พบผลลัพธ์ทั้งหมด 597 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 999/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกันภัยทางทะเล: การสูญเสียสิ้นเชิงจากภัยทางทะเลและการพิจารณาความเสียหายของสินค้าบรรทุก
กฎหมายทะเลของประเทศไทยในขณะนี้ยังไม่มี ทั้งจารีตประเพณีก็ไม่ปรากฎ เมื่อเกิดมีคดีขึ้น จึงควรเทียบวินิจฉัย ตามหลักกฎหมายทั่วไป.
สัญญาประกันภัยทางทะเลทำขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ จึงควรยึดกฎหมายว่าด้วยการประกันภัยทางทะเลของประเทศ อังกฤษเป็นกฎหมายทั่วไปเพื่อเทียบเคียงวินิจฉีย.
คำว่า "อันตรายทางทะเล" หรือ "ภยันตรายแห่งทะเล" ซึ่งตรงกับภาษาอังกฤษว่า "Peril of the sea" นั้น ย่อมหมาย ถึงภยันตรายใด ๆ ที่เกิดขึ้นอันเป็นวิสัยที่ท้องทะเลจะบันดาลได้หาจำจะต้องคำนึงถึงว่า ขณะนั้นทะเลเรียบร้อยอยู่ หรือทะเลเป็นบ้าอย่างใดไม่ การที่เรือเกิดรั่วต้องอับปางลงในระหว่างเดินทางในทะเลโดยไม่ใช่ความผิดของใคร ย่อมเป็นอันตรายที่เรือนั้นจะต้องประสพโดยวิสัยในการเดินทางผ่านทะลอยู่แล้ว เป็นอันตรายทางทะเลตามความ หมายแห่งการประกันภัยทางทะเลแล้ว ตามที่ศาลอังกฤษถือตามกันมาก็ถืออันตรายที่เกิดขึ้นโดยโชคกรรมจากทะเล หรือเนื่องจากทะเล.
โจทก์ได้ประกันภัยปูนซิเมนต์จำนวนหนึ่ง บรรทุกเรือยนต์ตรังกานูไปจังหวัดสงขลา ไว้กับจำเลย หรือตรังกานูออก จากท่ากรุงเทฯ จะไปจังหวัดสงขลา พ้นสันดอนปากน้ำเจ้าพระยาไปแล้วประมาณ 10 ไมล์เศษเกิดมีคลื่นลมจัด เรือ โคลงมาก และน้ำเข้าเรือมาก ถ้าไม่กลับเรือจะจม เรือตรังกานูจึงได้แล่นกลับ พยายามแก้ไขและวิดน้ำก็ไม่ดีขึ้น ใน ที่สุดน้ำท่วมเครื่องดับนายเรือให้สัญญาณบอกเหตุเรืออับปาง มีเรือยนต์อื่นมาช่วยถ่ายคนและลากเรือตรังกานูมา ปล่อยไว้ที่กลางน้ำหน้าที่ทำการไปรษณีย์ปากน้ำ,แล้วได้จ้างเรือเล็กลากเข้าฝั่งเกยตื้นจมอยู่ที่ฝั่ง ป้อมผีเสื้อสมุทร ปูน ซิเมนต์ถูกน้ำท่วมเสียหายสิ้นเชิง ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นความเสียหายที่เนื่องจากเรือได้สูญเสียสิ้นเชิงเนื่องจากอัน ตรายทางทะเล แล้วบริษัทผู้รับประกันต้องรับผิด ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก./
สัญญาประกันภัยทางทะเลทำขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ จึงควรยึดกฎหมายว่าด้วยการประกันภัยทางทะเลของประเทศ อังกฤษเป็นกฎหมายทั่วไปเพื่อเทียบเคียงวินิจฉีย.
