พบผลลัพธ์ทั้งหมด 870 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 657/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงตนเป็นคนต่างด้าวแล้ว ไม่สามารถขอพิสูจน์สัญชาติไทยภายหลังได้
คนเข้าเมืองซึ่งยอมแสดงตนเป็นคนต่างด้าวและทำใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวไปแล้วต่อมาภายหลังจะร้องขอให้ศาลพิสูจน์สัญชาติตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองอีกไม่ได้ เพราะไม่มีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับ พ.ร.บ. คนเข้าเมืองแต่อย่างใด ถ้าหากประสงค์จะขอให้ศาลแสดงสัญชาติก็ชอบที่จะฟ้องผู้โต้แย้งสิทธิเป็นคดีมีข้อพิพาท(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 9/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 657/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์สัญชาติหลังแสดงตนเป็นคนต่างด้าว: ไม่มีสิทธิร้องขอตามกฎหมาย
คนเข้าเมืองซึ่งยอมแสดงตนเป็นคนต่างด้าวและทำใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวไปแล้ว ต่อมาภายหลังจะร้องขอให้ศาลพิสูจน์สัญชาติตาม พระราชบัญญัติคนเข้าเมืองอีกไม่ได้เพราะไม่มีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับ พระราชบัญญัติคนเข้าเมืองแต่อย่างใดถ้าหากประสงค์จะขอให้ศาลแสดงสัญชาติก็ชอบที่จะฟ้องผู้โต้แย้งสิทธิเป็นคดีมีข้อพิพาท(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 9/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 652/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมให้การถือเป็นคำให้การร่วมกันของผู้ค้ำประกัน และผลของการต่อสู้เรื่องหนี้
จำเลยสองคนร่วมให้การในฉบับเดียวกัน ถือได้ว่าคำให้การทั้งหมดเป็นคำให้การของจำเลยทั้งสองร่วมกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 652/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำให้การร่วมกันของจำเลยทั้งสอง ถือเป็นคำให้การของจำเลยทุกคน
จำเลยสองคนร่วมให้การในฉบับเดียวกันถือได้ว่าคำให้การทั้งหมดเป็นคำให้การของจำเลยทั้งสองร่วมกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 624/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษโดยปราณี: เหตุความดีเดิมของผู้กระทำผิดเป็นเหตุที่ชอบด้วยกฎหมาย
เหตุปราณีที่ว่าจำเลยเป็นคนมีความประพฤติเรียบร้อยไม่เคยกระทำผิดมาแต่ก่อน. ก็เป็นเหตุทำนองเดียวกับ มาตรา 59บัญญัติว่า 'ผู้กระทำผิดเป็นผู้ที่มีความดีมาแต่ก่อน'นั่นเอง
การที่จะปราณีลดโทษแก่ผู้กระทำความผิดหรือไม่เป็นดุลพินิจของศาล
การที่จะปราณีลดโทษแก่ผู้กระทำความผิดหรือไม่เป็นดุลพินิจของศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 614/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ดุลยพินิจลดโทษจากประวัติผู้ต้องหาและการพิจารณาเหตุปราณีตามกฎหมาย
เหตุปราณีที่ว่าจำเลยเป็นคนมีความประพฤติเรียบร้อยไม่เคยกระทำผิดมาก่อนก็เป็นเหตุทำนองเดียวกับ ม. 59 บัญญัติว่า "ผู้กระทำผิดเป็นผู้ที่มีความดีมาแต่ก่อน"นั่นเอง
การที่จะปราณีลดโทษแก่ผู้กระทำความผิดหรือไม่เป็นดุลยพินิจของศาล
การที่จะปราณีลดโทษแก่ผู้กระทำความผิดหรือไม่เป็นดุลยพินิจของศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 611-612/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในที่ดินของวัดและธรณีสงฆ์ห้ามโอนโดยมิชอบ โฉนดที่ได้มาจึงใช้ต่อสู้วัดไม่ได้
ที่วัดและที่ธรณีสงฆ์นั้นผู้ใดจะยกเอาโฉนดมาต่อสู้ถือกรรมสิทธิมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 611-612/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในที่ดินวัดและธรณีสงฆ์ ห้ามโอนกรรมสิทธิ์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โฉนดที่ได้มาจากการแย่งชิงถือเป็นโมฆะ
ที่วัดและที่ธรณีสงฆ์นั้นผู้ใดจะยกเอาโฉนดมาต่อสู้ถือกรรมสิทธิมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 601-603/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแย่งกรรมสิทธิ์ที่ดินป่าแสม: พระราชวินิจฉัยมิใช่การมอบกรรมสิทธิ์ ต้องมีการบุกเบิกเพื่อประโยชน์ใช้สอย
ราษฎรสองพวกแก่งแย่งกันเป็นเจ้าของที่ป่าแสม พวกหนึ่งได้ร้องถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสั่งให้กระทรวงเกษตราธิการจัดการไต่สวน กรรมการพิเศษที่กระทรวงเกษตราธิการตั้งออกไปทำการไต่สวนรายงานความเห็นว่า ควรแบ่งที่ป่าพื้นซึ่งวิวาทกันให้แก่ฝ่านที่ร้องถวายฎีกาตามแผนที่หมายสีเหลือง อีกพวกหนึ่งควรได้ตามแผนที่หมายสีเขียว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยให้เป็นไปตามความเห็นของกรรมการพิเศษนั้น ดังนี้พระบรมราชวินิจฉัยไม่ใช่พระราชทานกรรมสิทธิ เพราะขณะนั้นที่ดินยังเป็นป่าแสมทั้งตำบลเนื้อที่มากมาย มูลกรณีเดิมก็เป็นเรื่องจะแย่งกันหวงป่าไว้หาประโยชน์ทางตัดฟืน พระราชทานบรมราชวินิจฉัยให้แบ่งกันตามเส้นสีก็เพื่อจะระงับข้อพิพาทแบ่งแยกออกไปสองฝ่ายสองพวกมิให้ปะทะแก่งแย่งต่อกันและกัน แต่ที่จะได้สิทธิครอบครองหรือกรรมสิทธ์ต่อไปนั้นจะต้องไปทำการบุกเบิกป่าให้เป็นประโยชน์ตามกฎหมายว่าด้วยที่ดินต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 594/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยินยอมให้ขายทรัพย์สิน สัญญาซื้อขายสมบูรณ์ แม้เจ้าของโต้แย้งภายหลัง
เจ้าของยินยอมให้บุคคลอื่นขายและยกทรัพย์สินให้แก่บุคคลที่สาม สัญญาซื้อขายและให้นั้นย่อมสมบูรณ์ เจ้าของจะมาโต้เถียงว่าทรัพย์สินนั้นเป็นของตนบุคคลอื่นไม่มีสิทธิจะขายหรือให้อีกไม่ได้