พบผลลัพธ์ทั้งหมด 870 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1974/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญา: เจ้าของรถไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง
โจทก์เป็นเจ้าของรถโดยสาร จำเลยขับรถชนรถโจทก์ขณะลูกจ้างโจทก์เป็นคนขับดังนี้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 336(15) และตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกได้ โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1973/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทจากการขับรถเร็วเกินกว่าที่กำหนด ทำให้เกิดอุบัติเหตุถึงแก่ความตาย
มีเหล็กกั้นถนนขวางออกมาเกะกะอยู่ รถที่จำเลยขับมาโดยเร็วเกินควรจึงชนเหล็กนั้นเป็นเหตุให้คนตาย ถ้าปรากฏว่าหากจำเลยขับไม่เร็วกว่าที่ควร จำเลยก็จะขับรถหลบพ้นไปได้ ดังนี้ ได้ชื่อว่าความตายเป็นผลโดยตรงจากการกระทำโดยประมาทของจำเลย เป็นความผิดตาม มาตรา 252
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1967/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มเติมสถานที่เกิดเหตุในฟ้องอาญา: ศาลอนุญาตได้หากจำเลยไม่หลงต่อสู้และมีเหตุผลสมควร
โจทก์ขอเพิ่มเติมที่เกิดเหตุในฟ้อง เมื่อสืบพยานโจทก์ไปบ้างแล้วเพราะพิมพ์ฟ้องตกไป จำเลยรับอยู่ว่าจับของกลางได้จากจำเลย มิได้หลงต่อสู้ในเรื่องสถานที่เกิดเหตุ ศาลอนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1867/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับอุทธรณ์ไม่ใช่การรับรองการวินิจฉัยข้อเท็จจริง
การที่ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ว่า "รับเป็นอุทธรณ์"นั้นจะถือว่าได้รับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงในคดีมโนสาเร่ยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1867/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับอุทธรณ์ไม่ถือเป็นการรับรองการอุทธรณ์ข้อเท็จจริง
การที่ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ "รับเป็นอุทธรณ์" นั้นจะถือว่าได้รับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงในคดีมโนสาเร่ยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1808/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธมีด: พิจารณาจากบาดแผลและลักษณะการกระทำ
จำเลยใช้มีดยาวทั้งตัวทั้งด้ามคืบเศษ เฉพาะตัวมีดยาวราว6 นิ้วฟุต แทงผู้ตายที่สบักซ้ายเหนือกระดูกไหปลาร้าแผลยาว 1 นิ้ว ลึก 5 นิ้ว คมมีดตัดเส้นโลหิตใหญ่ที่ขั้วหัวใจ ผู้ตายขาดใจตายเกือบทันที ควรฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าให้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1808/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธมีด: การพิจารณาบาดแผลและพฤติการณ์
จำเลยใช้มียาวทั้งตัวทั้งด้ามคืนเศษ ฉะเพาะตัวมีดยาวราว 6 นิ้วฟุต แทงผู้ตายที่สบักซ้ายเหนือกระดูกไหปลาร้าแผลยาว 1 นิ้วลึก 5 นิ้ว คนมีดตัดเส้นโลหิตใหญ่ที่ขั้วหัวใจผู้ตายขาดใจตายเกือบทันที ควรฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าให้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1785/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลำดับการเพิ่มลดโทษ: ลดโทษตาม 58 ทวิ ก่อน แล้วจึงเพิ่มโทษตาม 72
มาตรา 58 ทวิ เป็นเรื่องวางกำหนดโทษ ไม่ใช่เรื่องลดโทษจะหักกลบลบกับโทษที่เพิ่มตาม มาตรา 39 ไม่ได้ ต้องลดมาตราส่วนโทษลงก่อนแล้วจึงเพิ่ม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1771/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาจากการป้องกันและยั่วโทสะที่ไม่สมเหตุผล ศาลฎีกาพิพากษาแก้โทษจำคุก
จำเลยฉุดหญิงที่เป็นภรรยาจำเลยโดยไม่จดทะเบียนตามกฎหมายให้กลับไปอยู่กินด้วยกัน ลุงของหญิงห้าม จำเลยไม่ฟังจึงตบหน้าจำเลย 1 ที ชก 1 ที จำเลยแทงด้วยตะไบที่ท้อง ตายในวันนั้นเองเป็นความผิดตาม มาตรา 249 และไม่มีเหตุลดโทษฐานยั่วโทสะ
รับว่าแทงเขาเพื่อต่อสู้ว่าป้องกันและยั่วโทสะซึ่งฟังไม่ได้ และเหตุเกิดต่อหน้าคนโดยเปิดเผย ถึงจะรับหรือไม่รับก็เท่ากัน ไม่ควรลดโทษตาม มาตรา 59
รับว่าแทงเขาเพื่อต่อสู้ว่าป้องกันและยั่วโทสะซึ่งฟังไม่ได้ และเหตุเกิดต่อหน้าคนโดยเปิดเผย ถึงจะรับหรือไม่รับก็เท่ากัน ไม่ควรลดโทษตาม มาตรา 59
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1712/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาททำร้ายร่างกาย: แม้ข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง ศาลลงโทษฐานทำร้ายได้ หากผู้กระทำผิดไม่พ้นความรับผิด
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยและผู้เสียหายวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันตัวต่อตัว ศาลก็ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกาย(มาตรา 254)ได้ ไม่ใช่เป็นเรื่องข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับฟ้อง