พบผลลัพธ์ทั้งหมด 36 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1430/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องละเมิดจากการแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จ: ศาลพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้และเหตุผลของผู้ถูกกล่าวหา
โจทก์ฟ้อง ฉ.จำเลยฐานแจ้งความเท็จว่า โจทก์ยักยอกทรัพย์ของ ฉ. ศาลตัดสินยกฟ้องโจทก์ว่า โจทก์ฟ้องแก้เกี้ยวข้อหาของโจทก์ฟังไม่ได้ คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้หาว่า ฉ.จำเลยจงใจแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จ ดังนี้ เมื่อศาลได้ชี้ขาดใดคดีก่อนแล้วว่า ฉ.ไม่ได้แจ้งความเท็จในคดีนี้ ก็ต้องฟังว่า ฉ.ไม่ได้แจ้งความเท็จ
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดในการที่จำเลยเบิกความ แต่ตามฟ้องไม่อาจทราบได้ว่าที่จำเลยเบิกความไปนั้นเป็นการเบิกความเท็จ หรือการเบิกความเช่นนั้นเป็นไปโดยเลินเล่อ เพราะถึงแม้จำเลยจะเบิกความไม่ถูกต้องกับความจริง ก็มีเหตุอันสมควรให้จำเลยเข้าใจผิดเช่นนั้นก็ได้ ซึ่งไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ฉะนั้นฟ้องโจทก์จึงยังไม่เป็นฟ้องที่จะให้จำเลยต้องรับผิดฐานละเมิด.
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดในการที่จำเลยเบิกความ แต่ตามฟ้องไม่อาจทราบได้ว่าที่จำเลยเบิกความไปนั้นเป็นการเบิกความเท็จ หรือการเบิกความเช่นนั้นเป็นไปโดยเลินเล่อ เพราะถึงแม้จำเลยจะเบิกความไม่ถูกต้องกับความจริง ก็มีเหตุอันสมควรให้จำเลยเข้าใจผิดเช่นนั้นก็ได้ ซึ่งไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ฉะนั้นฟ้องโจทก์จึงยังไม่เป็นฟ้องที่จะให้จำเลยต้องรับผิดฐานละเมิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1398/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องร้องการขนย้ายข้าวสารโดยไม่ได้รับอนุญาต: ความครบถ้วนของฟ้องและอำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยขนย้ายข้าวสารโดยมิได้รับอนุญาต ฟ้องโจทก์ได้มีประกาศของคณะกรรมการจังหวัดสงขลาติดมากับฟ้อง ประกาศฉะบับนี้อ้างประกาศคณะกรรมการควบคุมเครืองอุปโภคบริโภค (ฉะบับที่ 6) เรื่องควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคบางอย่าง และตั้งคณะกรมการจังหวัดทุกจังหวัดเว้นจังหวัดพระนครและธนบุรีเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ ดังนี้ ฟ้องโจทก์ย่อมมีสาระสำคัญครบถ้วนแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1251/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเพียงพอของการบรรยายเหตุแห่งการประมาทในฟ้องอาญา
ฟ้องโจทก์กล่าวว่า จำเลยเป็นผู้ขับรถรางไปในถนนหลวง โดยความประมาทปราศจากความระมัดระวังอันควรเป็นวิสัยของปกติชน เป็นเหตุให้รถรางคันที่จำเลยขับชนท้ายรถโดยสารประจำทางเสียหาย ดังนี้ ย่อมเป็นฟ้องที่บรรยายเหตุแห่งการประมาทของจำเลยไว้เพียงพอ โดยฉะเพาะข้อที่ว่า จำเลยขับรถด้วยความประมาทเป็นเหตุให้รถจำเลยชนท้ายรถประจำทางเสียหาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1247/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีพะนันต้องระบุผู้รับสินบลนำจับในฟ้อง มิฉะนั้นฟ้องไม่สมบูรณ์
ในคดีการพะนัน เมื่อได้มีผู้รับสินบลนำจับ โจทก์จะต้องกล่าวบรรยายในฟ้อง ด้วยว่า มีผู้รับสินบลนำจับ โจทก์ขอแต่ผลมาท้ายฟ้องของโจทก์ เรื่องเงินสินบลจึงไม่สมบูรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1217/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของฟ้องอาญา: การระบุตัวผู้กระทำผิดและรายละเอียดการกระทำความผิด
