พบผลลัพธ์ทั้งหมด 870 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 893/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินมรดก: คำสั่งศาลแสดงสิทธิครอบครองไม่ตัดสิทธิทายาท
ไปร้องต่อศาลขอให้แสดงสิทธิครอบครองในที่ดินมีโฉนดอ้างว่าเจ้าของที่ดินขายให้คนนั้นแม้ศาลจะมีคำสั่งแสดง ว่าผู้นั้นได้สิทธิครอบครองในที่ดินนั้น ก็ตามเมื่อความจริงปรากฎว่า เจ้าจองที่ดินนั้นมิได้ขาย เป็นแต่ให้เช่าดังนี้ คำสั่งของศาลดังกล่าวย่อมไม่เป็นการตัดสิทธิเจ้าของที่ดินหรือทายาทที่จะฟ้องเรียกร้องเอาที่ดินนั้นคืนมา./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 883/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดินที่ได้มาจากการอ้างซื้อ เมื่อความจริงเป็นสัญญาเช่า สิทธิครอบครองย่อมไม่สมบูรณ์
ไปร้องต่อศาลขอให้แสดงสิทธิครอบครองในที่ดินมีโฉนดอ้างว่าเจ้าของที่ดินขายให้ตนนั้น แม้ศาลจะมีคำสั่งแสดงว่าผู้นั้นได้สิทธิครอบครองในที่ดินนั้น ก็ตาม เมื่อความจริงปรากฏว่าเจ้าของที่ดินนั้นมิได้ขาย เป็นแต่ให้เช่า ดังนี้ คำสั่งของศาลดังกล่าวย่อมไม่เป็นการตัดสิทธิเจ้าของที่ดินหรือทายาทที่จะฟ้องเรียกร้องเอาที่ดินนั้นคืนมา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 865/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดสิทธิจากรถขายฝาก แม้ไม่รู้สถานะก็ต้องรับผิด
จำเลยที่ 1 ขายฝากรถยนต์ 1 คันไว้แก่โจทก์ ครบกำหนดไถ่แล้วไม่ไถ่คืน โจทก์จึงโอนทะเบียนเป็นชื่อโจทก์ในระหว่างขายฝากจำเลยที่ 1 ยืมรถยนต์ที่ขายฝากไปใช้ว่าจะส่งคืนใน 3 วัน แล้วไม่ส่งคืน จำเลยที่ 2เอารถยนต์นั้นไปใช้ต่างจังหวัด จนรถยนต์ชำรุดเสียหายดังนี้ จำเลยที่ 2 ก็ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ด้วย เพราะเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ แม้จำเลยที่ 2 จะไม่รู้ว่ามีการขายฝาก ก็ไม่เป็นข้อแก้ตัวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 830/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาการเช่าเพื่อค้าขาย: ตีความสัญญาตามเจตนาคู่กรณีและพฤติการณ์แวดล้อม
ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากห้องเช่า แล้วคู่ความทำสัญญายอมควมกันว่า ผู้เช่ายอมออกจากห้องเช่านั้นไปอยู่ ที่อื่นชั่วคราว ผู้ให้เช่าจะจัดสร้างห้องรายนี้ใหม่ โดยผู้เช่ายอมออกเงินค่าก่อสร้างให้ 1 ห้องและเมื่อชำระเสร็จแล้ว ผู้ให้เช่าย่อมให้ผู้เช่าเช่าอยู่ต่อไปอีก 1 ห้อง เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปีนั้น จะให้หมายความเพียงว่าเช่าเพื่อใช้เป็น ที่อยู่อาศัยเท่านั้นหาได้ไม่อาจเป็นการเช่าอยู่เพื่อประกอบการค้าหรือธุรกิจอะไรอย่างใด ก็ได้ เมื่อตามข้อสัญญาไม่ ได้กล่าวให้ชัด ก็จำต้องพิจารณาถึงเจตนาของคู่กรณีในเรื่องนี้ต่อไป.
