พบผลลัพธ์ทั้งหมด 870 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 913/2498
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การเพิ่มโทษกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ โดยอาศัยประวัติอาชญากรรมเดิมและความร้ายแรงของคดีทำร้ายร่างกาย
                        
                        เมื่อศาลพิพากษาว่า จำเลยกระทำผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 119,120,25 ดังนี้แม้ศาลจะใช้ มาตรา 120 เป็นบทลงโทษจำเลยก็ดี ก็เป็นเรื่องปรับบทลงโทษจำเลยตามกฎหมาย เท่านั้นคดียังต้องฟังว่าจำเลยได้กระทำผิดฐานทำร้ายร่างกายตาม มาตรา 254 ซึ่งเป็นความอาญาอันเป็นเหตุร้ายตามพระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ.2479 ถ้ามีเหตุสมควรศาลก็มีอำนาจเพิ่มโทษกักกันจำเลยได้
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 888/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            ผู้รับมอบทรัพย์เสียหายจากการถูกทำลายทรัพย์ ย่อมมีสิทธิร้องทุกข์ดำเนินคดีอาญาได้
                        
                        รับมอบทรัพย์ของผู้อื่นไว้เพื่อหาประโยชน์ มีคนมาทำอันตรายแก่ทรัพย์นั้นเป็นเหตุให้ทรัพย์เสียหายไม่อาจใช้หาประโยชน์ได้ ผู้รับมอบทรัพย์ย่อมเป็นผู้เสียหายตาม วิ.อาญา.ม. 2(4) มีสิทธิร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานดำเนินคดี ฐานทำให้เสียทรัพย์ได้
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 888/2498
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            ผู้รับมอบทรัพย์เสียหายจากการถูกทำลายทรัพย์ ย่อมมีสิทธิร้องทุกข์ได้
                        
                        รับมอบทรัพย์ของผู้อื่นไว้เพื่อหาประโยชน์ มีคนมาทำอันตรายแก่ทรัพย์นั้น เป็นเหตุให้ทรัพย์เสียหายไม่อาจใช้หาประโยชน์ได้ผู้รับมอบทรัพย์ย่อมเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) มีสิทธิร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานดำเนินคดีฐานทำให้เสียทรัพย์ได้
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การรับขนสินค้าทางเรือชายฝั่ง: ผู้รับขนส่งต้องรับผิดชอบความเสียหายเว้นแต่มีเหตุสุดวิสัย
                        
                        การรับขนเบียร์โดยทางเรือจากกรุงเทพ ฯ ไปสุราษฎร์ธานี ถือว่าเป็นการรับขนตามชายฝั่งอ่าวไทยหรือในน่านน้ำไทย หาใช่เป็นการรับขนของทางทะเลไม่ดังนั้นจะนำเอาอายุความ 6 เดือนของ พ.ร.บ.เดินเรือมาใช้หาได้ไม่
เมื่อจำเลยเป็นผู้รับขนส่งของเพื่อบำเหน็จ หากของนั้นเกิดสูญหายบุบสลายขึ้นจำเลยก็ต้องรับผิด เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าการนั้นเกิดแต่เหตุสุดวิสัยหรือแต่สภาพแห่งของนั้นหรือเพราะความผิดของผู้ส่งหรือผุ้ตราส่งตาม ม.616
                                    เมื่อจำเลยเป็นผู้รับขนส่งของเพื่อบำเหน็จ หากของนั้นเกิดสูญหายบุบสลายขึ้นจำเลยก็ต้องรับผิด เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าการนั้นเกิดแต่เหตุสุดวิสัยหรือแต่สภาพแห่งของนั้นหรือเพราะความผิดของผู้ส่งหรือผุ้ตราส่งตาม ม.616
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828/2498
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            ขอบเขตการรับขนส่งชายฝั่งอ่าวไทยและหน้าที่ความรับผิดของผู้รับขนส่งตามมาตรา 616
                        
                        การรับขนเบียร์โดยทางเรือจากกรุงเทพฯ ไปสุราษฎร์ธานีถือว่าเป็นการรับขนของตามชายฝั่งอ่าวไทยหรือในน่านน้ำไทยหาใช่เป็นการรับขนของทางทะเลไม่ดังนั้นจะนำเอาอายุความ 6 เดือนของพระราชบัญญัติเดินเรือมาใช้หาได้ไม่
เมื่อจำเลยเป็นผู้รับขนส่งของเพื่อบำเหน็จหากของนั้นเกิดสูญหายหรือบุบสลายขึ้น จำเลยก็ต้องรับผิดเว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าการนั้นเกิดแต่เหตุสุดวิสัยหรือแต่สภาพแห่งของนั้นหรือเพราะความผิดของผู้ส่งหรือผู้ตราส่งตาม มาตรา 616
                                    เมื่อจำเลยเป็นผู้รับขนส่งของเพื่อบำเหน็จหากของนั้นเกิดสูญหายหรือบุบสลายขึ้น จำเลยก็ต้องรับผิดเว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าการนั้นเกิดแต่เหตุสุดวิสัยหรือแต่สภาพแห่งของนั้นหรือเพราะความผิดของผู้ส่งหรือผู้ตราส่งตาม มาตรา 616
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 813/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            ขอบเขตความรับผิดของผู้ค้ำประกัน: ค้ำช่างทองเฉพาะความเสียหายในหน้าที่การงาน ไม่รวมเงินล่วงหน้า
                        
