พบผลลัพธ์ทั้งหมด 870 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 22/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแถลงเท็จต่อศาลและการละเมิดอำนาจศาล กรณีเติมข้อหาในคำฟ้องภายหลัง
ฟ้องเดิมระบุมาตราที่ขอให้ลงโทษจำเลยเพียงมาตรา 314 ครั้นศาลตรวจฟ้องมีคำสั่งให้ยกฟ้องเสียโจทก์อุทธรณ์และได้มีการบังอาจเติมมาตรา 304 ลงในคำขอท้ายฟ้องในสำนวนที่อยู่ในความดูแลรักษาของศาลศาลเรียกทนายโจทก์และผู้เขียนฟ้องเดิมมาสอบถาม คนทั้ง 2 ยังยืนยันแถลงเท็จต่อศาลว่ามีมาตรา 304 ในฟ้องเดิมก่อนแล้วโดยไม่มีความเคารพยำเกรง ศาลทำให้เกิดความเสียหายแก่ราชการศาลดังนี้ ต้องถือว่าได้ประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลได้แล้ว แม้ไม่ได้กระทำลงต่อหน้าศาลก็เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตกลงประนีประนอมเรื่องมรดกต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือจึงจะบังคับคดีได้
ทายาทไปพูดขอส่วนแบ่งมรดกกับทายาทผู้ครอบครองมรดกอยู่ทายาทผู้ครอบครองมรดกพูดรับรองว่ารอเมื่อทำศพแล้วหรือรอสร้างพระไตรปิฎกแล้วแต่ก็มิได้ตกลงกันว่าจะได้รับเท่าใดหรือได้ส่วนอย่างไรการรับรองเช่นว่านี้ถ้าถือว่าเป็นการตกลงประนีประนอมระงับข้อพิพาททรัพย์มรดกต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือจึงจะฟ้องร้องบังคับคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13-14/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกล่าวถึงการลบชื่อสมาชิกสมาคมตามมติที่ประชุม โดยสุจริตและสุภาพ ไม่เป็นความผิดหมิ่นประมาท
กรรมการของสมาคมได้มีการประชุมลงมติเป็นเอกฉันท์ให้ลบชื่อสมาชิกของสมาคมนั้นออกจากการเป็นสมาชิกของสมาคมเพราะสมาชิกผู้นั้นได้วิ่งเต้นชักชวนสมาชิกให้ก่อกวนวุ่นวายอ้างอิทธิพลผู้ใหญ่ในวงราชการดังนี้เมื่อการที่กรรมการอภิปรายในที่ประชุมและออกโฆษณาว่าได้ลบชื่อสมาชิกผู้นั้นออกจากสมาชิกนั้นเป็นการกล่าวตามมติที่ประชุมและกระทำโดยสุจริตและสุภาพแล้วก็เป็นกรณีเข้าข้อยกเว้นตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 283 ไม่มีโทษฐานหมิ่นประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13-14/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกล่าวถึงการลบชื่อสมาชิกสมาคมโดยกรรมการตามมติที่ประชุม ไม่เป็นความผิดหมิ่นประมาท หากสุจริตและสุภาพ
กรรมการของสมาคม ได้มีการประชุมมติเป็นเอกฉันท์ให้ลบชื่สมาชิกของสมาคมนั้นออกจากการเป็นสมาชิกของสมาคม เพราะสมาชิกผู้นั้นได้วิ่งเต้นชักชวนสมาชิกให้ก่อกวนวุ่นวาย อ้างอิทธพลผู้ใหญ่ในวงราชการดังนี้ เมื่อการที่กรรมการอภิปรายในที่ประชุมและออกโฆษณาว่าได้ลบชื่อสมาชิกผู้นั้นออกจากสมาชิกนั้น เป็นการกล่าวตามมติที่ประชมและกระทำโดยสุจริตและสุภาพแล้ว ก็เป็นกรณีเข้าข้อยกเว้นตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 283 ไม่มีโทษฐานหมื่นประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1477/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญชาติไทยและการมีสิทธิฟ้องเพิกถอนคำสั่งตรวจคนเข้าเมืองที่ไม่ยินยอมให้ผู้อาศัยในประเทศ
