พบผลลัพธ์ทั้งหมด 597 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2032/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความคลาดเคลื่อนของวันเวลากระทำผิดในคดีอาญา ไม่กระทบต่อการรับฟังพยานหลักฐาน
เกี่ยวกับเวลากระทำผิดในคดีอาญา โจทก์บรรยายฟ้องว่าเหตุเกิดคืนวันที่ 19 ก.พ. 95 "ชั้นสอบสวนพยานให้การว่าเกิดเหตุเวลา 1.00 นาฬิกาวันที่ 20 ก.พ." ชั้นศาลพยานให้การว่าเหตุเกิด" เวลาราว 23.00 นาฬิกาวันที่ 19 ก.พ." ผิดเวลากันเพียง 2 ชั่วโมงดังนี้+
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1988/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแซงในโค้งและการใช้ความระวัง: ผู้ขับขี่มีหน้าที่ระวังเป็นพิเศษเมื่อแซงในโค้ง แต่หากใช้ความระวังสมควรแล้ว ไม่ถือว่าประมาท
เมื่อมีรถจอดนิ่งอยู่กับที่แม้ตรงนั้นเป็นทางเลี้ยวโค้ง จำเลยซึ่งขับรถแล่นมาตามทางที่รถจอดอยู่ก็ชอบที่จะหลีกแซงขึ้นหน้าได้ไม่ผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ม.11 แต่ต้องมีหน้าที่ระวังเป็นพิเศษเมื่อปรากฎว่าตรงนั้นเป็นที่โค้งทบศอก จะเห็นได้ก็ต่อเมื่อเข้ามากระชั้นชิดและไม่มีทางจะหลบเลี่ยงได้ทั้งจำเลยขับรถไม่เร็วและพยายาม+ ดังนี้เป็นอันว่าจำเลยได้ใช้ความระวังสมควรกับหน้าที่แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1988/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลีกแซงรถที่จอด และหน้าที่ใช้ความระวังเป็นพิเศษเมื่อขับรถในที่โค้ง
เมื่อมีรถจอดนิ่งอยู่กับที่แม้ตรงนั้นเป็นทางเลี้ยวโค้ง จำเลยซึ่งขับรถแล่นมาตามทางที่รถจอดอยู่ก็ชอบที่จะหลีกแซงขึ้นหน้าได้ไม่ผิดตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบก มาตรา 11 แต่ต้องมีหน้าที่ระวังเป็นพิเศษ เมื่อปรากฏว่าตรงนั้นเป็นที่โค้งทบศอก จะเห็นได้ก็ต่อเมื่อเข้ามากระชั้นชิดและไม่มีทางจะหลบเลี่ยงได้ ทั้งจำเลยขับรถไม่เร็วและพยายามห้ามล้อดังนี้เป็นอันว่าจำเลยได้ใช้ความระวังสมควรกับหน้าที่แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1957/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งที่ดินโดยการยกให้และการทำพินัยกรรมภายหลัง สิทธิของผุ้รับยกย่อมคุ้มครอง แม้การยกให้ไม่สมบูรณ์
ที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญเจ้าของยกให้โดยไม่ได้ทำให้ถูกต้องสมบูรณ์ตามกฎหมาย ผู้รับการให้ได้เข้าครอบครองมากว่าหนึ่งปีแล้วย่อมได้สิทธิตาม มาตรา 1367 ฉะนั้นเจ้าของเดิมทำพินัยกรรมยกที่ดินนั้นให้ผู้อื่นในภายหลังจึงไม่มีผล
