พบผลลัพธ์ทั้งหมด 597 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 947/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้เช่าในการฟ้องขับไล่ผู้อาศัยที่ไม่ปฏิบิติตามสัญญาเช่า
โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์ที่ 2 ได้โอนสิทธิการเช่าห้องพิพาทให้โจทก์ที่ 1 แล้ว โจทก์ที่ 1 ได้เช่าตรงต่อทรัพย์สินฯ จำเลยเป็นลูกจ้างโจทก์ที่ 2 โจทก์ที่ 2 ได้บอกให้จำเลยและบริวารออกจากห้องพิพาท จำเลยไม่ยอมออกจึงฟ้องขอให้บังคับ
ฟ้องของโจทก์ดังกล่าวมานี้แสดงว่าโจทก์เป็นผู้เช่าสถานที่พิพาทจากทรัพย์สินฯ จำเลยเป็นผู้อาศัย และโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยออกจากสถานที่เช่าแล้ว จำเลยไม่ยอมออก เช่นนี้โดยปกติโจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะฟ้องจำเลยได้ ส่วนข้อต่อสู้จำเลยจะมีอย่างไรเป็นเรื่องที่จะต้องว่ากล่าวกันในชั้นพิจารณา ฟ้องโจทก์ควรรับไว้พิจารณาต่อไป
ฟ้องของโจทก์ดังกล่าวมานี้แสดงว่าโจทก์เป็นผู้เช่าสถานที่พิพาทจากทรัพย์สินฯ จำเลยเป็นผู้อาศัย และโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยออกจากสถานที่เช่าแล้ว จำเลยไม่ยอมออก เช่นนี้โดยปกติโจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะฟ้องจำเลยได้ ส่วนข้อต่อสู้จำเลยจะมีอย่างไรเป็นเรื่องที่จะต้องว่ากล่าวกันในชั้นพิจารณา ฟ้องโจทก์ควรรับไว้พิจารณาต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 947/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้เช่าในการฟ้องขับไล่ผู้อาศัยที่ไม่ได้รับอนุญาต แม้จะยังมิได้เข้าครอบครองสถานที่เช่า
โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์ที่ 2 ได้โอนสิทธิการเช่าห้องพิพาทให้โจทก์ที่ 1 แล้วโจทก์ที่ 1 ได้เช่าตรงต่อทรัพย์สิน ฯ จำเลยเป็นลูกจ้างที่ 2 โจทก์ที่ 2 ได้บอกให้จำเลยและบริวารออกจากห้องพิพาท จำเลยไม่ยอมออก จึงฟ้องขอให้บังคับ
ฟ้องของโจทก์ดังกล่าวมานี้แสดงว่าโจทก์เป็นผู้เช่าสถานที่พิพาทจากทรัพย์สิน ฯ จำเลยเป็นผู้อาศัยและโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยออกจากสถานที่เช่าแล้ว จำเลยไม่ยอมออกเช่นนี้โดยปกติโจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะฟ้องจำเลยได้ ส่วนข้อต่อสู้จำเลยจะมีอย่างไรเป็นเรื่องที่จะต้องว่ากล่าวกันในชั้นพิจารณา ฟ้องโจทก์ควรรับไว้ พิจารณาต่อไป
ฟ้องของโจทก์ดังกล่าวมานี้แสดงว่าโจทก์เป็นผู้เช่าสถานที่พิพาทจากทรัพย์สิน ฯ จำเลยเป็นผู้อาศัยและโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยออกจากสถานที่เช่าแล้ว จำเลยไม่ยอมออกเช่นนี้โดยปกติโจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะฟ้องจำเลยได้ ส่วนข้อต่อสู้จำเลยจะมีอย่างไรเป็นเรื่องที่จะต้องว่ากล่าวกันในชั้นพิจารณา ฟ้องโจทก์ควรรับไว้ พิจารณาต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 896/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้เช่าในการฟ้องขับไล่ผู้อาศัยสิทธิของผู้เช่า โดยผู้เช่ามีสิทธิฟ้องได้แม้ไม่ใช่เจ้าของสถานที่