เดิมห้องเช่าพิพาทเป็นร้านจำหน่ายน้ำมันที่หน้าร้านมี ปั๊มน้ำมันตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงและห้องติดต่อกันเป็นร้าน ค้าขาย แสดงว่าห้องเช่าพิพาทอยู่ในทำเลการค้า ประกอบกับผู้เช่ายอมออกเงินค่าก่อสร้างให้ผู้ให้เช่าเป็นจำนวน มาก ย่อมบ่งชี้ให้เห็นว่าที่ยอมให้ผู้เช่า เช่าอยู่ต่อไปอีกนั้น เป็นการให้เช่าอยู่เพื่อทำการค้าน้ำมันตามเดิมนั้นเอง./
เดิมห้องเช่าพิพาทเป็นร้านจำหน่ายน้ำมันที่หน้าร้านมี ปั๊มน้ำมันตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงและห้องติดต่อกันเป็นร้าน ค้าขาย แสดงว่าห้องเช่าพิพาทอยู่ในทำเลการค้า ประกอบกับผู้เช่ายอมออกเงินค่าก่อสร้างให้ผู้ให้เช่าเป็นจำนวน มาก ย่อมบ่งชี้ให้เห็นว่าที่ยอมให้ผู้เช่า เช่าอยู่ต่อไปอีกนั้น เป็นการให้เช่าอยู่เพื่อทำการค้าน้ำมันตามเดิมนั้นเอง./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 830/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาสัญญาเช่า การตีความสัญญาประนีประนอมยอมความ และการใช้สิทธิเช่าเพื่อประกอบการค้า
ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากห้องเช่าแล้วคู่ความทำสัญญายอมความกันว่า ผู้เช่ายอมออกจากห้องเช่านั้นไปอยู่ที่อื่นชั่วคราวผู้ให้เช่าจะจัดสร้างห้องรายนี้ใหม่โดยผู้เช่ายอมออกเงินค่าก่อสร้างให้1 ห้องและเมื่อชำระเสร็จแล้ว ผู้ให้เช่ายอมให้ผู้เช่าเช่าอยู่ต่อไปอีก 1 ห้อง เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปีนั้นจะให้หมายความเพียงว่าเช่าเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยเท่านั้นหาได้ไม่อาจเป็นการเช่าอยู่เพื่อประกอบการค้าหรือธุรกิจอะไรอย่างใดก็ได้ เมื่อตามข้อสัญญาไม่ได้กล่าวให้ชัดก็จำต้องพิจารณาถึงเจตนาของคู่กรณีในเรื่องนี้ต่อไป
เดิมห้องเช่าพิพาทเป็นร้านจำหน่ายน้ำมันที่หน้าร้านมีปั๊มน้ำมันตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงและห้องติดต่อกันเป็นร้านค้าขายแสดงว่าห้องเช่าพิพาทอยู่ในทำเลการค้า ประกอบกับผู้เช่ายอมออกเงินค่าก่อสร้างให้ผู้ให้เช่าเป็นจำนวนมากย่อมบ่งชี้ให้เห็นว่าที่ยอมให้ผู้เช่า เช่าอยู่ต่อไปอีกนั้น เป็นการให้เช่าอยู่เพื่อทำการค้าน้ำมันตามเดิมนั้นเอง
เดิมห้องเช่าพิพาทเป็นร้านจำหน่ายน้ำมันที่หน้าร้านมีปั๊มน้ำมันตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงและห้องติดต่อกันเป็นร้านค้าขายแสดงว่าห้องเช่าพิพาทอยู่ในทำเลการค้า ประกอบกับผู้เช่ายอมออกเงินค่าก่อสร้างให้ผู้ให้เช่าเป็นจำนวนมากย่อมบ่งชี้ให้เห็นว่าที่ยอมให้ผู้เช่า เช่าอยู่ต่อไปอีกนั้น เป็นการให้เช่าอยู่เพื่อทำการค้าน้ำมันตามเดิมนั้นเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 823-825/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของไวยาวัจจกร: การมอบอำนาจดำเนินคดีแทนวัด แม้การมอบอำนาจจะไม่ชัดเจนในตอนแรก แต่การมอบอำนาจภายหลังย่อมใช้ได้
ไวยาวัจจกรเป็นโจทก์ ฟ้องคดีแทนวัด จำเลยคัดค้านว่าไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะมิได้รับมอบอำนาจโดยถูกต้อง เมื่อปรากฏว่าโจทก์มีเอกสารที่คณะสงฆ์วัดนั้นแต่งตั้งโจทก์เป็นไวยาวัจจกร และปรากฏว่าเจ้าอาวาสวัดนั้นก็ได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์ดำเนินคดีแทนวัดได้อีกฉบับหนึ่งแม้หนังสือฉบับแรกจะมิได้ปรากฏชัดว่าให้โจทก์ดำเนินคดีได้ก็ดี แต่หนังสือฉบับหลังมอบอำนาจให้ดำเนินคดีได้ไว้ชัดเจน การที่โจทก์เพิ่งแสดงหนังสือมอบอำนาจฉบับหลังภายหลังนั้นไม่เป็นเหตุให้ศาลไม่รับฟัง เพราะตัวการย่อมรับรองการกระทำของตัวแทนได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 823 โจทก์จึงฟ้องความแทนวัดได้ โดยชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 823-825/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของไวยาวัจจกร: การมอบอำนาจดำเนินคดีแทนวัด แม้หนังสือมอบอำนาจฉบับแรกไม่ชัดเจน
