คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
จักรปาณีศรีศีลวิสุทธิ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 597 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2123/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงเช่าที่ดินและการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต การยินยอมและผลของการหวนกลับคำนึง
สองฝ่ายตกลงกันเองว่าฝ่ายใดจะเช่าที่ดินแปลงไหนจากการรถไฟเจ้าหน้าที่การรถไฟได้อนุมัติและบันทึกการตกลงนั้นไว้แล้วและต่อมาก็มิได้มีการเพิกถอนข้อตกลงนั้น ดังนี้ฝ่ายหนึ่งจะฟ้องขับไล่อีกฝ่ายหนึ่งที่ได้เข้าไปทำประโยชน์ในที่แปลงที่เขามีสิทธิตามข้อตกลงนั้นไม่ได้ เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2085/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขอค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรควบคู่กับการรับรองบุตร และอำนาจฟ้องในฐานะมารดาผู้ใช้อำนาจปกครอง
การฟ้องขอให้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูเด็กรวมเข้ามาในคดีเดียวกันกับขอให้รับรองบุตรนั้น ย่อมทำได้ไม่มีกฎหมายห้ามโดยเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกัน
ส่วนที่โจทก์ฟ้องขอให้จ่ายค่าเลี้ยงดูเด็กนั้นไม่ได้ฟ้องในนามของบุตรหรือในฐานะเป็นผู้แทนบุตร แต่ฟ้องในฐานะโจทก์เป็นมารดาและเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองเพื่อให้จำเลยจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรร่วมกับโจทก์จึงไม่เป็นอุทลุม(ป.พ.พ. ม.1534)
ข้อเถียงของจำเลยเรื่องอำนาจปกครองบุตรนั้นมิได้ยกขึ้นคัดค้านเสียแต่แรก จึงไม่มีประเด็นจะต้องวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2085/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร และความเกี่ยวเนื่องกับการรับรองบุตร
การฟ้องขอให้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูเด็กรวมเข้ามาในคดีเดียวกันกับขอให้รับรองบุตรนั้นย่อมทำได้ ไม่มีกฎหมายห้ามโดยเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกัน
ส่วนที่โจทก์ฟ้องขอให้จ่ายค่าเลี้ยงดูเด็กนั้นไม่ได้ฟ้องในนามของบุตรหรือในฐานะเป็นผู้แทนบุตร แต่ฟ้องในฐานะโจทก์เป็นมารดาและเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองเพื่อให้จำเลยจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรรวมกับโจทก์จึงไม่เป็นอุทลุม (ป.พ.พ. ม.1534)
ข้อเถียงของจำเลยเรื่องอำนาจปกครองบุตรนั้นมิได้ยกขึ้นคัดค้านเสียแต่แรกจึงไม่มีประเด็นจะต้องวินิจฉัย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1938-1945/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสูญเสียสัญชาติไทยโดยการได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และหน้าที่ในการต่ออายุ
การขาดจากสัญชาติไทยตาม พ.ร.บ.สัญชาติ(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2496 ++เป็นไปด้วยใจสมัคร
เมื่อบุคคลยังมีสัญชาติไทยอยู่ ก็มีหน้าที่ต้องมีใบสำคัญหรือต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1938-1945/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสูญเสียสัญชาติไทยต้องเกิดจากความสมัครใจ การมีใบสำคัญคนต่างด้าวไม่ได้หมายถึงการสละสัญชาติ
การขาดจากสัญชาติไทยตาม พระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 2)พ.ศ.2496 ต้องเป็นไปด้วยใจสมัคร