คนที่มีสัญชาติไทย แต่ไปอยู่ต่างประเทศเสียตั้งแต่เล็กๆครั้นโตขึ้นจึงเดินทางเข้ามาในประเทศไทย พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไม่ยินยอมให้ผู้นั้นอาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยถือว่าเป็นคนต่างด้าว ดังนี้ ผู้นั้นมีสิทธิฟ้องกระทรวงมหาดไทยเป็นจำเลย ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1477/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของบุคคลเกิดในไทยแต่ไปอยู่ต่างประเทศ การพิสูจน์สัญชาติไทย และอำนาจฟ้องร้อง
คนที่มีสัญชาติไทย แต่ไปอยู่ต่างประเทศเสียตั้งแต่เล็ก ๆ ครั้นโตขึ้นจึงเดินทางเข้ามาในประเทศไทย พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไม่ยินยอมให้ผู้นั้นอาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยถือว่าเป็นคนต่างด้าว ดังนี้ ผู้นั้นมีสิทธิฟ้องกระทรวงมหาดไทยเป็นจำเลย ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1473/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้เงินโดยภริยาในกรณีสามีหายสาบสูญและไม่แน่นอนว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่
สามีภริยาอยู่กินด้วยกัน เกิดบุตรหลายคน สามีได้ไปเมืองเมกกะตั้งแต่ก่อนเกิดสงครามเอเชียบูรพา คือราว 10 ปีมาแล้ว ไม่ได้กลับมาเลย และไม่ปรากฎว่าได้ส่งข่าวคราวถึงภริยาเลย ดังนี้ หากภริยาไปกู้เงินผู้อื่นเขามาใช้จ่ายก็ย่อมจะถือได้ว่าขณะที่ภริยากู้เงินเขานี้ เป็นการไม่แน่นอนว่าสามียังมีชีวิตอยู่หรือตายแล้ว กรณีต้องต้องด้วย ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 39(1) ภริยาย่อมทำการอันผูกพันส่วนของตนในสินบริคณห์ได้โดยมิต้องได้รับอนุญาตจากสามี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1473/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิทำนิติกรรมกู้เงินโดยภริยา กรณีสามีหายสาปสูญนานปี และไม่ปรากฏตัว
สามีภริยาอยู่กินด้วยกัน เกิดบุตรหลายคน สามีได้ไปเมืองเมกกะตั้งแต่ก่อนเกิดสงครามเอเชียบูรพา คือราว 10 ปีมาแล้ว ไม่ได้กลับมาเลย และไม่ปรากฏว่าได้ส่งข่าวคราวถึงภริยาเลย ดังนี้ หากภริยาไปกู้เงินผู้อื่นเขามาใช้จ่าย ก็ย่อมจะถือได้ว่าขณะที่ภริยากู้เงินเขานี้เป็นการไม่แน่นอนว่าสามียังมีชีวิตอยู่หรือตายแล้ว กรณีต้อง ต้องด้วย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 39(1) ภริยาย่อมทำการอันผูกพันส่วนของตนในสินบริคณห์ได้โดยมิต้องได้รับอนุญาตจากสามี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1471/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนสุราต้องออกจากโรงงานแล้วจึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สุรา การเคลื่อนย้ายภายในเขตโรงงานไม่ถือเป็นความผิด