ไวยาวัจจกรเป็นโจทก์ ฟ้องคดีแทนวัด จำเลยคัดค้านว่าไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะมิได้รับมอบอำนาจโดยถูกต้อง เมื่อ ปรากฎว่า โจทก์มีเอกสารที่คณะสงฆ์วัดนั้นแต่งตั้งโจทก์เป็นไวยาวัจจกร และปรากำว่าเจ้าอาวาสวัดนั้นก็ได้ทำหนัง สือมอบอำนาจให้โจทก์ดำเนินคดีแทนวัดได้อีกฉะบับหนึ่ง แม้หนังสือฉะบับแรกจะมิได้ปรากฎชัดว่าให้โจทก์ดำเนิน คดีได้ก็ดี แต่หนังสือฉะบับหลังมอบอำนาจให้ดำเนินคดีได้ไว้ชัดเจน การที่โจทก์เพิ่งแสดงหนังสือมอบอำนาจฉะบับ หลังภายหลังนั้นไม่เป็นเหตุให้ศาลไม่รับฟัง เพราะตัวการย่อมรับรองการกระทำของตัวแทนได้ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 823 โจทก์จึงฟ้องความแทนวัดได้ โดยชอบ./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 794/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้สักเก่าครอบครองก่อนกฎหมายใหม่ ไม่อยู่ในความผิดอาญา แม้กฎหมายใหม่ขยายประเภทไม้หวงห้าม
มีไม้สักแปรรูป ซึ่งได้มาจากต้นสักในที่ดินกรรมสิทธิของเอกชนไว้ในครอบครองก่อนวันใช้ พ.ร.บ.ป่าไม้ (ฉะบับที่ 3) พ.ศ. 2494 นั้น ไม่เป็นผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 และแม้จะครอบครองต่อมาจนใช้ พ.ร.บ.ป่าไม้ (ฉะบับที่ 3) พ.ศ. 2494 ซึ่งบัญญัติว่า "ไม้สักทั่วไปในราชอาณาจักรไม่ว่าจะขึ้นอยู่ในที่ใด เป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ฯลฯ" ก็ ตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ (ฉะบับที่ 3) พ.ศ. 2494 ไม่ได้กล่าวให้มีผลย้อนหลัง ฉะนั้นจึงจะใช้กฎหมายฉะบับหลังให้มีผลย้อน หลังเป็นการลงโทษบุคคลในทางอาญามิได้ขัดต่อกฎหมาย ลักษณะอาญามาตรา 7 ผู้ครอบครองไม้สักดังกล่าวจึงยัง ไม่มีผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ (ฉะบับที่ 3) พ.ศ. 2494./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 794/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้สักเก่าครอบครองก่อนกฎหมายใหม่: ไม่ผิดตามกฎหมายป่าไม้ แม้กฎหมายใหม่ครอบคลุมไม้สักทั้งหมด
มีไม้สักแปรรูป ซึ่งได้มาจากต้นสักในที่ดินกรรมสิทธิ์ของเอกชนไว้ในครอบครองก่อนวันใช้พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 นั้นไม่เป็นผิดตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2494และแม้จะครอบครองต่อมาจนใช้ พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 ซึ่งบัญญัติว่า'ไม้สักทั่วไปในราชอาณาจักรไม่ว่าจะขึ้นอยู่ในที่ใด เป็นไม้หวงห้ามประเภทก.ฯลฯ'ก็ตาม พระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 ไม่ได้กล่าวให้มีผลย้อนหลังฉะนั้นจึงจะใช้กฎหมายฉบับหลังให้มีผลย้อนหลังเป็นการลงโทษบุคคลในทางอาญามิได้ ขัดต่อกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 7 ผู้ครอบครองไม้สักดังกล่าวจึงยังไม่มีผิดตาม พระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 787/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้สักในที่เอกชนก่อนกฎหมายใหม่: ผลย้อนหลังทางอาญาเป็นโมฆะ
มีไม้สักแปรรูปได้มาจากไม้ในที่เอกชนไว้ตั้งแต่ก่อนใช้พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 3)2494 ซึ่งขณะนั้นไม่เป็นความผิด แม้จะได้มีไว้ต่อมาจนใช้ พระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 3) แล้ว ซึ่งแม้เป็นไม้สักขึ้นในที่เอกชนก็เป็นไม้หวงห้ามนั้นการมีไม้นั้นก็ไม่เป็นความผิดเพราะจะใช้กฎหมายใหม่ย้อนหลังลงโทษทางอาญาหาได้ไม่