คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 7

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 20 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 110/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องความผิดทางอาญา การใช้กฎหมายที่ใช้บังคับขณะกระทำผิด และการแก้ฟ้อง
การบรรยายฟ้องเกี่ยวกับการกระทำนั้น หาต้องใช้ถ้อยคำในกฎหมายไม่ จะบรรยายถ้อยคำอย่างใดพอให้เข้าใจได้ว่า จำเลยได้กระทำการที่กฎหมายบัญญัติว่า เป็นความผิดก็ใช้ได้
โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยเมื่อ พ.ศ. 2498 ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้อยู่ในเวลากระทำผิด ถึงพ.ศ. 2500 ซึ่งประมวลกฎหมายอาญาใช้บังคับแล้วและยกเลิกกฎหมายลักษณะอาญา โจทก์จึงขอแก้ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญาดังนี้ เป็นเรื่องโจกท์เข้าใจผิดคิดว่ากฎหมายเปลี่ยนใหม่ก็ต้องลงตามกฎหมายใหม่ แต่ก็หาทำให้ฟ้องของโจทก์เสียไปไม่ เพราะมีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 บัญญัติว่าในกรณีเช่นนี้ให้ใช้กฎหมายส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 110/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องความผิดอาญา การใช้กฎหมายที่ใช้บังคับในขณะกระทำผิด และการแก้ฟ้อง
การบรรยายฟ้องเกี่ยวกับการกระทำนั้น หาต้องใช้ถ้อยคำในกฎหมายไม่จะบรรยายถ้อยคำอย่างใดพอให้เข้าใจได้ว่าจำเลยได้กระทำการที่กฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิดก็ใช้ได้
โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยเมื่อ พ.ศ.2498 ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญาซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้อยู่ในเวลากระทำผิดถึงพ.ศ.2500 ซึ่งประมวลกฎหมายอาญาใช้บังคับแล้วและยกเลิกกฎหมายลักษณะอาญาโจทก์จึงขอแก้ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญาดังนี้เป็นเรื่องโจทก์เข้าใจผิดคิดว่ากฎหมายเปลี่ยนใหม่ก็ต้องลงตามกฎหมายใหม่ แต่ก็หาทำให้ฟ้องของโจทก์เสียไปไม่เพราะมีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 3 บัญญัติว่าในกรณีเช่นนี้ให้ใช้กฎหมายส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางอาญาของผู้จัดการโรงงานต่อการใช้แสตมป์ปลอม: ต้องพิสูจน์เจตนาและรู้เห็น
คนงานของบริษัทซึ่งมีหน้าที่ไปซื้อแสตมป์มาปิดขวดน้ำอัดลม กระทำผิดกฎหมายไปซื้อแสตมป์ปลอมมา
แม้จำเลยเป็นผู้จัดการทำน้ำอัดลม มีหน้าที่จะต้องดูแลความเป็นไปและกิจการของโรงงานให้เป็นที่เรียบร้อยและถูกต้องตามกฎหมาย ถ้ามีสิ่งใดผิดพลาดจำเลยจะต้องรับผิดก็ดีเมื่อคดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้สมคบในการซื้อแสตมป์นั้น ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้เพราะเป็นการขัดต่อหลักกฎหมายว่าด้วยความรับผิดของบุคคลในทางอาญา ดังที่บัญญัติไว้ในกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 7 และ 43 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 และ 59 ไม่เหมือนกับความรับผิดในทางแพ่งดังที่บัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 425

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบปล้นทรัพย์โดยฉวยโอกาสจากผู้เล่นการพนัน: การกระทำเข้าข่ายโจรกรรม
เมื่อจำเลยฉวยโอกาสในขณะที่ผู้เสียหายกำลังเล่นการพนันโดยใช้ไม้ตะบองขู่เข็ญว่าจะทำร้ายและค้นเอาเงินจากผู้เสียหายไปแล้วหาได้จับกุมฐานเล่นการพนันไม่ ดังนี้จำเลยมีผิดฐานสมคบกันปล้นทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้สักที่ตัดก่อน พ.ร.บ.ป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2494 ไม่เป็นไม้หวงห้าม ผู้ครอบครองไม่ต้องขออนุญาต