ในฟ้องของโจทก์กล่าวว่าโจทก์ที่ 1 ได้รับโอนการเช่าโรงเรือนของทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มาจากโจทก์ที่ 2 ผู้เช่าเดิมแต่ระหว่างโจทก์ที่ 2 เป็นผู้เช่า โจทก์ที่ 2 ได้ตกลงจ้างจำเลยจัดการดำเนินการค้าอยู่ในโรงเรือนที่เช่า ครั้นโจทก์ที่ 1 ได้รับโอนสิทธิการเช่ามาจากโจทก์ที่ 2 แล้วโจทก์ที่ 2 ได้บอกเลิกจ้างจำเลยและให้จำเลยเลิกดำเนินการค้าเพื่อส่งมอบเรือนโรงรายนี้ให้แก่โจทก์ที่ 1 จำเลยไม่ปฏิบัติตามยังคงทำการค้าและอาศัยโรงเรือนรายนี้ตลอดมาโดยมิได้รับความอนุญาตจากเจ้าของสถานที่และโจทก์ที่ 1 ผู้เช่าเป็นการละเมิดและรอนสิทธิโจทก์ที่ 1 ฟ้องดังกล่าวมานี้แสดงว่าโจทก์เป็นผู้เช่าสถานที่พิพาทจากทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จำเลยเป็นผู้อาศัยสิทธิโจทก์และโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยออกจากสถานที่เช่าแล้วจำเลยไม่ยอมออกเช่นนี้โดยปกติโจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะฟ้องจำเลยได้ส่วนข้อต่อสู้จำเลยจะมีอย่างไรเป็นเรื่องที่จะต้องว่ากล่าวกันในชั้นพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 896/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้เช่าในการฟ้องขับไล่ผู้อาศัยสิทธิ และอำนาจฟ้องของผู้เช่าเมื่อมีข้อพิพาทกับผู้อาศัยสิทธิ
ในฟ้องของโจทก์กล่าวว่าโจทก์ที่ 1 ได้รับโอนการเช่าโรงเรือนของทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มาจาก โจทก์ที่ 2 ผู้เช่าเดิม แต่ระหว่างโจทก์ที่ 2 เป็นผู้เช่า โจทก์ที่ 2 ได้ตกลงจ้างจำเลยจัดการดำเนินการค้าอยู่ในโรงเรือนที่เช่า ครั้นโจทก์ที่ 1 ได้รับโอนสิทธิการเช่ามาจากโจทก์ที่ 2 แล้ว โจทก์ที่2 ได้บอกเลิกจ้างจำเลยและให้จำเลยเลิกดำเนินการค้าเพื่อส่งมอบเรือนโรงรายนี้ให้แก่โจทก์ที่ 1 จำเลยไม่ปฏิบัติตามยังคงทำการค้าและอาศัยอยู่ในโรงเรือนรายนี้ตลอดมาโดยมิได้รับความอนุญาตจากเจ้าของสถานที่และโจทก์ที่ 1 ผู้เช่าเป็นการละเมิดและรอนสิทธิโจทก์ที่ 1 ฟ้องดังกล่าวมานี้แสดงว่าโจทก์เป็นผู้เช่าสถานที่พิพาทจากทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จำเลยเป็นผู้อาศัยสิทธิโจทก์ และโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยออกจากสถานที่เช่าแล้วจำเลยไม่ยอมออกเช่นนี้โดยปกติโจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะฟ้องจำเลยได้ ส่วนข้อต่อสู้จำเลยจะมีอย่างไรเป็นเรื่องที่จะต้องว่ากล่าวกันในชั้นพิจารณา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 893/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการครอบครองไม้ผิดกฎหมาย: ครอบครองเพื่อตนเองหรือแทนผู้อื่น
คำว่าครอบคอรงตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 ม.69 มีความหมายกว้างขวางกล่าวคือไม่เฉพาะครอบครองเพื่อตนเองเท่านั้นแต่รวมทั้งครอบครองแทนผู้อื่นด้วยเพราะไม่มี ก.ม.บทใดจำกัดไว้ว่าการครอบครองของที่มีไว้โดยไม่ชอบด้วย ก.ม.นั้น จะเป็นความผิดต่อเมื่อครอบครองเพื่อตนเอง ตรงข้าม ก.ม.ว่าด้วยการสมคบกันกระทำผิดก็ยังมีอยู่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 893/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการครอบครองไม้หวงห้าม: ครอบครองเพื่อตนเองหรือแทนผู้อื่น? ฎีกาวินิจฉัยว่าการครอบครองแทนผู้อื่นก็มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
