คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ดุลยพากย์สุวมัณฑ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 870 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 640/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกเกินบัญชีและผลของการนำเช็คเข้าบัญชีช้า การรับผิดของผู้สั่งจ่ายเช็ค
จำเลยเปิดบัญชีเดินสะพัดกับธนาคารโจทก์ต่อมาจำเลยยืมเงินธนาคารโจทก์ 1 แสนบาท ธนาคารจึงออกเช็คจำนวนเงิน1 แสนบาทให้จำเลยจำเลยเอาเช็คเข้าบัญชีจำเลยแล้วจำเลยออกเช็คของธนาคารโจทก์จ่ายเงิน 1 แสนบาทแก่ธนาคารโจทก์แต่ลงวันล่วงหน้า 1 เดือน เช่นนี้แม้ธนาคารโจทก์จะเพิ่งเอาเช็คที่จำเลยออกให้ ดังกล่าวเข้าบัญชีเดินสะพัดของจำเลยด้านจ่ายเมื่อเกิน 6 เดือนแล้วก็ตาม ก็เป็นเรื่องเช็คของธนาคารโจทก์ซึ่งจำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายให้ธนาคารโจทก์ เมื่อไม่มีเงินในธนาคารตามเช็คนี้แล้ว การเอาเช็คเข้าบัญชีช้าหรือเร็วก็ไม่มีผลแก่จำเลยอย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 616/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งคำให้การชั้นสอบสวนต่อหน้าศาล: จำเลยทราบถือว่าชอบแล้ว
โจทก์ส่งคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยต่อศาลในขณะสืบนายอำเภอ ซึ่งเป็นพยานประเด็น และฝ่ายจำเลยไม่ติด ใจตามประเด็นไปนั้น,เมื่อประเด็นตก ศาลเดิมก็ได้ให้จำเลยมาฟังประเด็นแล้ว จึงถือว่าจำเลยได้ทราบคำพยาน และหลักฐานตามประเด็นนั้นดีแล้ว จำเลยจะอ้างว่าไม่ได้ส่งต่อหน้าจำเลย ๆ ไม่ทราบ เป็นการไม่ชอบนั้น ย่อมฟังไม่ ขึ้น. /

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 616/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยต่อศาล การรับทราบหลักฐาน และผลกระทบต่อการอ้างเหตุไม่ทราบ
โจทก์ส่งคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยต่อศาลในขณะสืบนายอำเภอ ซึ่งเป็นพยานประเด็น และฝ่ายจำเลยไม่ติดใจตามประเด็นไปนั้น เมื่อประเด็นตก ศาลเดิมก็ได้ให้จำเลยมาฟังประเด็นแล้วจึงถือว่าจำเลยได้ทราบคำพยาน และหลักฐานตามประเด็นนั้นดีแล้ว จำเลยจะอ้างว่าไม่ได้ส่งต่อหน้าจำเลยจำเลยไม่ทราบ เป็นการไม่ชอบนั้นย่อมฟังไม่ขึ้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 601/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีทำร้ายร่างกายสาหัส ผู้เสียหายถูกทำร้ายด้วยมีดบาดเจ็บสาหัสและต้องรักษาตัวนาน ศาลพิจารณาโทษลดลงเนื่องจากผู้เสียหายเป็นฝ่ายก่อเหตุ
ผู้เสียหายถูกทำร้ายโดยมีดโต้ มีบาดแผลถึง 7 แผล ต้องนอนรักษาตัวอยู่นานถึง 1 เดือน 19 วัน จึงพอทุเลาลุกนั่งได้ระหว่างนั้น ทำการงานอะไรไม่ได้เลย แผลที่ 1 คือกลางหลังกว้าง 5 ซ.ม.ยาว 8 ซ.ม. ทลุกลวงแพทย์ผู้รักษาว่า ถ้ารักษาไม่ทันท่วงทีหรือไม่ดีอาจถึงตายได้ทั้งจำเลยก็มิได้นำสืบโต้แย้งอย่างไร ดังนี้ต้องถือว่าเป็นบาดแผลเข้าลักษณะที่ไม่สามารถประกอบการงานตามปกติได้เกินกว่า20 วัน เป็นบาดแผลสาหัสตามมาตรา256(8)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 601/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บาดแผลจากการถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีคมเข้าข่ายบาดแผลสาหัสตามกฎหมายอาญา
