักประกัน ศาลอนุญาตฟ้องได้เมื่อจำเลยทำลายหลักประกันหนี้
ในฟ้องโจทก์อ้างสิทธิเรียกร้องเงินกู้ เพราะจำเลยไม่มีสิทธิที่จะได้รับประโยชน์แห่งเงื่อนเวลา จำเลยไม่ได้ต่อสู้อย่างใด คงปฏิเสธว่าไม่ได้กู้ไปตามฟ้อง ทั้งปัญหาข้อนี้ไม่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ดังนี้เกี่ยวกับเรื่องเงื่อนเวลา จึงไม่เป็นประเด็นที่ศาลจะยกขึ้นวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1490/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องหนี้เมื่อลูกหนี้ทำประกันลดน้อยลง แม้จะยังไม่ถึงกำหนดชำระ
ในฟ้องโจทก์อ้างสิทธิเรียกร้องเงินกู้ เพราะจำเลยไม่มีสิทธิที่จะได้รับประโยชน์แห่งเงื่อนเวลา จำเลยไม่ได้ต่อสู้อย่างใด คงปฏิเสธว่าไม่ได้กู้ไปตามฟ้อง ทั้งปัญหาข้อนี้ไม่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ดังนี้เกี่ยวกับเรื่องเงื่อนเวลา จึงไม่เป็นประเด็นที่ศาลจะยกขึ้นวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1490/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผิดสัญญาเงินกู้และการเรียกร้องสิทธิก่อนกำหนดเมื่อประกันลดน้อยลง
ในฟ้องโจทก์อ้างสิทธิเรียกร้องเงินกู้เพราะจำเลยไม่มีสิทธิที่จะได้รับประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาจำเลยไม่ได้ต่อสู้อย่างใด คงปฏิเสธไม่ได้กู้ไปตามฟ้อง ทั้งปัญหาข้อนี้ไม่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ดังนี้เกี่ยวกับเรื่องเงื่อนเวลาจึงไม่เป็นประเด็นที่ศาลจะยกขึ้นวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1442/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวตามกฎหมายอาญา: การกระทำเพื่อป้องกันภยันตรายจากผู้ที่ลงมือทำร้าย
ผู้ตายห้อยโหนลงมาจากหน้าต่างเรือนของจำเลยในเวลาดึกดื่น (ผู้ตายกับพี่สาวจำเลยผูกสมัครรักใคร่กัน) ทั้งเป็นเวลาเดือนมืดและได้ลงมายืนประจันหน้ากับจำเลย พฤติการณ์เช่นนี้ย่อมทำให้จำเลยเข้าใจว่าผู้ที่ยืนอาจทำร้ายจำเลย และไม่รู้ได้ว่าผู้นั้นไม่มีอาวุธร้ายแรงที่พอจะทำลายชีวิตจำเลยได้
เมื่อจำเลยแทงผู้ที่ยืนประจันหน้าไปเสียก่อนเช่นนี้ย่อมเป็นการกระทำเพื่อป้องกันชีวิตของตน อนึ่งแม้จะแทงโดยแรงโดยอาจแลเห็นผลว่าจะทำให้ผู้นั้นถึงตายได้ก็ตามก็เป็นการกระทำในเวลาฉุกเฉินจึงไม่เป็นการกระทำเกินสมควรแก่เหตุ เป็นการกระทำที่ได้รับยกเว้นอาญาตาม ก.ม.อาญา ม.50
เมื่อจำเลยแทงผู้ที่ยืนประจันหน้าไปเสียก่อนเช่นนี้ย่อมเป็นการกระทำเพื่อป้องกันชีวิตของตน อนึ่งแม้จะแทงโดยแรงโดยอาจแลเห็นผลว่าจะทำให้ผู้นั้นถึงตายได้ก็ตามก็เป็นการกระทำในเวลาฉุกเฉินจึงไม่เป็นการกระทำเกินสมควรแก่เหตุ เป็นการกระทำที่ได้รับยกเว้นอาญาตาม ก.ม.อาญา ม.50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1442/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การแทงเพื่อป้องกันภัยจากผู้บุกรุกในเวลากลางคืน