เมื่อบุคคลยังมีสัญชาติไทยอยู่ ก็ไม่มีหน้าที่ต้องมีใบสำคัญหรือต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1894/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งตั้งทนายที่ไม่ถูกต้องและการแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ทนายของโจทก์เป็นผู้ซักค้านพยานโจทก์จำเลยตั้งแต่เริ่มการพิจารณาจนเสร็จสำนวน ต่อมาศาลพิพากษาให้โจทก์แพ้ ทนายโจทก์ยื่นฟ้องอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ ความมาปรากฏในชั้นศาลอุทธรณ์ว่าทนายโจทก์ยังมิได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทนายโจทก์ เช่นนี้ย่อมเป็นที่เห็นได้ว่ามิได้มีการประวิงความหรือทำการเอาเปรียบในเชิงคดีแต่อย่างไรหากเป็นไปด้วยความพลั้งเผลอหรือด้วยเหตุอื่น แม้จะเป็นการปฏิบัติผิดบทบัญญัติแห่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ก็เป็นการสมควรที่จะอนุญาตให้ทำเสียให้ถูกต้องได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 แต่ปรากฏว่าในชั้นฎีกาโจทก์ได้แต่งตั้งทนายผู้นี้เป็นทนายโจทก์แต่วันยื่นฎีกาแล้ว จึงพอถือว่าการพิจารณาและการอุทธรณ์เป็นการชอบแล้วได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1894/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งตั้งทนายที่ไม่ถูกต้องและการแก้ไขให้ถูกต้องตาม ป.วิ.แพ่ง
ทนายของโจทก์เป็นผู้ซักค้านพยานโจทก์จำเลยตั้งแต่เริ่มการพิจารณาจนเสร็จสำนวน ต่อมาศาลพิพากษาให้โจทก์แพ้ ทนายโจทก์ยื่นฟ้องอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ความมาปรากฎในชั้นศาลอุทธรณ์ว่าทนายโจทก์ยังมิได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทนายโจทก์ เช่นนี้ย่อมเป็นที่เห็นได้ว่ามิได้มีการประวิงความหรือทำการเอาเปรียบในเชิงคดีแต่อย่างไร หากเป็นไปด้วยความพลั้งเผลอหรือด้วยเหตุอื่น ป.วิ.แพ่ง ก็เป็นการสมควรที่จะอนุญาตให้ทำเสียให้ถูกต้องได้ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.27 แต่ปรากฎว่าในชั้นฎีกาโจทก์ได้แต่งตั้งทนายผู้นี้เป็นทนายโจทก์แต่วันยื่นฎีกาแล้ว จึงพอถือว่าการพิจารณาและการอุทธรณ์เป็นการชอบแล้วได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1861/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยเจตนาและดุร้าย: การลงโทษฐานฆ่าโดยไม่มีเหตุอันควรและทำร้ายซ้ำ
ใช้มีดดาบฟันผู้ตายขณะกำลังนั่งคุยอยู่ ผู้ตายไม่มีอาวุธหรือแสดงว่าจะต่อสู้ ฟันถูกที่ศีรษะ 1 ทีสมองไหล และที่ขา 1 ที กระดูกขาด ล้มลงแล้วจำเลยยังฟันซ้ำอีกรวมทั้งสิ้น 11 แผลอยู่ได้ 10 วันเศษจึงตาย การกระทำของจำเลยเป็นการฆ่าคนตายโดยดุร้ายตามมาตรา 250(4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1861/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฆ่าโดยเจตนาด้วยความดุร้าย การลงโทษตาม ม.250(4) และการพิจารณาโทษที่เหมาะสม
ใช้มีดดาบฟันผู้ตายขณะกำลังนั่งคุยอยู่ ผู้ตายไม่มีอาวุธหรือแสดงว่าจะต่อสู้ ฟันถูกที่ศีรษะ 1 ทีสมองไหล และที่ขา 1 ที กระดูกขาดล้มลงแล้วจำเลยยังฟันซ้ำอีกรวมทั้งสิ้น 11 แผลอยู่ได้ 10 วันเศษจึงตายการกระทำของจำเลยเป็นการฆ่าคนตายโดยดุร้ายตาม ม.250 (4).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1857/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาแทนวัด: เจ้าอาวาสต้องฟ้องเอง หรือมอบอำนาจให้ทนายความไม่ได้
จำเลยฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์ของวัดพริก ผู้แทนของวัดพริกคือเจ้าอาวาสวัดพริกที่จะเป็นผู้มีอำนาจฟ้องคดีอาญาแทนวัดเท่านั้นตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 5(3) หากเจ้าอาวาสของวัดไม่ฟ้องคดีเองโดยมอบอำนาจให้บุคคลอื่นฟ้องแทนบุคคลผู้รับมอบหมายไม่มีอำนาจฟ้องแทนเพราะไม่มี กฎหมายบทใดบัญญัติไว้ว่าในคดีอาญาให้ผู้แทนมอบอำนาจให้บุคคลอื่นเป็นผู้แทนได้อีก ทั้งจะยก ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและพาณิชย์ อนุโลมใช้บังคับไม่ได้
of 60