คำว่า "อันตรายทางทะเล" หรือ "ภยันตรายแห่งทะเล" ซึ่งตรงกับภาษาอังกฤษว่า "Peril of the sea" นั้น ย่อมหมาย ถึงภยันตรายใด ๆ ที่เกิดขึ้นอันเป็นวิสัยที่ท้องทะเลจะบันดาลได้หาจำจะต้องคำนึงถึงว่า ขณะนั้นทะเลเรียบร้อยอยู่ หรือทะเลเป็นบ้าอย่างใดไม่ การที่เรือเกิดรั่วต้องอับปางลงในระหว่างเดินทางในทะเลโดยไม่ใช่ความผิดของใคร ย่อมเป็นอันตรายที่เรือนั้นจะต้องประสพโดยวิสัยในการเดินทางผ่านทะลอยู่แล้ว เป็นอันตรายทางทะเลตามความ หมายแห่งการประกันภัยทางทะเลแล้ว ตามที่ศาลอังกฤษถือตามกันมาก็ถืออันตรายที่เกิดขึ้นโดยโชคกรรมจากทะเล หรือเนื่องจากทะเล.
โจทก์ได้ประกันภัยปูนซิเมนต์จำนวนหนึ่ง บรรทุกเรือยนต์ตรังกานูไปจังหวัดสงขลา ไว้กับจำเลย หรือตรังกานูออก จากท่ากรุงเทฯ จะไปจังหวัดสงขลา พ้นสันดอนปากน้ำเจ้าพระยาไปแล้วประมาณ 10 ไมล์เศษเกิดมีคลื่นลมจัด เรือ โคลงมาก และน้ำเข้าเรือมาก ถ้าไม่กลับเรือจะจม เรือตรังกานูจึงได้แล่นกลับ พยายามแก้ไขและวิดน้ำก็ไม่ดีขึ้น ใน ที่สุดน้ำท่วมเครื่องดับนายเรือให้สัญญาณบอกเหตุเรืออับปาง มีเรือยนต์อื่นมาช่วยถ่ายคนและลากเรือตรังกานูมา ปล่อยไว้ที่กลางน้ำหน้าที่ทำการไปรษณีย์ปากน้ำ,แล้วได้จ้างเรือเล็กลากเข้าฝั่งเกยตื้นจมอยู่ที่ฝั่ง ป้อมผีเสื้อสมุทร ปูน ซิเมนต์ถูกน้ำท่วมเสียหายสิ้นเชิง ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นความเสียหายที่เนื่องจากเรือได้สูญเสียสิ้นเชิงเนื่องจากอัน ตรายทางทะเล แล้วบริษัทผู้รับประกันต้องรับผิด ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 999/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกันภัยทางทะเล: 'อันตรายทางทะเล' ครอบคลุมความเสียหายจากเหตุสุดวิสัยที่ทำให้เรืออับปางและสินค้าเสียหาย
กฎหมายทะเลของประเทศไทยในขณะนี้ยังไม่มี ทั้งจารีตประเพณีก็ไม่ปรากฏ เมื่อเกิดมีคดีขึ้น จึงควรเทียบวินิจฉัยตามหลักกฎหมายทั่วไป
สัญญาประกันภัยทางทะเลทำขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ จึงควรถือกฎหมายว่าด้วยการประกันภัยทางทะเลของประเทศอังกฤษเป็นกฎหมายทั่วไปเพื่อเทียบเคียงวินิจฉัย