ไม้สักที่ขึ้นอยู่ในที่ดินของเอกชน ได้ถูกตัดและขายกันต่อมาตลอดจนการแปรรูปไม้ได้กระทำก่อนแต่วันใช้พระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 3) 2494 ดังนี้ไม้สักดังกล่าวนั้น ย่อมไม่ใช่ไม้หวงห้าม ผู้ใดจะมีไว้ในครอบครองจึงไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องขออนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 794/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้สักเก่าครอบครองก่อนกฎหมายใหม่: ไม่ผิดตามกฎหมายป่าไม้ แม้กฎหมายใหม่ครอบคลุมไม้สักทั้งหมด
มีไม้สักแปรรูป ซึ่งได้มาจากต้นสักในที่ดินกรรมสิทธิ์ของเอกชนไว้ในครอบครองก่อนวันใช้พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 นั้นไม่เป็นผิดตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2494และแม้จะครอบครองต่อมาจนใช้ พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 ซึ่งบัญญัติว่า'ไม้สักทั่วไปในราชอาณาจักรไม่ว่าจะขึ้นอยู่ในที่ใด เป็นไม้หวงห้ามประเภทก.ฯลฯ'ก็ตาม พระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 ไม่ได้กล่าวให้มีผลย้อนหลังฉะนั้นจึงจะใช้กฎหมายฉบับหลังให้มีผลย้อนหลังเป็นการลงโทษบุคคลในทางอาญามิได้ ขัดต่อกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 7 ผู้ครอบครองไม้สักดังกล่าวจึงยังไม่มีผิดตาม พระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบเครื่องมือประมง: เจ้าของที่ไม่รู้เห็นการกระทำผิดไม่ต้องรับโทษ
มาตรา 70 แห่ง พ.ร.บ.การประมง 2490 บัญญัติว่า "เครื่องมือทำการประมงที่ได้มีประกาศตามความในมาตรา 32 ห้ามมิให้บุคคลใดใช้โดยเด็ดขาดนั้น ถ้านำมาใช้ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำ ให้ศาลริบเครื่องมือนั้นเสีย " นั้น ถ้าปรากฎว่าเจ้าของเครื่องมือนั้นมิได้รู้เห็นในการกระทำผิดด้วย ก็จะไปริบเครื่องมือนั้นไม่ได้ ต้องคืนแก่เจ้าของไปเพราะการริบเป็นโทษอย่างหนึ่งจะไปลงโทษเอาแก่เจ้าของซึ่งเป็นผู้ไม่ได้กระทำผิดย่อมไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบเครื่องมือทำการประมง - เจ้าของต้องรู้เห็นการกระทำผิด
มาตรา 70 แห่ง พระราชบัญญัติการประมง 2490 บัญญัติว่า'เครื่องมือทำการประมงที่ได้มีประกาศตามความในมาตรา 32 ห้ามมิให้บุคคลใดใช้โดยเด็ดขาดนั้น ถ้านำมาใช้ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำ ให้ศาลริบเครื่องมือนั้นเสีย'นั้น ถ้าปรากฏว่าเจ้าของเครื่องมือนั้นมิได้รู้เห็นในการกระทำผิดด้วย ก็จะไปริบเครื่องมือนั้นไม่ได้ ต้องคืนแก่เจ้าของไปเพราะการริบเป็นโทษอย่างหนึ่งจะไปลงโทษเอาแก่เจ้าของซึ่งเป็นผู้ไม่ได้กระทำผิดย่อมไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 222/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบทรัพย์ของบุคคลที่มิได้รู้เห็นในการกระทำผิดขัดต่อรัฐธรรมนูญ
บทบัญญัติมาตรา 13 ทวิ(1) แห่ง พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว พ.ศ.2489 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2489 มาตรา 6 เฉพาะที่ให้ริบทรัพย์ของบุคคลอื่นที่มิได้รู้เห็นในการกระทำผิดด้วยนั้นเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 29 และบทบัญญัติโดยเฉพาะดังกล่าวนี้จึงใช้บังคับมิได้ตามความในมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนย้ายน้ำสุราก่อนมีกฎหมายเฉพาะ การกระทำไม่ผิด แม้มี พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน และ พ.ร.บ.สุรา
การขนย้ายน้ำสุรา อันไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน พ.ศ. 2457 นั้น แม้ในระหว่างพิจารณา ไ้ดมี พ.ร.บ.สุรา พ.ศ. 2493 ออกมาก็ดี ก็ต้องถือว่าขณะจำเลยทำการขนย้ายสุรายังไม่มี ก.ม. บัญญัติถึงวิธีการขนย้ายน้ำสุราดังเช่น จำเลยกระทำว่าเป็นผิด ฉะนั้นการขนย้ายสุราดังกล่าวแล้วจึงไม่เป็นผิด
of 2