                        ทำสัญญาค้ำประกันลูกจ้างซึ่งทำหน้าที่เป็นช่างทองของโจทก์โดยยอมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายที่ลูกจ้างทำขึ้นนั้น ย่อมหมายความว่าผู้ค้ำประกันยอมใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ซึ่งเกิดจากการกระทำของลูกจ้างในหน้าที่การงานที่จ้างกันเท่านั้นหากจะให้ผู้ค้ำประกันรับผิดในประการอื่นนอกจากหน้าที่การงานที่จ้างเช่นเงินล่วงหน้าที่ลูกจ้างขอรับไปนั้น ความรับผิดเช่นว่านี้ต้องกล่าวไว้ให้ชัด มิฉะนั้น ผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิด
ประเพณีเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องนำสืบ อ้างว่าตามประเพณีช่างทองจะต้องรับเงินล่วงหน้าผู้ค้ำประกันจึงต้องรับผิดด้วยดังนี้เมื่อโจทก์ไม่สืบผู้ค้ำประกันจึงไม่ต้องรับผิด
                                    ประเพณีเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องนำสืบ อ้างว่าตามประเพณีช่างทองจะต้องรับเงินล่วงหน้าผู้ค้ำประกันจึงต้องรับผิดด้วยดังนี้เมื่อโจทก์ไม่สืบผู้ค้ำประกันจึงไม่ต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 813/2498
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            ขอบเขตความรับผิดของผู้ค้ำประกันในสัญญาค้ำประกันการทำงานช่างทอง: ความเสียหายเฉพาะหน้าที่
                        
                        ทำสัญญาค้ำประกันลูกจ้างซึ่งทำหน้าที่เป็นช่างทองของโจทก์โดยยอมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายที่ลูกจ้างทำขึ้นนั้นย่อมหมายความว่าผู้ค้ำประกันยอมใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ซึ่งเกิดจากการกระทำของลูกจ้างในหน้าที่การงานที่จ้างกันเท่านั้นหากจะให้ผู้ค้ำประกันรับผิดในประการอื่นนอกจากหน้าที่การงานที่จ้างเช่นเงินล่วงหน้าที่ลูกจ้างขอรับไปนั้นความรับผิดเช่นว่านี้ต้องกล่าวไว้ให้ชัดมิฉะนั้นผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิด
ประเพณีเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องนำสืบ อ้างว่าตามประเพณีช่างทองจะต้องรับเงินล่วงหน้าผู้ค้ำประกันจึงต้องรับผิดด้วยดังนี้เมื่อโจทก์ไม่สืบผู้ค้ำประกันจึงไม่ต้องรับผิด
                                    ประเพณีเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องนำสืบ อ้างว่าตามประเพณีช่างทองจะต้องรับเงินล่วงหน้าผู้ค้ำประกันจึงต้องรับผิดด้วยดังนี้เมื่อโจทก์ไม่สืบผู้ค้ำประกันจึงไม่ต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 807/2498
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การผัดเวลาออกจากที่เช่า ไม่ถือเป็นการเช่าใหม่ สิทธิขับไล่ยังคงมี
                        
                        คณะกรรมการควบคุมค่าเช่ามีมติยินยอมให้ผู้ให้เช่าเข้าอยู่ในที่เช่าแล้วผู้ให้เช่ายังยอมให้ผู้เช่าอยู่ต่อไปโดยผู้เช่าทำหนังสือขอผัดว่าจะออกไปใน 3 เดือนนับแต่สามีผู้ให้เช่ากลับจากต่างจังหวัดหรือถ้าขายบ้านได้ก่อนจะออกโดยเร็ว ดังนี้ ไม่ผูกมัดผู้ให้เช่าที่จะต้องยอมให้อยู่ไปตามที่ผัด
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 806/2498
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ฟ้องบังคับทำสัญญาไม่ได้
                        
                        สัญญาให้เช่าที่ดิน เพื่อปลูกตึกแถว ปลูกแล้วยกกรรมสิทธิ์ให้ผู้ให้เช่าผู้ให้เช่ายอมให้เช่า 10 ปีนับแต่ก่อสร้างเสร็จ. ดังนี้เป็นสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ถ้าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือผู้เช่าจะบังคับให้จดทะเบียนการเช่าเพื่อปลูกตึกแถวไม่ได้
                                    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 765/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
                            ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
                            การอุทิศที่ดินเป็นทางสาธารณะ และความผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน แม้อุทิศยังไม่ถึง 10 ปี ก็ถือเป็นทางสาธารณะแล้ว
                        
                        อุทิศที่ดินให้แก่ทางราชการใช้ทำเป็นถนนและทางสาธารณะ แม้จะยังไม่ได้แก้โฉนดและยังใช้เป็นถนนและทางสาธารณะไม่ถึง 10 ปีก็ตาม ที่ดินนั้นก็เป็นทางสาธารณะแล้ว จะกีดกันเอากลับมาเป็นของตนอีกไม่ได้
ปลูกสร้างรุกล้ำทางหลวง อำเภอมีคำสั่งห้ามแล้วยังขัดขืนไม่รื้อถอนออกไป โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน จำเลยย่อมต้องมีผิดตาม ก.ม.อาญา ม. 334 (2) ที่โจทก์ขอให้ลงโทษ
                                    ปลูกสร้างรุกล้ำทางหลวง อำเภอมีคำสั่งห้ามแล้วยังขัดขืนไม่รื้อถอนออกไป โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน จำเลยย่อมต้องมีผิดตาม ก.ม.อาญา ม. 334 (2) ที่โจทก์ขอให้ลงโทษ