พบผลลัพธ์ทั้งหมด 870 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1047/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดหย่อนโทษอาญาในกรณีถูกยั่วโทสะและการกระทำโดยพลั้งพลาด
ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้หนึ่งก่อเหตุท้าทายและชกต่อยจำเลยจำเลยหนีก็ยังไล่ตามจะทำร้ายอีก จำเลยจึงชักมีดแทงไปเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าเป็นการยั่วโทสะจำเลยก่อน หาใช่เป็นกรณีวิวาทกันไม่
การที่จำเลยถูกผู้หนึ่งกดขี่ข่มเหงร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม จึงบันดาลโทสะจะแทงผู้นั้น หากแต่พลั้งพลาดไปถูกผู้ตายซึ่งเข้ามาห้ามเช่นนี้จำเลยควรได้รับลดหย่อนโทษตาม กฎหมายดุจกระทำแก่ผู้นั้น
คดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เมื่อโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
การที่จำเลยถูกผู้หนึ่งกดขี่ข่มเหงร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม จึงบันดาลโทสะจะแทงผู้นั้น หากแต่พลั้งพลาดไปถูกผู้ตายซึ่งเข้ามาห้ามเช่นนี้จำเลยควรได้รับลดหย่อนโทษตาม กฎหมายดุจกระทำแก่ผู้นั้น
คดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เมื่อโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1047/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยถูกยั่วยุและพลั้งพลาดทำร้ายผู้อื่น: การลดหย่อนโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๕
ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้หนึ่งก่อเหตุท้าทายและชกต่อยจำเลย ๆ หนีก็ยังไล่ตามจะทำร้ายอีก จำเลยจึงชักมีดแทงไปเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าเป็นการยั่วโทษะจำเลยก่อน หาใช่เป็นกรณีวิวาทกันไม่
การที่จำเลยถูกผู้หนึ่งกดขี่ข่มเหงร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม จึงบรรดาลโทษะจะแทงผู้นั้น หากแต่พลั้งพลาดไปถูกผู้ตายซึ่งเข้ามาห้ามเช่นนี้ จำเลยควรได้รับลดหย่อนโทษตาม ก.ม.ดุจกระทำแก่ผู้นั้น
คดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เมื่อโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
การที่จำเลยถูกผู้หนึ่งกดขี่ข่มเหงร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม จึงบรรดาลโทษะจะแทงผู้นั้น หากแต่พลั้งพลาดไปถูกผู้ตายซึ่งเข้ามาห้ามเช่นนี้ จำเลยควรได้รับลดหย่อนโทษตาม ก.ม.ดุจกระทำแก่ผู้นั้น
คดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เมื่อโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1047/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแทงผู้อื่นโดยถูกยั่วยุก่อนและพลั้งพลาดไปถูกผู้ห้าม ลดหย่อนโทษตามกฎหมายได้
ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้หนึ่งก่อเหตุท้าทายและชกต่อยจำเลยจำเลยหนีก็ยังไล่ตามจะทำร้ายอีก จำเลยจึงชักมีดแทงไปเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าเป็นการยั่วโทสะจำเลยก่อน หาใช่เป็นกรณีวิวาทกันไม่
การที่จำเลยถูกผู้หนึ่งกดขี่ข่มเหงร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม จึงบันดาลโทสะจะแทงผู้นั้น หากแต่พลั้งพลาดไปถูกผู้ตายซึ่งเข้ามาห้ามเช่นนี้จำเลยควรได้รับลดหย่อนโทษตาม กฎหมายดุจกระทำแก่ผู้นั้น
คดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เมื่อโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
การที่จำเลยถูกผู้หนึ่งกดขี่ข่มเหงร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม จึงบันดาลโทสะจะแทงผู้นั้น หากแต่พลั้งพลาดไปถูกผู้ตายซึ่งเข้ามาห้ามเช่นนี้จำเลยควรได้รับลดหย่อนโทษตาม กฎหมายดุจกระทำแก่ผู้นั้น
คดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เมื่อโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1046/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยักยอกทรัพย์: การรับฝากขายและการเบียดบังทรัพย์สินของผู้อื่น
การที่จำเลยได้รับมอบตะกร้าของโจทก์ไปเพื่อขายโดยตกลงกันว่าขายได้จะชำระราคาตามที่โจทก์ตีไว้เมื่อขายไม่ได้โจทก์ยอมรับคืน ดังนี้หาใช่โจทก์ตกลงขายตระกร้าให้จำเลยไม่กรรมสิทธิยังเป็นของโจทก์อยู่หากจำเลยมีเจตนาทุจริตเบียดบังเอาตะกร้าซึ่งรับมอบไว้เป็นประโยชน์ของตนเสียเอง ย่อมต้องมีผิดฐานยักยอก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1046/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยักยอกทรัพย์: การรับมอบทรัพย์เพื่อขายแล้วเบียดบังเอาเป็นของตนเอง
