พบผลลัพธ์ทั้งหมด 597 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1857/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญาแทนวัด: เจ้าอาวาสเท่านั้นที่ฟ้องได้, การมอบอำนาจให้ผู้อื่นเป็นโมฆะ
จำเลยฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์ของวัดพริก ผู้แทนของวัดพริกคือเจ้าอาวาสวัดพริกที่จะเป็นผู้มีอำนาจฟ้องคดีอาญาแทนวัดเท่านั้นตาม ป.วิ.อ.ม.5 (3) หากเจ้าอาวาสของวัดไม่ฟ้องคดีเองโดยมอบอำนาจให้บุคคลอื่นฟ้องแทนบุคคลผู้รับมอบหมายไม่มีอำนาจฟ้องแทนเพราะไม่มี ก.ม.บทใดบัญญัติไว้ว่าในคดีอาญาให้ผู้แทนมอบอำนาจให้บุคคลอื่นเป็นผู้แทนได้อีก ทั้งจะยก ป.วิ.แพ่งอนุโลมใช้บังคับไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1843/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งให้ไปสถานีตำรวจหลังขับรถเร็ว ไม่ถือเป็นความผิดขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน
เมื่อกระทำความผิดฝ่าฝืน พ.ร.บ.จราจรทางบก แล้วไม่ไปสถานีตำรวจตามคำสั่งเจ้าพนักงานจราจร เช่นนี้ย่อมเป็นเหตุให้ออกหมายจับมาได้ตาม ป.วิ.อาญา ม.66 จึงหามีความผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานตาม ม.334 (2) ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1843/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งให้ไปสถานีตำรวจหลังกระทำผิดจราจร ไม่ถือเป็นความผิดขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน
เมื่อกระทำความผิดฝ่าฝืนพระราชบัญญัติจราจรทางบก แล้วไม่ไปสถานีตำรวจตามคำสั่งเจ้าพนักงานจราจร เช่นนี้ย่อมเป็นเหตุให้ออกหมายจับมาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 66 จึงหามีความผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานตาม มาตรา 334(2) ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1842/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวที่สมควรแก่เหตุ เมื่อถูกทำร้ายและมีภัยอันตรายใกล้เข้ามา
ได้ความว่าผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายบิดาจำเลย จำเลยเข้าห้ามโดยไม่มีอาวุธติดตัว ผู้ตายตามไปจะทำร้ายจำเลย จนจำเลยถอยหนีไปจนมุมไม่มีทางหนีไปอีกแล้วพอดีจำเลยพบมีดวางอยู่ จึงเอามีดกวัดแกว่งและร้องห้ามผู้ตายไม่ให้เข้ามา ผู้ตายยังขืนเข้าไปจึงถูกมีดที่หน้าผากผู้ตายไม่ล้มเอามือซ้ายปิดท้ายทอยส่วนมือขวายังถือมีดเงื้อง่าอยู่ จำเลยเอามีดเหวี่ยงไปอีกที่หนึ่งถูกท้ายทอยแล้วโดดหนี ผู้ตายอยู่ต่อมา 5-6 วันก็ตายเพราะบาดแผลนั้น ข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้วินิจฉัยเป็นการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ เพราะการกระทำของจำเลยทั้ง 2 ครั้งเป็นการกระทำต่อเนื่องในขณะเดียวกัน การที่ผู้ตายถูกฟันครั้งแรก จะให้จำเลยซึ่งอยู่ในฐานะเช่นนั้นคาดหมายว่าผู้ตายได้รับบาดเจ็บเพียงไรและจะหวนกลับมาทำร้ายอีกหรือไม่ย่อมไม่ได้ และที่จำเลยเหวี่ยงมีดไปยังท้ายทอยอีก 1 ทีเป็นการกระทำเพื่อให้โอกาสจำเลยหลีกพ้นจากภัยอันผู้ตายเป็นผู้ก่อแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1842/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ แม้การทำร้ายต่อเนื่อง ศาลยกฟ้องฆาตกรรม