คำว่า "อันตรายทางทะเล" หรือ "ภยันตรายแห่งทะเล" ซึ่งตรงกับภาษาอังกฤษว่า "PERILOFTHESEA" นั้น ย่อมหมายถึงภยันตรายใดๆ ที่เกิดขึ้นอันเป็นวิสัยที่ท้องทะเลจะบันดาลได้ หาจำจะต้องคำนึงถึงว่า ขณะนั้นทะเลเรียบร้อยอยู่หรือทะเลเป็นบ้าอย่างใดไม่ การที่เรือเกิดรั่วต้องอับปางลงในระหว่างเดินทางในทะเลโดยไม่ใช่ความผิดของใคร ย่อมเป็นอันตรายที่เรือนั้นจะต้องประสพโดยวิสัยในการเดินทางผ่านทะเลอยู่แล้ว เป็นอันตรายทางทะเลตามความหมายแห่งการประกันภัยทางทะเลแล้ว ตามที่ศาลอังกฤษถือตามกันมาก็ถืออันตรายที่เกิดขึ้นโดยโชคกรรมจากทะเลหรือเนื่องจากทะเล
โจทก์ได้ประกันภัยปูนซิเมนต์จำนวนหนึ่ง บรรทุกเรือยนต์ตรังกานูไปจังหวัดสงขลา ไว้กับจำเลย เรือตรังกานูออกจากท่ากรุงเทพฯจะไปจังหวัดสงขลา พ้นสันดอนปากน้ำเจ้าพระยาไปแล้วประมาณ 10 ไมล์เศษเกิดมีคลื่นลมจัด เรือโคลงมาก และน้ำเข้าเรือมาก ถ้าไม่กลับเรือจะจมเรือตรังกานูจึงได้แล่นกลับ พยายามแก้ไขและวิดน้ำก็ไม่ดีขึ้น ในที่สุดน้ำท่วมเครื่องดับนายเรือให้สัญญาณบอกเหตุเรืออับปาง มีเรือยนต์อื่นมาช่วยถ่ายคนและลากเรือตรังกานูมาปล่อยไว้ที่กลางน้ำหน้าที่ทำการไปรษณีย์ปากน้ำแล้ว ได้จ้างเรือเล็กลากเข้าฝั่งเกยตื้นจมอยู่ที่ฝั่งป้อมผีเสื้อสมุทร ปูนซิเมนต์ถูกน้ำท่วมเสียหายสิ้นเชิงดังนี้ ถือได้ว่าเป็นความเสียหายที่เนื่องจากเรือได้สูญเสียสิ้นเชิงเนื่องจากอันตรายทางทะเลแล้ว บริษัทผู้รับประกันต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
สัญญาประกันภัยทางทะเลทำขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ จึงควรถือกฎหมายว่าด้วยการประกันภัยทางทะเลของประเทศอังกฤษเป็นกฎหมายทั่วไปเพื่อเทียบเคียงวินิจฉัย
คำว่า "อันตรายทางทะเล" หรือ "ภยันตรายแห่งทะเล" ซึ่งตรงกับภาษาอังกฤษว่า "PERILOFTHESEA" นั้น ย่อมหมายถึงภยันตรายใดๆ ที่เกิดขึ้นอันเป็นวิสัยที่ท้องทะเลจะบันดาลได้ หาจำจะต้องคำนึงถึงว่า ขณะนั้นทะเลเรียบร้อยอยู่หรือทะเลเป็นบ้าอย่างใดไม่ การที่เรือเกิดรั่วต้องอับปางลงในระหว่างเดินทางในทะเลโดยไม่ใช่ความผิดของใคร ย่อมเป็นอันตรายที่เรือนั้นจะต้องประสพโดยวิสัยในการเดินทางผ่านทะเลอยู่แล้ว เป็นอันตรายทางทะเลตามความหมายแห่งการประกันภัยทางทะเลแล้ว ตามที่ศาลอังกฤษถือตามกันมาก็ถืออันตรายที่เกิดขึ้นโดยโชคกรรมจากทะเลหรือเนื่องจากทะเล
