คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ดุลยพากย์สุวมัณฑ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 870 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1466/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์สัญชาติไทย: สิทธิในการร้องขอต่อศาลหรือดำเนินคดีมีข้อพิพาทตามกฎหมาย
การร้องขอพิสูจน์สัญชาติไทยตาม พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง จะทำเป็นคำร้องต่อศาลก็ได้ หรือจะฟ้องเป็นคดีมีข้อพิพาทก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1462/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดกันระหว่างคำพิพากษาในคดีอาญาและคดีแพ่งเรื่องสัญชาติ การรับสารภาพมีผลผูกพัน
จำเลยถูกฟ้องในคดีอาญาว่าเป็นคนต่างด้าว หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย จำเลยรับสารภาพจนศาลพิพากษาไป คดีถึงที่สุดแล้วภายหลังจำเลยจะมาฟ้องเป็นคดีต่อศาลขอพิสูจน์ว่าจำเลยเป็นคนไทยนั้น เป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 ศาลย่อมไม่ยอมให้จำเลยสืบตามข้ออ้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1462/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพในคดีอาญาแล้วมาพิสูจน์สัญชาติใหม่ในคดีแพ่ง ขัดต่อหลักกฎหมาย
จำเลยถูกฟ้องในคดีอาญาว่าเป็นคนต่างด้าว หลบหนี้เข้ามาในประเทศไทย จำเลยรับสารภาพจนศาลพิพากษาไป คดีถึงที่สุดแล้วภายหลังจำเลยจะมาฟ้องเป็นคดีต่อศาลพิศูจน์ว่าจำเลยเป็นคนไทยนั้น เป็นการขัดต่อ ป.ม.วิ.อาญามาตรา 46 ศาลย่อมไม่ยอมให้จำเลยสืบตามข้ออ้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1425/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ช่วยเหลือการปล้นด้วยการจัดหาพาหนะ มีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิด
ผู้ที่แจวเรือรับคนร้ายมาส่ง และจอดคอยอยู่ห่างที่เกิดเหตุ 5 วาในระหว่างที่คนร้ายขึ้นปล้นทรัพย์บนบก แล้วแจวเรือรับคนร้ายกลับไปมีความผิดฐานสมรู้ในการปล้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำพิพากษาเล็กน้อยไม่ถึงขนาดฎีกาในข้อเท็จจริง แม้ศาลอุทธรณ์เพิ่มการแสดงกรรมสิทธิในที่ดินและค่าเสียหาย
ฟ้องขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิที่ดิน 2 แปลง คือที่นาและที่สวนราคาแปลงละ 300 บาทและเรียกค่าเสียหาย 420 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่สวนเป็นของโจทก์ให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 30 บาท แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าที่นาก็เป็นของโจทก์ด้วย กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายอีก 300 บาท ดังนี้ ถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำพิพากษาเล็กน้อยในคดีกรรมสิทธิ์ที่ดิน ไม่ถือเป็นเหตุฎีกาในข้อเท็จจริง
ฟ้องขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน 2 แปลง คือที่นาและที่สวนราคาแปลงละ 300 บาทและเรียกค่าเสียหาย 420 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่สวนเป็นของโจทก์ ให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 30 บาท แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าที่นาก็เป็นของโจทก์ด้วย กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายอีก 300 บาท ดังนี้ถือว่า เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1317/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิด: การแจ้งความเท็จและการจับกุม – ไม่เป็นความผิดทางอาญา