ได้ความว่าผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายบิดจำเลย ๆ เข้าห้ามโดยไม่มีอาวุธติดตัว ผู้ตายตามไปจะทำร้ายจำเลย จนจำเลยถอยหนีไปจนมุมไม่มีทางหนีไปอีกแล้วพอดีจำเลยพบมีดวางอยู่ จึงเอามีดกวัดแกว่งและร้องห้ามผู้ตายไม่ให้เข้ามา ผู้ตายยังขืนเข้าไปจึงถูกมีดที่หน้าผาก ผู้ตายไม่ล้มเอามือซ้ายปิดท้ายทอยส่วนมือขวายังถือมีดเงื้อง่าอยู่ จำเลยเอามีดเหวี่ยงไปอีกทีหนึ่งถูกท้ายทอยแล้วโดดหนี ผู้ตายอยู่ต่อมา 5-6 วันก็ตายเพราะบาดแผลนั้น ข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้วินิจฉัยเป็นการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ เพราะการกระทำของจำเลยทั้ง 2 ครั้งเป็นการกระทำต่อเนื่องในขณะเดียวกัน การที่ผู้ตายถูกฟันครั้งแรก จะให้จำเลยซึ่งอยู่ในฐานะเช่นนั้นคาดหมายว่าผู้ตายได้รับบาดเจ็บเพียงไรและจะหวนกลับมาทำร้ายอีกหรือไม่ย่อมไม่ได้และที่จำเลยเหวี่ยงมีดไปยังท้ายทอยอีก 1 ทีเป็นการกระทำเพื่อให้โอกาสจำเลยหลีกพ้นจากภัยอันผู้ตายเป็นผู้ก่อแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1818/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำของผู้ตายเป็นเหตุยั่วโทสะ จำเลยมีสิทธิได้รับการลดโทษตาม ม.55
การที่ผู้ตายถือมีดพร้าขึ้นไปบนเรือน แสดงกริยาจะทำร้ายเขาโดยไม่มีเหตุสมควรเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าเป็นการข่มเหงเขาอย่างร้ายแรงโดยไม่เป็นธรรมตาม ม.55
ในคดีอาญาเมื่อข้อเท็จจริงหรือข้อ ก.ม. ปรากฎในท้องสำนวนแล้ว ถึงแม้จะไม่มีประเด็นในข้อเหล่านี้ขึ้นมาศาลก็ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยในทางที่เป็นประโยชน์แก่จำเลยได้เพราะเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย.
ในคดีอาญาเมื่อข้อเท็จจริงหรือข้อ ก.ม. ปรากฎในท้องสำนวนแล้ว ถึงแม้จะไม่มีประเด็นในข้อเหล่านี้ขึ้นมาศาลก็ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยในทางที่เป็นประโยชน์แก่จำเลยได้เพราะเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1818/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำของผู้ตายเป็นเหตุยั่วยุให้จำเลยป้องกันตัวได้ แม้ไม่มีประเด็นยกขึ้นสู่ศาล ศาลมีอำนาจวินิจฉัยเพื่อประโยชน์แก่จำเลย
การที่ผู้ตายถือมีดพร้าขึ้นไปบนเรือน แสดงกริยาจะทำร้ายเขาโดยไม่มีเหตุสมควรเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าเป็นการข่มเหงเขาอย่างร้ายแรงโดยไม่เป็นธรรมตาม มาตรา 55
ในคดีอาญาเมื่อข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายปรากฏในท้องสำนวนแล้ว ถึงแม้จะไม่มีประเด็นในข้อเหล่านี้ขึ้นมาศาลก็ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยในทางที่เป็นประโยชน์แก่จำเลยได้เพราะเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
ในคดีอาญาเมื่อข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายปรากฏในท้องสำนวนแล้ว ถึงแม้จะไม่มีประเด็นในข้อเหล่านี้ขึ้นมาศาลก็ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยในทางที่เป็นประโยชน์แก่จำเลยได้เพราะเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1696/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงประนีประนอมทางการแพ่ง: การคืนกระบือและเงินกู้ ไม่ใช่การพนัน