ผู้เสียหายถูกท้ายร้ายโดยมีดโต้ มีบาดแผลถึง 7 แผล ต้องนอนรักษาตัวอยู่นานถึง 1 เดือน 19 วัน จึงพอทุเลา ลุกนั่ง ได้ ระหว่างนั้น ทำการงานอะไรไม่ได้เลย แผลที่ 1 คือกลางหลังกว้าง 5 ซ.ม. ยาว 8 ซ.ม. ทลุกลวง แพทย์ผู้รักษาว่า ถ้ารักษาไม่ทันท่วงทีหรือไม่ดี อาจถึงตายได้ ทั้งจำเลยก็มิได้นำสืบโต้แย้งอย่างไร ดังนี้ ต้องถือว่าเป็นบาดแผลเข้า ลักษณะที่ไม่สามารถประกอบการงานตามปกติได้เกินกว่า 20 วัน เป็นบาดแผลสาหัสตามมาตรา 256 (8)./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 575/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทำร้ายร่างกายในงานทอดผ้าป่า: การต่อสู้ป้องกันตัวและเหตุเกิดจากการท้าทาย ไม่เข้าข่ายสมคบคิดทำร้ายร่างกาย
ท้าทายแล้วจำเลยกับพวกต่างทยอยกันเข้าต่อสู้ทำร้ายกับผู้บาดเจ็บในทันทีทันใดไม่ได้สมคบกัน จำเลยไม่ต้องร่วมรับโทษในบาดแผลที่คนอื่นกระทำให้สาหัส หรือในทุกๆ แผลรวมกันจนเป็นเหตุให้รับทุกขเวทนาถึงสาหัส

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษอาญาโดยศาลอุทธรณ์และการฎีกาของโจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 3 ปีตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 142-268,270 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า ผิดแต่เพียงมาตรา 268-270 เท่านั้นไม่ผิดมาตรา 142ด้วยและแก้โทษมาเป็นจำคุก 1 ปี และให้รอการลงอาญาไว้ ดังนี้ ถือว่าเป็นการแก้มาก ฎีกาข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 568/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเรี่ยไรในคูบ้านส่วนตัวไม่ถือเป็นที่สาธารณะ แม้เปิดให้คนทั่วไปใช้สัญจรได้
ทำการเรี่ยไรในคูบ้านซึ่งเป็นคูเข้าถึงบ้านผู้ที่อยู่ริมคลองลึกเข้าไป แม้ใครๆจะเข้าออกได้ ก็เป็นเรื่องถือประเพณีเอื้อเฟื้อวิสาสะกันในท้องถิ่นไม่เป็นการเรี่ยไรในที่สาธารณะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 451/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ประโยชน์ที่ชายตลิ่งสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน การขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน
ที่ชายตลิ่ง ซึ่งฤดูน้ำ น้ำท่วมถึงทุกปีนั้น เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1304(2) เป็นหน้าที่ของกรมการอำเภอจะต้องคอยตรวจตรารักษาอย่าให้ผู้ใดกีดกันเอาไปเป็นประโยชน์แต่เฉพาะตัวตาม พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 มาตรา 122
ฉะนั้นเมื่อกรมการอำเภอมีคำสั่งห้ามไม่ให้ผู้ใดปลูกผักบนที่ชายตลิ่งตรงหน้าที่ดินของผู้อื่น จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายผู้ใดยังฝ่าฝืนคำสั่ง ก็ย่อมมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 334(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 451/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ประโยชน์จากที่ชายตลิ่งสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน และความผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน
ที่ชายตลิ่ง ซึ่งฤดูน้ำ น้ำท่วมถึงทุกปีนั้น เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1304 (2) เป็นหน้า
ที่ของกรมการอำเภอจะต้องคอยตรวจตรารักษาอย่าให้ผู้ใดกีดกันเอาไปเป็นประโยชน์แต่เฉพาะตัว ตาม พ.ร.บ.
ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มาตรา 122.
ฉะนั้นเมื่อกรมการอำเภอมีคำสั่งห้ามไม่ให้ผู้ใดปลูกผักบนที่ชายตลิ่งตรงหน้าที่ดินของผู้อื่น จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วย
กฎหมาย ผู้ใดยังฝ่าฝืนคำสั่ง ก็ย่อมมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะมาตรา 334(2) .
of 87