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยฐานละเมิด โดยอ้างว่าจำเลยให้คนไปแจ้งความว่าโจทก์ทำผิดทางอาญาเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนจับกุมคุมขังโจทก์ไว้สอบสวน ทั้งนี้โดยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของจำเลยที่เชื่อถ้อยคำของผู้มาบอก ดังนี้เป็นการฟ้องหาว่าละเมิดตามธรรมดา ไม่ใช่ละเมิดในมูลอันเป็นความผิดทางอาญา จึงมีอายุความฟ้องร้องเพียง 1 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1313/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิด: การแจ้งความเท็จและการจับกุม – ไม่เป็นความผิดอาญา
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจำเลยฐานละเมิดโดยอ้างว่าจำเลยให้คนไปแจ้งความว่าโจทก์ทำผิดทางอาญาเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนจับกุมคุมขังโจทก์ไว้สอบสวน ทั้งนี้โดยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของจำเลยที่เชื่อถ้อยคำของผู้มาบอก ดังนี้ เป็นการฟ้องหาว่าละเมิดตามธรรมดา ไม่ใช่ละเมิดในมูลอันเป็นความผิดทางอาญา จึงมีอายุความฟ้องร้องเพียง 1 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1274/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตนเองโดยสมควรแก่เหตุ: การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจากผู้ทำร้าย
ผู้ตายมีความพยาบาทดักซุ่มทำร้ายจำเลย พอจำเลยกลับจากธุระเดินผ่านไป ผู้ตายเอาก้อนหินขว้างถูกคิ้วจำเลยแตกแล้วใช้มีดแทงจำเลยถูกแขนขวา 3 แผล และหน้าอกตรงราวนมขวาใกล้รักแร้ 1 แผล จำเลยเตะขาผู้ตายแล้วชกถูกแขนผู้ตายมีดหลุดจากมือผู้ตาย จำเลยแย่งมีดมาได้ผู้ตายกระโดดเข้ากอดปล้ำจำเลยจำเลยจึงใช้มีดแทงผู้ตาย แล้วผู้ตายปล่อยมือที่กอด และล้มลงจำเลยก็ออกวิ่งไปขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้าน ผู้ตายขาดใจตายอยู่ตรงนั้นในเวลาไล่ๆ กันนั้นด้วยพิษบาดแผลที่ถูกจำเลยแทงรวม 5 แผล แต่ที่ฉกรรจ์ถึงตายอยู่ที่ไหปลาร้าและลิ้นปี่ทะลุใน นอกนั้นเล็กน้อย ดังนี้ตามรูปเรื่องดูเป็นการแลกชีวิตต่อชีวิต ไม่มีทางจะยับยั้งชั่งใจได้ดีกว่านั้น และลักษณะการเช่นนี้แม้การกระทำของจำเลยจะหนักเบาไปหน่อย ก็ควรวินิจฉัยให้เป็นคุณแก่จำเลยซึ่งถูกคู่อาฆาตดักลอบทำร้ายเอาโดยไม่ทันรู้ตัว และกำลังอยู่ในฐานะคับขันมาก ยากแก่การจะคะเนมือให้พอเหมาะพอดีได้ นับว่าเป็นการป้องกันชีวิตโดยพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1274/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยสมควรแก่เหตุ: การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจากคู่อาฆาตดักทำร้าย
ผู้ตายมีความพยาบาทดักซุ่มทำร้ายจำเลย พอจำเลยกลับจากธุระเดินผ่านไป ผู้ตายเอาก้อนหินขว้างถูกคิ้วจำเลยแตกแล้วใช้มีดแทงจำเลยถูกแขนขวา 3 แผล และหน้าอกตรงราวนมขวาใกล้รักแร้ 1 แผล จำเลยเตะขาผู้ตายแล้วชกถูกแขนผู้ตายมีดหลุดจากมือผู้ตาย จำเลยแย่งมีดมาได้ ผู้ตายกระโดดเข้ากอดปล้ำจำเลย จำเลยจึงใช้มีดแทงผู้ตาย แล้วผู้ตายปล่อยมือที่กอด แล้วล้มลงจำเลยก็ออกวิ่งไปขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้าน ผู้ตายขาดใจตายอยู่ตรงนั้นในเวลาไล่ ๆ กันนั้นด้วยพิษบาดแผลที่ถูกจำเลยแทงรวม 5 แผล แต่ที่ฉกรรจ์ถึงตายอยู่ที่ไหปลาร้าและลิ้นปี่ทะลุใน นอกนั้นเล็กน้อยดังนี้ตามรูปเรื่องดูเป็นการแลกชีวิตต่อชีวิต ไม่มีทางจะยับยั้งชั่งใจได้ดีกว่านั้น และลักษณะการเช่นนี้แม้การกระทำของจำเลยจะหนักเบาไปหน่อย ก็ควรวินิจฉัยให้เป็นคุณแก่จำเลยซึ่งถูกคู่อาฆาตดักลอบทำร้ายเอาโดยไม่ทันรู้ตัว และกำลังอยู่ในฐานะคับขันมาก ยากแก่การจะคะเนมือให้พอเหมะพอดีได้ นับว่าเป็นการป้องกันชีวิตโดยพอสมควรแก่เหตุ
of 87