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้กับดอกเบี้ย 2,037 บาท จำเลยต่อสู้ว่าความจริงจำเลยตกลงซื้อกระบือ 2 ตัวราคา 2,000บาท โดยโจทก์ผ่อนชำระภายในเดือน 3 ทุกๆ ปี โจทก์ให้จำเลยทำเป็นสัญญากู้ให้ไว้ เมื่อจำเลยชำระราคากระบือแล้วจะคืนสัญญาให้
วันชี้ คู่ความท้ากันว่าขอให้สืบนายเลี่ยม ถ้าให้การว่ากระบือรายนี้ตกอยู่แก่จำเลยก่อนเดือน 11 พ.ศ.2497 แล้ว จำเลยยอมคืนกระบือ 2 ตัวกับเงิน 2,000 บาทถ้าให้การว่าเพิ่งตกอยู่กับจำเลยเมื่อเดือน 11 พ.ศ.2498นี้เอง จำเลยยอมคืนกระบือให้โจทก์ 2 ตัวอย่างเดียว
ดังนี้เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยคืนกระบือ 2 ตัว กับเงิน 2,000 บาทให้โจทก์ตามที่คู่ความแถลงตกลงกันในชั้นชี้สองสถาน จึงไม่ใช่การพนันขันต่อเป็นเรื่องทำความประนีประนอมกันให้ศาลพิพากษา เช่นนี้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 และ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา138 ไม่เป็นการพิพากษานอกคำฟ้อง
วันชี้ คู่ความท้ากันว่าขอให้สืบนายเลี่ยม ถ้าให้การว่ากระบือรายนี้ตกอยู่แก่จำเลยก่อนเดือน 11 พ.ศ.2497 แล้ว จำเลยยอมคืนกระบือ 2 ตัวกับเงิน 2,000 บาทถ้าให้การว่าเพิ่งตกอยู่กับจำเลยเมื่อเดือน 11 พ.ศ.2498นี้เอง จำเลยยอมคืนกระบือให้โจทก์ 2 ตัวอย่างเดียว
ดังนี้เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยคืนกระบือ 2 ตัว กับเงิน 2,000 บาทให้โจทก์ตามที่คู่ความแถลงตกลงกันในชั้นชี้สองสถาน จึงไม่ใช่การพนันขันต่อเป็นเรื่องทำความประนีประนอมกันให้ศาลพิพากษา เช่นนี้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 และ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา138 ไม่เป็นการพิพากษานอกคำฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1619/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษจากหัวเบี้ยเป็นลูกค้า: ข้อจำกัดการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ในคดีเล่นการพนันโปปั่นศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานเป็นหัวเบี้ยรับกินรับใช้ ศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษจำเลยฐานเป็นลูกค้าเข้าเล่นอย่างเดียวโดยลดโทษลง แม้จะสงเคราะห์ว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขมาก เมื่อศาลเดิมลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 1 ปีปรับไม่เกินหนึ่งพันบาทโดยมิได้แก้บท เพียงแต่ลดโทษลง แต่ลงโทษไม่เกินกำหนดที่ว่านี้ ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1619/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษจากหัวเบี้ยเป็นลูกค้า: ข้อจำกัดในการฎีกาเรื่องข้อเท็จจริง
ในคดีเล่นการพนันโปปั่นศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานเป็นหัวเบี้ยรับกินรับใช้ ศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษจำเลยฐานเป็นลูกค้าเข้าเล่นอย่างเดียวโดยลงโทษลงแม้จะสงเคราะห์ว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขมาก เมื่อศาลเดิมลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 1 ปีปรับไม่เกินหนึ่งพันบาทโดยมิได้แก้บทเพียงแต่ลดโทษลง แต่ลงโทษไม่เกินกำหนดที่ว่านี้ ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ต้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา ม.220.