ผู้ตายห้อยโหนลงมาจากหน้าต่างเรือนของจำเลยในเวลาดึกดื่น (ผู้ตายกับพี่สาวจำเลยผูกสมัครรักใคร่กัน) ทั้งเป็นเวลาเดือนมืดและได้ลงมายืนประจันหน้ากับจำเลย พฤติการณ์เช่นนี้ย่อมทำให้จำเลยเข้าใจว่าผู้ที่ยืนอยู่นั้นเป็นขโมยขึ้นลักทรัพย์และอาจทำร้ายจำเลย และไม่รู้ได้ว่าผู้นั้นไม่มีอาวุธร้ายแรงที่พอจะทำลายชีวิตจำเลยได้
เมื่อจำเลยแทงผู้ที่ยืนประจันหน้าไปเสียก่อน เช่นนี้ย่อมเป็นการกระทำเพื่อป้องกันชีวิตของตน อนึ่งแม้จะแทงโดยแรงโดยอาจแลเห็นผลว่าจะทำให้ผู้นั้นถึงตายได้ก็ตามก็เป็นการกระทำในเวลาฉุกเฉิน จึงไม่เป็นการกระทำเกินสมควรแก่เหตุ เป็นการกระทำที่ได้รับยกเว้นอาญาตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 50
เมื่อจำเลยแทงผู้ที่ยืนประจันหน้าไปเสียก่อน เช่นนี้ย่อมเป็นการกระทำเพื่อป้องกันชีวิตของตน อนึ่งแม้จะแทงโดยแรงโดยอาจแลเห็นผลว่าจะทำให้ผู้นั้นถึงตายได้ก็ตามก็เป็นการกระทำในเวลาฉุกเฉิน จึงไม่เป็นการกระทำเกินสมควรแก่เหตุ เป็นการกระทำที่ได้รับยกเว้นอาญาตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1442/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวในภาวะฉุกเฉิน: การแทงเพื่อป้องกันภัยจากบุคคลที่บุกรุกเข้ามาในบ้าน
ผู้ตายห้อยโหนลงมาจากหน้าต่างเรือนของจำเลยในเวลาดึกดื่น (ผู้ตายกับพี่สาวจำเลยผูกสมัครรักใคร่กัน) ทั้งเป็นเวลาเดือนมืดและได้ลงมายืนประจันหน้ากับจำเลย พฤติการณ์เช่นนี้ย่อมทำให้จำเลยเข้าใจว่าผู้ที่ยืนอยู่นั้นเป็นขโมยขึ้นลักทรัพย์และอาจทำร้ายจำเลย และไม่รู้ได้ว่าผู้นั้นไม่มีอาวุธร้ายแรงที่พอจะทำลายชีวิตจำเลยได้
เมื่อจำเลยแทงผู้ที่ยืนประจันหน้าไปเสียก่อน เช่นนี้ย่อมเป็นการกระทำเพื่อป้องกันชีวิตของตน อนึ่งแม้จะแทงโดยแรงโดยอาจแลเห็นผลว่าจะทำให้ผู้นั้นถึงตายได้ก็ตามก็เป็นการกระทำในเวลาฉุกเฉิน จึงไม่เป็นการกระทำเกินสมควรแก่เหตุ เป็นการกระทำที่ได้รับยกเว้นอาญาตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 50
เมื่อจำเลยแทงผู้ที่ยืนประจันหน้าไปเสียก่อน เช่นนี้ย่อมเป็นการกระทำเพื่อป้องกันชีวิตของตน อนึ่งแม้จะแทงโดยแรงโดยอาจแลเห็นผลว่าจะทำให้ผู้นั้นถึงตายได้ก็ตามก็เป็นการกระทำในเวลาฉุกเฉิน จึงไม่เป็นการกระทำเกินสมควรแก่เหตุ เป็นการกระทำที่ได้รับยกเว้นอาญาตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพาผู้อื่นเพื่ออนาจาร ความผิดตาม ม.276 แม้ไม่มีการชำเราเกิดขึ้น
ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามศาลล่างทั้งสองว่าจำเลยสมคบกันใช้อุบายทุจริตล่อลวงพานางสุมล (อายุ 17 ปี 6 เดือน) ไปเพื่ออนาจารฉนั้นความผิดของจำเลยจึงต้องด้วย ม. 276 เท่านั้น ไม่ผิด ม. 275 ด้วยเพราะมิใช่เป็นเรื่องเกลี้ยกล่อมพาเด็กไปเสียจากบิดามารดาหรือผู้มีอำนาจคุ้มครองโดยเจตนาหากำไรหรือเพื่อการอนาจารถึงเด็กจะเต็มใจไปด้วย
เมื่อผู้ใดมีเจตนาพาผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารก็ย่อมเป็นความผิดสมบูรณ์ตาม ม.276 แล้วไม่จำเป็นถึงต้องถูกชำเราหรือถูกทำอนาจารด้วย
เมื่อผู้ใดมีเจตนาพาผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารก็ย่อมเป็นความผิดสมบูรณ์ตาม ม.276 แล้วไม่จำเป็นถึงต้องถูกชำเราหรือถูกทำอนาจารด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพาผู้อื่นไปเพื่ออนาจาร ความผิดตามมาตรา 276 แม้ไม่มีการชำเรา
ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามศาลล่างทั้งสองว่าจำเลยสมคบกันใช้อุบายทุจริตล่อลวงพานางสุมล (อายุ 17 ปี 6 เดือน) ไปเพื่ออนาจาร ฉะนั้นความผิดของจำเลยจึงต้องด้วย มาตรา 276 เท่านั้น ไม่ผิด มาตรา 275 ด้วย เพราะมิใช่เป็นเรื่องเกลี้ยกล่อมพาเด็กไปเสียจากบิดามารดาหรือผู้มีอำนาจคุ้มครองโดยเจตนาหากำไรหรือเพื่อการอนาจารถึงเด็กจะเต็มใจไปด้วย
เมื่อผู้ใดมีเจตนาพาผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารก็ย่อมเป็นความผิดสมบูรณ์ตาม มาตรา 276 แล้ว ไม่จำเป็นถึงต้องถูกชำเราหรือถูกทำอนาจารด้วย
เมื่อผู้ใดมีเจตนาพาผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารก็ย่อมเป็นความผิดสมบูรณ์ตาม มาตรา 276 แล้ว ไม่จำเป็นถึงต้องถูกชำเราหรือถูกทำอนาจารด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพาผู้อื่นเพื่ออนาจารเป็นความผิด แม้ไม่ได้ชำเราและผู้เสียหายยินยอม
ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามศาลล่างทั้งสองว่าจำเลยสมคบกันใช้อุบายทุจริตล่อลวงพานางสุมล (อายุ 17 ปี 6 เดือน) ไปเพื่ออนาจาร ฉะนั้นความผิดของจำเลยจึงต้องด้วย มาตรา 276 เท่านั้น ไม่ผิด มาตรา 275 ด้วย เพราะมิใช่เป็นเรื่องเกลี้ยกล่อมพาเด็กไปเสียจากบิดามารดาหรือผู้มีอำนาจคุ้มครองโดยเจตนาหากำไรหรือเพื่อการอนาจารถึงเด็กจะเต็มใจไปด้วย
เมื่อผู้ใดมีเจตนาพาผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารก็ย่อมเป็นความผิดสมบูรณ์ตาม มาตรา 276 แล้ว ไม่จำเป็นถึงต้องถูกชำเราหรือถูกทำอนาจารด้วย
เมื่อผู้ใดมีเจตนาพาผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารก็ย่อมเป็นความผิดสมบูรณ์ตาม มาตรา 276 แล้ว ไม่จำเป็นถึงต้องถูกชำเราหรือถูกทำอนาจารด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในการยึดทรัพย์ของผู้ต้องชำระหนี้ แม้ผู้ร้องอ้างเป็นเจ้าของ แต่ขาดหลักฐาน
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษายึดสังหาริมทรัพย์อันจำเลยครอบครองใช้สอยอยู่เป็นประจำ แม้ผู้ร้องขัดทรัพย์จะอ้างว่าซื้อจากจำเลย แต่ก็หามีหลักฐานอ้างอิงไม่ ย่อมต้องถือว่าทรัพย์นั้นยังเป็นของจำเลยอยู่
รถจักรยาน 3 ล้อ ซึ่งเจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำยึดแม้ผู้ร้องจะรับจำนำไว้ก็ดี ผู้ร้องก็หามีสิทธิจะเรียกขอให้ศาลปล่อยทรัพย์นี้ได้ไม่ คงเรียกร้องให้บังคับตามสิทธิของตนตาม ก.ม.ว่าด้วยการนั้นเท่านั้น
รถจักรยาน 3 ล้อ ซึ่งเจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำยึดแม้ผู้ร้องจะรับจำนำไว้ก็ดี ผู้ร้องก็หามีสิทธิจะเรียกขอให้ศาลปล่อยทรัพย์นี้ได้ไม่ คงเรียกร้องให้บังคับตามสิทธิของตนตาม ก.ม.ว่าด้วยการนั้นเท่านั้น