โจทก์ได้ประกันภัยปูนซิเมนต์จำนวนหนึ่ง บรรทุกเรือยนต์ตรังกานูไปจังหวัดสงขลา ไว้กับจำเลย เรือตรังกานูออกจากท่ากรุงเทพฯจะไปจังหวัดสงขลา พ้นสันดอนปากน้ำเจ้าพระยาไปแล้วประมาณ 10 ไมล์เศษเกิดมีคลื่นลมจัด เรือโคลงมาก และน้ำเข้าเรือมาก ถ้าไม่กลับเรือจะจมเรือตรังกานูจึงได้แล่นกลับ พยายามแก้ไขและวิดน้ำก็ไม่ดีขึ้น ในที่สุดน้ำท่วมเครื่องดับนายเรือให้สัญญาณบอกเหตุเรืออับปาง มีเรือยนต์อื่นมาช่วยถ่ายคนและลากเรือตรังกานูมาปล่อยไว้ที่กลางน้ำหน้าที่ทำการไปรษณีย์ปากน้ำแล้ว ได้จ้างเรือเล็กลากเข้าฝั่งเกยตื้นจมอยู่ที่ฝั่งป้อมผีเสื้อสมุทร ปูนซิเมนต์ถูกน้ำท่วมเสียหายสิ้นเชิงดังนี้ ถือได้ว่าเป็นความเสียหายที่เนื่องจากเรือได้สูญเสียสิ้นเชิงเนื่องจากอันตรายทางทะเลแล้ว บริษัทผู้รับประกันต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 933/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าสิ้นสุดจากเหตุอายัด + สิทธิของผู้เช่าช่วง
สัญญาเช่ามีเงื่อนไขข้อหนึ่งว่าถ้าสถานที่เช่าหรือสิ่งของที่อยู่ในสถานที่เช่าถูกอายัติหรือถูกยึดตามคำสั่งของศาลก็ดี ฯลฯ ในกรณีใดกรณีหนึ่งดังว่ามานี้ ผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่าเข้ายึดปกครองสถานที่เช่าได้ทันที และจัดการต่อไปตามที่ เห็นสมควร ฯลฯ ข้อความดังนี้เป็นอันชัดว่า ผู้เช่าได้สัญญาเลิกใช้และรับประโยชน์ในสถานที่เช่านั่นเอง เท่ากับ เป็นเงื่อนไขให้สัญญาเช่าสิ้นสุดลง เมื่อมีการถูกอายัติตามเงื่อนไขดังกล่าว ผู้ให้เช่าจึงมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าตาม เงื่อนไขนั้นได้.
ป.พ.พ.มาตรา 545 ที่บัญญัติให้ผู้เช่าช่วงต้องรับผิดต่อผู้ให้เช่าเดิมโดยตรงนั้น เป็นแต่เรื่องให้รับผิดตามหน้าที่ของ ผู้เช่า กฎหมายมิได้บังคับให้ผู้เช่าต้องรับผิดต่อผู้เช่าช่วงอย่างใดไม่ อีกนัยหนึ่งผู้เช่าช่วงแม้จะเป็นไปโดยชอบ ก็หา อาจกลายมาเป็นผู้เช่าอีกคนหนึ่งไม่.
สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น แม้จะได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนไว้ คู่สัญญาก็ตกลงกันเป็นหนังสือเพิกถอนสัญ ญาเช่านั้น เพราะเป็นสัญยาที่ตกลงกันระหว่างบุคคลเป็นบุคคลสิทธิคู่กรณีย่อมตกลงเลิกสัญญาเช่าเมื่อใด ๆ ก็ได้ โดยไม่ต้องจดทะเบียน
ป.พ.พ.มาตรา 545 ที่บัญญัติให้ผู้เช่าช่วงต้องรับผิดต่อผู้ให้เช่าเดิมโดยตรงนั้น เป็นแต่เรื่องให้รับผิดตามหน้าที่ของ ผู้เช่า กฎหมายมิได้บังคับให้ผู้เช่าต้องรับผิดต่อผู้เช่าช่วงอย่างใดไม่ อีกนัยหนึ่งผู้เช่าช่วงแม้จะเป็นไปโดยชอบ ก็หา อาจกลายมาเป็นผู้เช่าอีกคนหนึ่งไม่.
สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น แม้จะได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนไว้ คู่สัญญาก็ตกลงกันเป็นหนังสือเพิกถอนสัญ ญาเช่านั้น เพราะเป็นสัญยาที่ตกลงกันระหว่างบุคคลเป็นบุคคลสิทธิคู่กรณีย่อมตกลงเลิกสัญญาเช่าเมื่อใด ๆ ก็ได้ โดยไม่ต้องจดทะเบียน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 933/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าสิ้นสุดจากเหตุอายัดทรัพย์ และสิทธิของผู้เช่าช่วง
สัญญาเช่ามีเงื่อนไขข้อหนึ่งว่าถ้าสถานที่เช่าหรือสิ่งของที่อยู่ในสถานที่เช่าถูกอายัดหรือถูกยึดตามคำสั่งของศาลก็ดี ฯลฯ ในกรณีใดกรณีหนึ่งดังว่ามานี้ ผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่าเข้ายึดปกครองสถานที่เช่าได้ทันที และจัดการต่อไปตามที่เห็นสมควร ฯลฯ ข้อความดังนี้เป็นอันชัดว่าผู้เช่าได้สัญญาเลิกใช้และรับประโยชน์ในสถานที่เช่านั่นเอง เท่ากับเป็นเงื่อนไขให้สัญญาเช่าสิ้นสุดลง เมื่อมีการถูกอายัดตามเงื่อนไขดังกล่าว ผู้ให้เช่าจึงมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าตามเงื่อนไขนั้นได้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 545 ที่บัญญัติให้ผู้เช่าช่วงต้องรับผิดต่อผู้ให้เช่าเดิมโดยตรงนั้น เป็นแต่เรื่องให้รับผิดตามหน้าที่ของผู้เช่า กฎหมายมิได้บังคับให้ผู้ให้เช่าต้องรับผิดต่อผู้เช่าช่วงอย่างใดไม่ อีกนัยหนึ่งผู้เช่าช่วงแม้จะเป็นไปโดยชอบ ก็หาอาจกลายมาเป็นผู้เช่าอีกคนหนึ่งไม่
สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้นแม้จะได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนไว้ คู่สัญญาก็ตกลงกันเป็นหนังสือเพิกถอนสัญญาเช่านั้นได้ เพราะเป็นสัญญาที่ตกลงกันระหว่างบุคคลเป็นบุคคลสิทธิคู่กรณีย่อมตกลงเลิกสัญญาเช่าเมื่อใดๆ ก็ได้โดยไม่ต้องจดทะเบียน
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 545 ที่บัญญัติให้ผู้เช่าช่วงต้องรับผิดต่อผู้ให้เช่าเดิมโดยตรงนั้น เป็นแต่เรื่องให้รับผิดตามหน้าที่ของผู้เช่า กฎหมายมิได้บังคับให้ผู้ให้เช่าต้องรับผิดต่อผู้เช่าช่วงอย่างใดไม่ อีกนัยหนึ่งผู้เช่าช่วงแม้จะเป็นไปโดยชอบ ก็หาอาจกลายมาเป็นผู้เช่าอีกคนหนึ่งไม่
สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้นแม้จะได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนไว้ คู่สัญญาก็ตกลงกันเป็นหนังสือเพิกถอนสัญญาเช่านั้นได้ เพราะเป็นสัญญาที่ตกลงกันระหว่างบุคคลเป็นบุคคลสิทธิคู่กรณีย่อมตกลงเลิกสัญญาเช่าเมื่อใดๆ ก็ได้โดยไม่ต้องจดทะเบียน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 820/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกาย: บาดเจ็บสาหัสหรือไม่ พิจารณาจากอาการและระยะเวลาพักฟื้น