คำว่าครอบครองตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 3)พ.ศ.2494มาตรา 69 มีความหมายกว้างขวางกล่าวคือไม่เฉพาะครอบครองเพื่อตนเองเท่านั้นแต่รวมทั้งครอบครองแทนผู้อื่นด้วยเพราะไม่มีกฎหมายบทใดจำกัดไว้ว่าการครอบครองของที่มีไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น จะเป็นความผิดต่อเมื่อครอบครองเพื่อตนเองตรงข้ามกฎหมายว่าด้วยการสมคบกันกระทำผิดก็ยังมีอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 887/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจคณะกรรมการสำรวจที่ดิน: ไม่สามารถยกเลิกโฉนดที่ออกตามคำพิพากษาศาลได้
คณะกรรมการสำรวจการออกโฉนดที่ดินไม่มีอำนาจที่จะสั่งให้ยกเลิกโฉนดที่เจ้าพนักงานได้ออกให้เนื่องจากคำพิพากษาของศาลเพราะความใน พระราชบัญญัติไม่กินถึงว่าให้อำนาจเช่นนั้น(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 887/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจคณะกรรมการสำรวจออกโฉนดที่ดินจำกัดเฉพาะการแก้ไขข้อผิดพลาด ไม่สามารถยกเลิกโฉนดที่ออกตามคำพิพากษาศาลได้
คณะกรรมการสำรวจการออกโฉนดที่ดิน ไม่มีอำนาจที่จะสั่งให้ยกเลิกโฉนดที่เจ้าพนักงานได้ออกให้เนื่องจากคำพิพากษาของศาล เพราะความใน พ.ร.บ.ไม่กินถึงว่าให้อำนาจ เช่นนั้น.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2499)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851-853/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิในที่ดินวัด: การโอนกรรมสิทธิที่ดินวัดและที่ธรณีสงฆ์ต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์
ม.1332 ใช้บังคับเฉพาะทรัพย์สินธรรมดา แต่สำหรับที่วัดและที่ธรณีสงฆ์นั้น พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2484 ม.41 บัญญัติว่าจะโอนกรรมสิทธิได้แต่โดย พ.ร.บ.เท่านั้น ดังนั้นแม้จะซื้อที่พิพาทไว้โดยสุจริตเสียค่าตอบแทนจากการขายทอดตลาดก็หาได้กรรมสิทธิไม่ และเมื่อวัดซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินก็ไม่มีหน้าที่คืนหรือชดใช้ราคาแก่ผู้ซื้อ เพราะกรณีไม่เข้า ม.1332
บรรยายฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของวัดกลางมาแต่สร้างวัดเช่นนี้หาเป็นเคลือบคลุมไม่ กรณีวัดจะได้ที่มาโดยเหตุใด เมื่อใดไม่ใช่ข้อสำคัญและไม่มีทางที่จะหลงผิดในการต่อสู้คดี
เจ้าอาวาสแห่งวัดมอบอำนาจให้บุคคลดำเนินคดีแทนวัดได้ อ้างฎีกาที่ 823,824,825/2496
การมอบอำนาจก็คือการให้ตัวแทนมีอำนาจแทนตัวการนั่นเอง และการแต่งตั้งตัวแทนนั้นจะแต่งตั้งโดยเปิดเผยหรือโดยปริยายก็ได้ (ม.797 วรรค 2) และกิจการใดที่ ก.ม.บัญญัติว่าต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนก็ต้องทำเป็นหนังสือมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วย.การที่ทำหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือย่อมหมายถึงหนังสือหรือหลักฐานอันมีลายมือชื่อของผู้เป็นตัวการซึ่งเป็นผู้แต่งตั้ง (ม.9) สวนสำหรับตัวแทนหรือผู้รับมอบนั้น หามี ก.ม.ใดบังคับให้ต้องลงนามด้วยไม่
ข้อ ก.ม. ที่เพิ่งยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นฎีกาเป็นการต้องห้าม หาฎีกาได้ไม่.
บรรยายฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของวัดกลางมาแต่สร้างวัดเช่นนี้หาเป็นเคลือบคลุมไม่ กรณีวัดจะได้ที่มาโดยเหตุใด เมื่อใดไม่ใช่ข้อสำคัญและไม่มีทางที่จะหลงผิดในการต่อสู้คดี
เจ้าอาวาสแห่งวัดมอบอำนาจให้บุคคลดำเนินคดีแทนวัดได้ อ้างฎีกาที่ 823,824,825/2496
การมอบอำนาจก็คือการให้ตัวแทนมีอำนาจแทนตัวการนั่นเอง และการแต่งตั้งตัวแทนนั้นจะแต่งตั้งโดยเปิดเผยหรือโดยปริยายก็ได้ (ม.797 วรรค 2) และกิจการใดที่ ก.ม.บัญญัติว่าต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนก็ต้องทำเป็นหนังสือมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วย.การที่ทำหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือย่อมหมายถึงหนังสือหรือหลักฐานอันมีลายมือชื่อของผู้เป็นตัวการซึ่งเป็นผู้แต่งตั้ง (ม.9) สวนสำหรับตัวแทนหรือผู้รับมอบนั้น หามี ก.ม.ใดบังคับให้ต้องลงนามด้วยไม่
ข้อ ก.ม. ที่เพิ่งยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นฎีกาเป็นการต้องห้าม หาฎีกาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851-853/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ที่ดินธรณีสงฆ์: การโอนกรรมสิทธิ์ต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์, การซื้อสุจริตจากการขายทอดตลาดไม่ทำให้ได้กรรมสิทธิ์
มาตรา 1332 ใช้บังคับเฉพาะทรัพย์สินธรรมดาสำหรับที่วัดและที่ธรณีสงฆ์นั้นพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2484 มาตรา 41บัญญัติว่าจะโอนกรรมสิทธิ์ได้แต่โดยพระราชบัญญัติเท่านั้นดังนั้นแม้จะซื้อที่พิพาทไว้โดยสุจริตเสียค่าตอบแทนจากการขายทอดตลาดก็หาได้กรรมสิทธิ์ไม่ และวัดซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินก็ไม่มีหน้าที่คืนหรือชดใช้ราคาแก่ผู้ซื้อเพราะกรณีไม่เข้ามาตรา 1332
บรรยายฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของวัดกลางมาแต่สร้างวัดเช่นนี้หาเป็นเคลือบคลุมไม่ กรณีวัดจะได้ที่มาโดยเหตุใด เมื่อใดไม่ใช่ข้อสำคัญและไม่มีทางที่จะหลงผิดในการต่อสู้คดี
เจ้าอาวาสแห่งวัดมอบอำนาจให้บุคคลดำเนินคดีแทนวัดได้อ้างฎีกาที่ 823,824,825/2496
การมอบอำนาจก็คือการให้ตัวแทนมีอำนาจทำการแทนตัวการนั่นเอง และการแต่งตั้งตัวแทนนั้นจะแต่งตั้งโดยเปิดเผยหรือโดยปริยายก็ได้(มาตรา 797 วรรคสอง) และกิจการใดที่กฎหมายบัญญัติว่าต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนก็ต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วย การที่ทำหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือย่อมหมายถึงหนังสือหรือหลักฐานอันมีลายมือชื่อของผู้เป็นตัวการซึ่งเป็นผู้แต่งตั้ง(มาตรา 9)ส่วนสำหรับตัวแทนหรือผู้รับมอบนั้นหามีกฎหมายใดบังคับให้ต้องลงนามด้วยไม่
ข้อกฎหมายที่เพิ่งยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นฎีกาเป็นการต้องห้ามหาฎีกาได้ไม่
บรรยายฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของวัดกลางมาแต่สร้างวัดเช่นนี้หาเป็นเคลือบคลุมไม่ กรณีวัดจะได้ที่มาโดยเหตุใด เมื่อใดไม่ใช่ข้อสำคัญและไม่มีทางที่จะหลงผิดในการต่อสู้คดี
เจ้าอาวาสแห่งวัดมอบอำนาจให้บุคคลดำเนินคดีแทนวัดได้อ้างฎีกาที่ 823,824,825/2496
การมอบอำนาจก็คือการให้ตัวแทนมีอำนาจทำการแทนตัวการนั่นเอง และการแต่งตั้งตัวแทนนั้นจะแต่งตั้งโดยเปิดเผยหรือโดยปริยายก็ได้(มาตรา 797 วรรคสอง) และกิจการใดที่กฎหมายบัญญัติว่าต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนก็ต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วย การที่ทำหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือย่อมหมายถึงหนังสือหรือหลักฐานอันมีลายมือชื่อของผู้เป็นตัวการซึ่งเป็นผู้แต่งตั้ง(มาตรา 9)ส่วนสำหรับตัวแทนหรือผู้รับมอบนั้นหามีกฎหมายใดบังคับให้ต้องลงนามด้วยไม่
ข้อกฎหมายที่เพิ่งยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นฎีกาเป็นการต้องห้ามหาฎีกาได้ไม่