โจทก์บรรยายฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ แล้วนำสืบว่าโจทก์ได้ที่พิพาทมาโดยผู้อื่นยกให้เช่นนี้ เป็นการสืบถึงเหตุที่ได้ที่พิพาทมา ไม่เป็นการสืบนอกฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ แล้วนำสืบว่าโจทก์ได้ที่พิพาทมาโดยผู้อื่นยกให้เช่นนี้ เป็นการสืบถึงเหตุที่ได้ที่พิพาทมา ไม่เป็นการสืบนอกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1957/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้สิทธิในที่ดินจากการครอบครองโดยการรับให้ แม้การให้ไม่สมบูรณ์ และผลของการทำพินัยกรรมหลังการครอบครอง
ที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญเจ้าของยกให้โดยไม่ได้ทำให้ถูกต้องสมบูรณ์ตามกฎหมาย ผู้รับการให้ได้เข้าครอบครองมากว่าหนึ่งปีแล้วย่อมได้สิทธิตาม ม.1367 ฉะนั้นเจ้าของเดิมทำพินัยกรรม์ยกที่ดินนั้นให้ผู้อื่นในภายหลังจึงไม่มีผล
โจทก์บรรยายฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ แล้วนำสืบว่าโจทก์ได้ที่พิพาทมาโดยผู้อื่นยกให้เช่นนี้ เป็นการสืบถึงเหตุที่ได้ที่พิพาทมา ไม่เป็นการสืบนอกฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ แล้วนำสืบว่าโจทก์ได้ที่พิพาทมาโดยผู้อื่นยกให้เช่นนี้ เป็นการสืบถึงเหตุที่ได้ที่พิพาทมา ไม่เป็นการสืบนอกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1956/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนคำสั่งอนุญาตให้เป็นโจทก์ร่วมและการไม่อนุญาตสืบพยานเพิ่มเติมเนื่องจากเป็นการประวิงคดี
ภริยาไม่ชอบด้วยกฎหมายเข้าเป็นโจทก์ร่วมในคดีที่อัยการฟ้องว่าจำเลยฆ่าสามีโจทก์ร่วม สืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว ความปรากฏขึ้นศาลจึงถอนคำสั่งที่อนุญาตให้เข้าเป็นโจทก์ร่วม แต่ในชั้นพิจารณาทนายของโจทก์ร่วมมิได้ซักถามพยานแต่อย่างใด จึงไม่มีเหตุที่จะให้พิจารณาใหม่
ทนายจำเลยแถลงขอสืบพยานอีกคนเดียวนอกนั้นไม่ติดใจสืบเพราะไม่ใช่ข้อสำคัญ ถึงวันนัดพยานไม่มาศาล จำเลยว่าป่วย แต่ไม่มีหลักฐานแสดงว่าป่วย จำเลยกลับขอถอนทนาย และขอสืบพยานที่ทนายจำเลยแถลงไม่ติดใจสืบ ดังนี้เป็นการประวิงความศาลไม่อนุญาตให้สืบพยานจำเลยตามที่ขอ
ทนายจำเลยแถลงขอสืบพยานอีกคนเดียวนอกนั้นไม่ติดใจสืบเพราะไม่ใช่ข้อสำคัญ ถึงวันนัดพยานไม่มาศาล จำเลยว่าป่วย แต่ไม่มีหลักฐานแสดงว่าป่วย จำเลยกลับขอถอนทนาย และขอสืบพยานที่ทนายจำเลยแถลงไม่ติดใจสืบ ดังนี้เป็นการประวิงความศาลไม่อนุญาตให้สืบพยานจำเลยตามที่ขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1951-1954/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจทั่วไปผูกพันบริษัท แม้ข้อบังคับกำหนดลายมือชื่อกรรมการ 2 นาย และการจดทะเบียน
เมื่อหนังสือตั้งตัวแทนไม่มีข้อความจำกัดอำนาจตัวแทนไว้ว่าให้มีอำนาจเฉพาะการจึงเป็นหนังสือมอบอำนาจทั่วไป ตัวแทนมีอำนาจจัดการแทนตัวการได้ทุกอย่าง