ความผิดตาม พ.ร.บ.สุรา 2493 มาตรา 7 ที่ว่า "ผู้ใดรับใบอนุญาตทำสุรา ฯ ต้องเสียภาษีสำหรับสุราที่ทำได้ โดยปิดแสตมป์ที่ภาชนะบรรจุสุราในความควบคุมของพนักงานเจ้าหน้าที่ ฯ ก่อนขนสุราออกจากโรงงาน ฯ " มาตรา 13 บัญญัติว่า "ห้ามมิให้ผู้ใดทำการขนสุราที่ยังมิได้เสียภาษีโดยถูกต้องออกจากโรงงานสุราฯ " นั้นจะเป็นการฝ่าฝืนอันจะเป็นผิดจะต้องขนสุรานั้นออกจากโรงงานสุราแล้ว หากยังไม่ได้ขนสุราออกจากโรงงานสุรา ก็ยังหาเป็นความผิดไม่ และคำว่าโรงงานสุรานั้น ย่อมหมายรวมถึงบริเวณหรือเขตโรงงานสุราด้วย กล่าวคือถ้าสุรานั้นยังอยู่ภายในบริเวณหรือเขตโรงงานสุราแล้ว แม้จะมีการขนเคลื่อนย้ายโดยมิได้เสียภาษีและปิดแสตมป์ให้ถูกต้องก็ยังหาเป็นความผิดไม่
จำเลยเคลื่อนย้ายหรือซึ่งบรรทุกสุราออกไปจอดที่ปากคลองของโรงงานนั้น ยังไม่พ้นเขตโรงงานสุรา ดังนี้ ย่อมต้องถือว่า ยังไม่ได้ขนสุราออกจากโรงงานสุราฉะนั้น แม้จะยังมิได้เสียภาษีโดยถูกต้องและมิได้ปิดแสตมป์ให้ถูกต้อง ก็ยังไม่เป็นผิดตาม พ.ร.บ.สุรา 2493 มาตรา 7,13
จำเลยเคลื่อนย้ายหรือซึ่งบรรทุกสุราออกไปจอดที่ปากคลองของโรงงานนั้น ยังไม่พ้นเขตโรงงานสุรา ดังนี้ ย่อมต้องถือว่า ยังไม่ได้ขนสุราออกจากโรงงานสุราฉะนั้น แม้จะยังมิได้เสียภาษีโดยถูกต้องและมิได้ปิดแสตมป์ให้ถูกต้อง ก็ยังไม่เป็นผิดตาม พ.ร.บ.สุรา 2493 มาตรา 7,13
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1471/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขตโรงงานสุรา: การขนย้ายสุราภายในโรงงานไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สุรา
ความผิดตาม พระราชบัญญัติสุรา 2493 มาตรา 7 ที่ว่า " ผู้ใดรับใบอนุญาตทำสุราฯต้องเสียภาษีสำหรับสุราที่ทำได้ โดยปิดแสตมป์ที่ภาชนะบรรจุสุราในความควบคุมของพนักงานเจ้าหน้าที่ฯก่อนขนสุราออกจากโรงงานฯ" มาตรา 13 บัญญัติว่า "ห้ามมิให้ผู้ใดทำการขนสุราที่ยังมิได้เสียภาษีโดยถูกต้องออกจากโรงงานสุราฯ" นั้นจะเป็นการฝ่าฝืนอันจะเป็นผิดจะต้องขนสุรานั้นออกจากโรงงานสุราแล้ว หากยังไม่ได้ขนสุราออกจากโรงงานสุรา ก็ยังหาเป็นความผิดไม่ และคำว่าโรงงานสุรานั้น ย่อมหมายรวมถึงบริเวณหรือเขตโรงงานสุราด้วย กล่าวคือถ้าสุรานั้นยังอยู่ภายในบริเวณหรือเขตโรงงานสุราแล้ว แม้จะมีการขนเคลื่อนย้ายโดยมิได้เสียภาษีและปิดแสตมป์ให้ถูกต้องก็ยังหาเป็นความผิดไม่
จำเลยเคลื่อนย้ายเรือซึ่งบรรทุกสุราออกไปจอดที่ปากคลองของโรงงานนั้น ยังไม่พ้นเขตโรงงานสุรา ดังนี้ ย่อมต้องถือว่า ยังไม่ได้ขนสุราออกจากโรงงานสุรา ฉะนั้น แม้จะยังมิได้เสียภาษีโดยถูกต้องและมิได้ปิดแสตมป์ให้ถูกต้อง ก็ยังไม่เป็นผิดตาม พระราชบัญญัติสุรา 2493 มาตรา 7,13
จำเลยเคลื่อนย้ายเรือซึ่งบรรทุกสุราออกไปจอดที่ปากคลองของโรงงานนั้น ยังไม่พ้นเขตโรงงานสุรา ดังนี้ ย่อมต้องถือว่า ยังไม่ได้ขนสุราออกจากโรงงานสุรา ฉะนั้น แม้จะยังมิได้เสียภาษีโดยถูกต้องและมิได้ปิดแสตมป์ให้ถูกต้อง ก็ยังไม่เป็นผิดตาม พระราชบัญญัติสุรา 2493 มาตรา 7,13