พนักงานดูเงินถูกทำร้ายหลายแห่ง แต่สำคัญที่ตาแห่งเดียว นอกนั้นเป็นบาดแผลเล็กน้อย ปรากฎตามคำชัณสูตร บาดแผลว่าที่ตาข้างขวาขอบตาบวมช้ำ กดเจ็บ ภายในดวงตามีการอักเสบ มีเลือดขังอยู่ในเยื่อตา รักษาประมาณ 15 วันหาย แต่นายแพทย์ยืนยันว่า เมื่อรักษาจริง ๆ แล้ว 15 วันไม่หาย และก็ไม่ยืนยันว่า ผู้เสียหายไม่สามารถจะใช้ ตาดูเงินได้ภายใน 20 วัน ถ้าดูอะไรเพียงเล็กน้อย ก็ใช้รานั้นดูได้เพียงแต่ผู้เสียหายลาหยุดราชการ 21 วัน โดย อ้างว่าใช้ตาตรวจดูเงินตามหน้าที่ไม่ได้ ยังไม่พอฟังว่าผู้เสียหายมีบาดเจ็บถึงสาหัส./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 820/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บาดเจ็บจากการทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาความสาหัสของบาดแผลและการหยุดราชการ
พนักงานดูเงินถูกทำร้ายหลายแห่ง แต่สำคัญที่ตาแห่งเดียวนอกนั้นเป็นบาดแผลเล็กน้อย ปรากฏตามคำชันสูตรบาดแผลว่าที่ตาข้างขวาขอบตาบวมช้ำ กดเจ็บภายในดวงตามีการอักเสบมีเลือดขังอยู่ในเยื่อตา รักษาประมาณ 15 วันหาย แต่นายแพทย์ยืนยันว่า เมื่อรักษาจริงๆ แล้ว 15 วันไม่หายและก็ไม่ยืนยันว่า ผู้เสียหายไม่สามารถจะใช้ตาดูเงินได้ภายใน 20 วันถ้าดูอะไรเพียงเล็กน้อย ก็ใช้ตานั้นดูได้เพียงแต่ผู้เสียหายลาหยุดราชการ21 วันโดยอ้างว่าใช้ตาตรวจดูเงินตามหน้าที่ไม่ได้ยังไม่พอฟังว่าผู้เสียหายมีบาดเจ็บถึงสาหัส
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 816/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารระบุเจตนา ยกทรัพย์ให้ผู้อื่น ถือเป็นพินัยกรรมได้ แม้ไม่มีข้อความระบุผลเมื่อตาย
เจ้ามรดกเขียนพินัยกรรม์ยกทรัพย์สินให้บุตรและบุตรเขย แม้จะไม่มีข้อความว่าให้คำสั่งของคนมีผลเมื่อตายแล้ว ก็ดี แต่เมื่ออ่านเอกสารนี้ รวมกันทั้งฉะบับแล้ว คงได้ความว่า ทรัพย์ของเจ้ามรดกที่มีอยู่เมื่อตายเจ้ามรดกไม่ปลงใจ ยกให้แก่ใคร นอกจากบุตรและบุตรเขย ฯลฯ ที่ระบุไว้ในคำสั่งนั้ นั้น จึงย่อมเป็นคำสั่งของเจ้ามรดกได้กำหนดการ เผื่อตายในเรื่องทรัพย์สินของตนอันจะให้เกิดมีผลบังคับได้ตามกฎหมายเมื่อตายแล้ว จึงเป็นพินัยกรรม์ที่ชอบด้วย กฎหมาย ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1646./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 816/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมที่ชอบด้วยกฎหมาย: การระบุผู้รับมรดกและการห้ามมิให้ผู้อื่นเกี่ยวข้องกับทรัพย์มรดก