แม้มีข้อบังคับของบริษัทกำหนดว่าต้องมีกรรมการลงชื่อร่วมกัน 2 นายและประทับตราบริษัทจึงจะผูกพันบริษัทและปรากฏว่ากรรมการของบริษัทแต่นายเดียวลงชื่อแต่งตั้งตัวแทนภายหลังเจ้าพนักงานรับจดทะเบียนแล้ว แต่ตัวแทนของบริษัทได้ทำสัญญาซื้อขายและจ้างเหมาแรงงานกับโจทก์ก่อนประกาศโฆษณาในราชกิจจานุเบกษา ดังนี้จำเลยจะถือเอาประโยชน์จากข้อความที่ต้องจดทะเบียนมายันโจทก์ซึ่งเป็นคนภายนอกไม่ได้
แม้มีข้อบังคับของบริษัทกำหนดว่าต้องมีกรรมการลงชื่อร่วมกัน 2 นายและประทับตราบริษัทจึงจะผูกพันบริษัทและปรากฏว่ากรรมการของบริษัทแต่นายเดียวลงชื่อแต่งตั้งตัวแทนภายหลังเจ้าพนักงานรับจดทะเบียนแล้ว แต่ตัวแทนของบริษัทได้ทำสัญญาซื้อขายและจ้างเหมาแรงงานกับโจทก์ก่อนประกาศโฆษณาในราชกิจจานุเบกษา ดังนี้จำเลยจะถือเอาประโยชน์จากข้อความที่ต้องจดทะเบียนมายันโจทก์ซึ่งเป็นคนภายนอกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1951-1954/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจทั่วไปผูกพันจำเลย แม้ข้อบังคับบริษัทกำหนดเงื่อนไขการลงนาม
เมื่อหนังสือตั้งตัวแ+นไม่มีข้อความจำกัดอำนาจตัวแทนไว้ว่าให้มีอำนาจเฉพาะการจึงเป็นหนังสือมอบอำนาจทั้วไป ตัวแทนมีอำนาจจัดการแทนตัวการได้ทุกอย่าง
แม้มีข้อบังคับของบริษัทกำหนดว่าต้องมีกรรมการลงชื่อร่วมกัน 2 นายและประทับตราบริษัทจึงจะผูกพันบริษัทและปรากฎว่า+4การของบริษัทแต่นายเดียวลงชื่อแต่งตั้งตัวแทนภายหลังเจ้าพนักงานับจดทะเบียนแล้ว แต่ตัวแทนของบริษัทได้ทำสัญญาซื้อขายและจ้างเหมาแรงงานกับโจทก์ก่อนประกาศโฆษณาในราชกิจจานุเบกษา ดังนี้จำเลยจะถือเอาประโยชน์จากข้อความที่ต้องลงทะเบียน+
แม้มีข้อบังคับของบริษัทกำหนดว่าต้องมีกรรมการลงชื่อร่วมกัน 2 นายและประทับตราบริษัทจึงจะผูกพันบริษัทและปรากฎว่า+4การของบริษัทแต่นายเดียวลงชื่อแต่งตั้งตัวแทนภายหลังเจ้าพนักงานับจดทะเบียนแล้ว แต่ตัวแทนของบริษัทได้ทำสัญญาซื้อขายและจ้างเหมาแรงงานกับโจทก์ก่อนประกาศโฆษณาในราชกิจจานุเบกษา ดังนี้จำเลยจะถือเอาประโยชน์จากข้อความที่ต้องลงทะเบียน+
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1835/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับโอนที่ดินโดยรู้ว่าเป็นของผู้อื่น ไม่อาจอ้างการครอบครองปรปักษ์ได้
ผู้ซื้อรับโอนการครอบครองที่ดินมาโดยรู้ว่าที่ดินที่ตนซื้อนั้นเป็นของผู้อื่นไม่ใช่ของผู้ที่โอนขายให้แก่ตน ผู้โอนเป็นแต่เพียงผู้ครอบครองแทนเจ้าของอันแท้จริงเท่านั้น เช่นนี้ผู้รับโอนย่อมจะอ้างการครอบครองปรปักษ์ยันเจ้าของอันแท้จริงหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1835/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับโอนที่ดินโดยรู้ว่าเป็นของผู้อื่น ย่อมไม่อ้างการครอบครองปรปักษ์ได้
ผู้ซื้อรับโอนการครอบครองที่ดินมาโดยรู้ว่าที่ดินที่ตนซื้อนั้นเป็นของผู้อื่น ไม่ใช่ของผู้ที่โอนขายให้แก่ตน ผู้โอนเป็นแต่เพียงผู้ครอบครองแทนเจ้าของอันแท้จริงเท่านั้น เช่นนี้ผู้รับโอนย่อมจะอ้างการครอบครองปรปักษ์ยันเจ้าของอันแท้จริงหาได้ไม่