พบผลลัพธ์ทั้งหมด 870 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1712/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายในคดีวิวาท: ศาลลงโทษได้แม้ข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง หากพิสูจน์ได้ว่าจำเลยมีส่วนทำร้าย
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยและผู้เสียหายวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและตัวต่อตัว ศาลก็ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายได้ (ม.+) ไม่ใช่เป็นเรื่องข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1711/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลพินิจศาลในการพิจารณาพยานหลักฐาน: คำเบิกความในศาลมีน้ำหนักกว่าคำให้การชั้นสอบสวน
คำพยานที่เบิกความชั้นศาลมิได้ผูกมัดศาลให้รับฟังทั้งหมดศาลมีอำนาจชั่งน้ำหนักแล้วชี้ขาดว่าควรฟังแค่ไหนเพียงใดหรือไม่ และคำพยานชั้นสอบสวนนั้นก็ไม่มีบทบัญญัติห้ามมิให้ศาลรับฟังแต่อย่างใดเลย ฉะนั้นศาลจะฟังหรือไม่เพียงใดก็สุดแต่เหตุผลของแต่ละเรื่องไป
พยานที่ให้การชั้นสอบสวนไว้อย่างหนึ่งภายหลังให้การชั้นศาลไปอีกอย่างหนึ่งนั้น ศาลจะฟังหรือไม่อย่างใดก็สุดแต่ดุลพินิจของศาล ใช่ว่าในกรณีเช่นนี้ผูกมัดจะให้ศาลต้องรับฟังถ้อยคำของพยานที่ให้การในชั้นศาลเสมอไป
พยานที่ให้การชั้นสอบสวนไว้อย่างหนึ่งภายหลังให้การชั้นศาลไปอีกอย่างหนึ่งนั้น ศาลจะฟังหรือไม่อย่างใดก็สุดแต่ดุลพินิจของศาล ใช่ว่าในกรณีเช่นนี้ผูกมัดจะให้ศาลต้องรับฟังถ้อยคำของพยานที่ให้การในชั้นศาลเสมอไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1711/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลพินิจศาลในการรับฟังพยานหลักฐาน: คำเบิกความในศาลมีน้ำหนักกว่าคำให้การชั้นสอบสวน
คำพะยานที่เบิกความชั้นศาลมิได้ผูกมัดศาลให้รับฟังทั้งหมด ศาลมีอำนาจชั่งน้ำหนักแล้วชี้ขาดว่าควรฟังแค่ไหนเพียงใดหรือไม่ และคำพะยานชั้นสอบสวนนั้นก็ไม่มีบทบัญญัติห้ามมิให้ศาลรับฟังแต่อย่างใดเลย ฉะนั้นศาลจะฟังหรือไม่เพียงใดก็สุดแต่เหตุผลของแต่ละเรื่องไป
พะยานที่ให้การชั้นสอบสวนไว้อย่างหนึ่งภายหลังให้การชั้นศาลไปอีกอย่างหนึ่งนั้น ศาลจะฟังหรือไม่อย่างใดก็สุดแต่ดุลยพินิจของศาล ใช่ว่าในกรณีเช่นนี้ผูกมัดจะให้ศาลต้องรับฟังถ้อยคำของพะยานที่ให้การในชั้นศาลเสมอไป
พะยานที่ให้การชั้นสอบสวนไว้อย่างหนึ่งภายหลังให้การชั้นศาลไปอีกอย่างหนึ่งนั้น ศาลจะฟังหรือไม่อย่างใดก็สุดแต่ดุลยพินิจของศาล ใช่ว่าในกรณีเช่นนี้ผูกมัดจะให้ศาลต้องรับฟังถ้อยคำของพะยานที่ให้การในชั้นศาลเสมอไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1658/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้คดีอาญา: ความแตกต่างของรายละเอียดบาดแผลไม่ทำให้ข้อกล่าวหาเปลี่ยนไป หากจำเลยต่อสู้ประเด็นสำคัญ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำร้ายผู้เสียหายที่ศีรษะแง่ซ้าย แต่ทางพิจารณาได้ความว่าที่แง่ขวา ดังนี้ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความจากทางพิจารณาต่างกับฟ้อง เพราะจำเลยก็เจตนาสู้ข้อหาตรงประเด็นว่า ได้ตีหัวผู้เสียหายหรือเปล่าเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1658/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บาดแผลต่างข้างไม่กระทบต่อความผิดเจตนาทำร้ายร่างกาย หากจำเลยต่อสู้ประเด็นสำคัญ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำร้ายผู้เสียหายที่ศีร์ษะแง่ซ้าย แต่ทางพิจารณาได้ความว่าที่แง่ขวา ดังนี้ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความจากทางพิจารณาต่างกับฟ้อง เพราะจำเลยก็เจตนาสู้ข้อหาตรงประเด็นว่า ได้ตีหัวผู้เสียหายหรือเปล่าเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1640/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้ามตามมาตรา 249 ว.พ.พ. เมื่ออ้างเหตุผลจากฟ้องอุทธรณ์โดยไม่กล่าวอ้างข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในฎีกา
คู่ความที่ฎีกากล่าวท้าวเหตุผลรายละเอียดตามฟ้องอุทธรณ์โดยขอให้ถือเอาเป็นส่วนหนึ่งแห่งฎีกาเช่นนี้ จะถือว่าเป็นการกล่าวข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายโดยชัดแจ้งในฎีกาหาได้ไม่ เป็นฎีกาที่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1640/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม.249 กรณีอ้างเหตุผลจากฟ้องอุทธรณ์เป็นส่วนหนึ่งของฎีกา
คู่ความที่ฎีกากล่าวท้าวเหตุผลรายละเอียดตามฟ้องอุทธรณ์โดยขอให้ถือเอาเป็นส่วนหนึ่งแห่งฎีกาเช่นนี้ จะถือว่าเป็นการกล่าวข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายโดยชัดแจ้งในฎีกาหาได้ไม่ เป็นฎีกาที่ต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม.249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1617/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช่าที่ดินเลี้ยงโคนมเพื่อการค้า ไม่ได้รับความคุ้มครอง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ
เช่าที่ดินเพื่อเลี้ยงโครีดนมขายและมีบ้านให้แขกคนงานอยู่เพื่อปฏิบัติหน้าที่เลี้ยงและรีดนมโค ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1617/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช่าที่ดินเลี้ยงโคนมเพื่อการค้า ไม่ได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ
เช่าที่ดินเพื่อเลี้ยงโครีดนมขายและมีบ้านให้แขกคนงานอยู่เพื่อปฏิบัติหน้าที่เลี้ยงและรีดนมโค ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1547/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์วินิจฉัยประเด็นใหม่ & การคุ้มครองสัญญาเช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
คดีฟ้องขับไล่ ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ยังไม่ได้บอกเลิกการเช่า พิพากษายกฟ้อง ในชั้นอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยได้รับคำบอกเลิกสัญญาแล้ว และมีอำนาจฟังข้อเท็จจริงในประเด็นที่ศาลชั้นต้นยังไม่ได้ชี้ขาดไว้ว่าจำเลยได้รับความคุ้มครองตาม พนะราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯได้เพราะไม่มีกฎหมายอะไรห้าม