เจ้ามรดกเขียนพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้บุตรและบุตรเขยแม้จะไม่มีข้อความว่าให้คำสั่งของตนมีผลเมื่อตายแล้วก็ดี แต่เมื่ออ่านเอกสารนี้รวมกันทั้งฉบับแล้ว คงได้ความว่า ทรัพย์ของเจ้ามรดกที่มีอยู่เมื่อตายเจ้ามรดกไม่ปลงใจยกให้แก่ใคร นอกจากบุตรและบุตรเขย ฯลฯ ที่ระบุไว้ในคำสั่งนี้ นั้น จึงย่อมเป็นคำสั่งของเจ้ามรดกได้กำหนดการเผื่อตายในเรื่องทรัพย์สินของตนอันจะให้เกิดมีผลบังคับได้ตามกฎหมายเมื่อตายแล้วจึงเป็นพินัยกรรมที่ชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1646
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 812/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าที่ดินเปลี่ยนสภาพจากสวนเป็นที่อยู่อาศัยได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า การใช้ประโยชน์โดยญาติไม่ถือเช่าช่วง
เดิมที่เช่าเป็นที่สวนผู้เช่าเช่ามาเพื่อทำสวนต่อมาที่ดินได้กลายสภาพไป ไม่ใช่สวนแล้วบุตรผู้เช่าเดิมได้ทำสัญญาเช่ากับเจ้าของที่ดินใหม่ในสัญญาก็มิได้ระบุว่า เพื่อทำสวนดังที่มารดาทำให้ไว้แต่เดิมทั้งความจริงผู้เช่าคนหลังนี้ก็มิได้ใช้ที่พิพาทในการทำสวนเลยแต่ปลูกบ้านอยู่ และให้ญาติพี่น้องเข้ามาปลูกบ้านอยู่กันหลายหลัง เช่นนี้ถือได้ว่าเป็นการเช่าที่ดินเพื่อปลูกที่อยู่อาศัย ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯและการที่ผู้เช่าให้ญาติพี่น้องเข้ามาปลูกเรือนอยู่อาศัยในที่เช่าด้วย นั้นเมื่อมิได้ให้เช่าช่วงแล้ว เจ้าของที่ดินก็จะฟ้องขับไล่ไม่ได้เพราะพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯบัญญัติเฉพาะกรณีที่ผู้เช่าให้เช่าช่วงเท่านั้นไม่ได้ห้ามถึงกรณีที่ผู้เช่าให้ญาติพี่น้องเข้ามาใช้ประโยชน์บนที่ดินที่เช่าด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 812/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าที่ดินเพื่ออยู่อาศัยได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า แม้เดิมทีจะเช่าเพื่อทำสวน
เดิมที่เช่าเป็นที่สวนผู้เช่า เช่ามาเพื่อทำสวน ต่อมาที่ดินได้กลายสภาพไป ไม่ใช่สวนแล้ว บุตรผู้เช่าเดิมได้ทำสัญญา เช่ากับเจ้าของที่ดินใหม่ ในสัญญาก็มิได้ระบุว่า เพื่อทำสวนดังที่มารดาทำให้ไว้แต่เดิม ทั้งความจริงผู้เช่าคนหลังนี้ ก็มิได้ใช้ที่พิพาทในการทำสวนเลย แต่ปลุกบ้านอยู่ และให้ญาติพี่น้องเข้ามาปลูกบ้านอยู่กันหลายหลัง เช่นนี้ ถือได้ ว่าเป็นการเช่าที่ดินเพื่อปลูกที่อยู่อาศัย ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ และการที่ผู้เช่าให้ญาติ พี่นอ้งเข้ามาปลูกเรือนอยู่อาศัยในที่เช่าด้วย นั้น เมื่อมิได้ให้เช่าช่วงแล้ว เจ้าของที่ดินก็จะฟ้องขับไล่ไม่ได้ เพราะ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ บัญญัติเฉพาะกรณีที่ผู้เช่าให้เช่าช่วงเท่านั้น ไม่ได้ห้ามถึงกรณีที่ผู้เช่าให้ญาติพี่น้องเข้า มาใช้ประโยชน์บนที่ดินที่เช่าด้วย./