การที่จำเลยได้รับมอบตะกร้าของโจทก์ไปเพื่อขายโดยตกลงกันว่าถ้าขายได้จะชำระราคาตามที่โจทก์ตีไว้ เมื่อขายไม่ได้โจทก์ยอมรับคืน ดังนี้หาใช่โจทก์ตกลงขายตะกร้าให้จำเลยไม่ กรรมสิทธิ์ยังเป็นของโจทก์อยู่หากจำเลยมีเจตนาทุจริตเบียดบังเอาตะกร้าซึ่งรับมอบไว้เป็นประโยชน์ของตนเสียเอง ย่อมต้องมีผิดฐานยักยอก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1046/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยักยอกทรัพย์: การมอบหมายให้ขายและการเบียดบังทรัพย์สิน
การที่จำเลยได้รับมอบตะกร้าของโจทก์ไปเพื่อขายโดยตกลงกันว่าถ้าขายได้จะชำระราคาตามที่โจทก์ตีไว้ เมื่อขายไม่ได้โจทก์ยอมรับคืน ดังนี้หาใช่โจทก์ตกลงขายตะกร้าให้จำเลยไม่ กรรมสิทธิ์ยังเป็นของโจทก์อยู่หากจำเลยมีเจตนาทุจริตเบียดบังเอาตะกร้าซึ่งรับมอบไว้เป็นประโยชน์ของตนเสียเอง ย่อมต้องมีผิดฐานยักยอก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1013/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาบริการไฟฟ้า: การผูกพันตามสัมปทานและการเรียกเก็บเงินประกันที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ผู้ได่รับสัมปทานตั้งโรงทำการจำหน่ายไฟฟ้านั้นถือได้ว่าได้ทำคำเสนอแสดงออกต่อบุคคลทั่วไปว่าจะรับจำหน่างไฟฟ้าให้แก่ประชาชาชนในเขตสัมปทาน เมื่อมีผู้ขอให้ไฟฟ้าโดยยอมรับปฏิบัติตามสัมปทานแล้วก็ถือได้ว่าได้มีการสนองรับคำเสนอก่อให้เกิดสัญญาผูกพันกันขึ้นตามข้อที่กำหนดไว้ในสัมปทาน ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จะเรียกร้องตั้งข้อกำหนดนอกเหนือไปจากสัมปทานอีกไม่ได้และบอกเลิกสัญญาโดยลำพังตาม ป.พ.พ.ม. 386 ก็ไม่ได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 14/2498)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 14/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1013/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาไฟฟ้าและสัมปทาน: สิทธิของผู้ใช้ไฟฟ้าและขอบเขตของเงื่อนไขสัญญา
ผู้ได้รับสัมปทานตั้งโรงทำการจำหน่ายไฟฟ้านั้นถือได้ว่าได้ทำคำเสนอแสดงออกต่อบุคคลทั่วไปว่าจะรับจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ประชาชนในเขตสัมปทาน เมื่อมีผู้ขอใช้ไฟฟ้าโดยยอมรับปฏิบัติตามสัมปทานแล้ว ก็ถือได้ว่าได้มีการสนองรับคำเสนอก่อให้เกิดสัญญาผูกพันกันขึ้นตามข้อที่กำหนดไว้ในสัมปทาน ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเรียกร้องตั้งข้อกำหนดนอกเหนือไปจากสัมปทานอีกไม่ได้ และบอกเลิกสัญญาโดยลำพังตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 386 ก็ไม่ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่14/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1013/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัมปทานไฟฟ้า: การเสนอขายต่อสาธารณะ ก่อให้เกิดสัญญาผูกพัน สิทธิในการเรียกเก็บเงินนอกเหนือสัมปทานเป็นโมฆะ
ผู้ได้รับสัมปทานตั้งโรงทำการจำหน่ายไฟฟ้านั้นถือได้ว่าได้ทำคำเสนอแสดงออกต่อบุคคลทั่วไปว่าจะรับจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ประชาชนในเขตสัมปทาน เมื่อมีผู้ขอใช้ไฟฟ้าโดยยอมรับปฏิบัติตามสัมปทานแล้ว ก็ถือได้ว่าได้มีการสนองรับคำเสนอก่อให้เกิดสัญญาผูกพันกันขึ้นตามข้อที่กำหนดไว้ในสัมปทาน ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเรียกร้องตั้งข้อกำหนดนอกเหนือไปจากสัมปทานอีกไม่ได้ และบอกเลิกสัญญาโดยลำพังตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 386 ก็ไม่ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่14/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1000/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีอาญาที่โจทก์ไม่ติดใจอุทธรณ์จำเลยบางคน ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจวินิจฉัยลงโทษ
จำเลยผู้ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องไปแล้ว และโจทก์เห็นพ้องด้วย ไม่ติดใจอุทธรณ์ขึ้นมา คดีเฉพาะตัวจำเลยผู้นั้นจึงเป็นอันยุติเพียงศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์จะกลับยกขึ้นมาวินิจฉัยชี้ขาดลงโทษจำเลยผู้นั้นด้วยหาได้ไม่