ฟ้องโจทก์กล่าวว่า จำเลยทั้งหมดบังอาจสมคบกันเล่นการพะนันสะบ้าทอย พะนันเอาทรัพย์สินกันโดยมิได้รับอนุญาต โดยจำเลยที่ 1, 2, 3 เป็นผู้จัดให้มีการเล่น จำเลยนอกนั้นเป็นผู้เข้าพะนันในการเล่น ดังนี้ ฟ้องของโจทก์ย่อมสมบูรณ์ไม่ทำให้จำเลยหลงเข้าใจผิดแต่อย่างใด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1025/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการฟ้องทำร้ายร่างกาย 'ซึ่งกันและกัน' และการสืบพยานนอกเหนือฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันโดยจำเลยที่ 1 ใช้ไม้ตีจำเลยที่ 2 มีบาดเจ็บ จำเลยที่ 2 ใช้มือชกต่อยจำเลยที่ 1 ไม่ถึงบาดเจ็บ จำเลยให้การรับสารภาพ ดังนี้ โจทก์จะขอสืบพะยานว่า จำเลยที่ 1 ทำร้ายจำเลยที่ 2 ตอนหนึ่ง แล้วต่อมา จำเลยที่ 2 ทำร้ายจำเลยที่ 1 อีกตอนหนึ่ง ไม่ใช่การวิวาทนั้น เป็นการสืบข้อเท็จจริงไม่ตรงกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 912/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาบุกรุก: การมิให้ผู้อื่นครอบครองทรัพย์โดยปกติสุขเป็นสาระสำคัญ มิใช่การเข้าถือครอง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกได้บังอาจสมคบกันมีหลาวและมีดตอกเป็นอาวุธ บุกรุกเข้าไปในเขตต์ที่นาของนายวิง โดยมีเจตนาจะมิให้นายวิงครอบครองที่นาได้โดยปกติสุข โดยจำเลยมิได้มีอำนาจที่จะทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้ ฟ้องของโจทก์ย่อมครบองค์ความผิดฐานบุกรุกแล้ว เพราะความผิดฐานบุกรุกอันเป็นมูลฐานอยู่ที่เจตนาจะมิให้ผู้อื่นครอบครองทรัพย์ ของเขา อันพึงเคลื่อนจากที่มิได้โดยความปกติสุข มิได้อยู่ที่เข้าถือเอาทรัพย์ หรือเพื่อจะถือเอาทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมหนังสือ ผู้ถูกหลอกลวงเป็นผู้เสียหายได้ แม้ไม่ใช่เจ้าของลายมือชื่อ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจลงลายมือชื่อนางพัน ปลอมลงในหนังสือสัญญาขายข้าวเปลือกให้แก่นายเชย โดยอ้างว่าข้าวนั้นเป็นของจำเลยและนางพันเป็นเจ้าของอยู่ด้วยกัน จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่นายเชย โดยได้จ่ายเงินไปตามสัญญา แต่ไม่ได้ข้าว ขอให้ลงโทษฐานปลอมหนังสือ ดังนี้ ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ แม้โจทก์จะมิได้กล่าวถึงนางพันว่า เป็นผู้เสียหายด้วย แต่โจทก์กล่าวว่า เกิดความเสียหายแก่นายเชยเพราะนายเชยจ่ายเงินไปตามสัญญาแต่ไม่ได้ข้าว และนายเชยเป็นผู้ได้รับความเสียหายจากหนังสือปลอมฉะบับนี้ นายเชยจึงเป็นผู้เสียหาย
ความผิดฐานปลอมหนังสือ แม้หนังสือนั้นจะเป็นการปลอมลายมือชื่อบุคคลอื่น หรือปลอมชื่อบุคคลไม่มีตัวตนก็ดี ก็นับว่าเป็นความผิด.
ความผิดฐานปลอมหนังสือ แม้หนังสือนั้นจะเป็นการปลอมลายมือชื่อบุคคลอื่น หรือปลอมชื่อบุคคลไม่มีตัวตนก็ดี ก็นับว่าเป็นความผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 862/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยไม่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนคดีลักทรัพย์ และไม่มีความเสียหายจากรายงานเท็จ จึงไม่มีความผิด
จำเลยเป็นเลขานุการกรมเชื้อเพลิง มีหน้าที่แต่ทำหนังสือราชการ ไม่มีอำนาจและหน้าที่ในการสอบสวนสืบสวนความผิดเรื่องผู้ร้ายลัก หรือยักยอกทรัพย์ของกรมเชื้อเพลิง หน้าที่พิเศษที่จำเลยได้รับแต่งตั้งขึ้นเป็นกรรมการสอบสวนหรือสืบสวนเรื่องผู้ร้ายลักหรือยักยอกแผ่นเหล็กของกรมเชื้อเพลิงนั้น จำเลยได้รับแต่งตั้งภายหลังเวลาที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยได้เรียกหรือรับสินบลจาก ส. และ ง. ซึ่งรับซื้อแผ่นเหล็กของกรมเชื้อเพลิง จึงถือไม่ได้ว่าขณะจำเลยกระทำการตามฟ้องจำเลยมีอำนาจหน้าที่ดังฟ้อง
ความผิดฐานรายงานเท็จ เมื่อไม่ปรากฎว่า การที่จำเลยรายงานเท็จดังฟ้องได้เกิดความเสียหาย หรืออาจจะเสียหายแก่กรมเชื้อเพลิงได้อย่างไร ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้.
ความผิดฐานรายงานเท็จ เมื่อไม่ปรากฎว่า การที่จำเลยรายงานเท็จดังฟ้องได้เกิดความเสียหาย หรืออาจจะเสียหายแก่กรมเชื้อเพลิงได้อย่างไร ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 744/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำความผิดเดิม: โจทก์ฟ้องคดีซ้ำหลังจากศาลพิพากษาคดีเดิมเสร็จเด็ดขาดแล้ว ถือเป็นการฟ้องซ้ำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปลอมหนังสือ ศาลได้พิพากษายกฟ้อง โดยเห็นว่าฟ้องเคลือบคลุม โจทก์จึงฟ้องจำเลยหาว่า ปลอมหนังสืออันเป็นความผิดเรื่องเดียวกันในคดีก่อน ศาลสอบถามโจทก์ถึงข้อที่จำเลยคัดค้านเรื่องฟ้องเคลือบคลุมไม่ชัดแจ้ง โจทก์กลับยืนยันว่า ได้บรรยายฟ้องเพียงพอที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว เท่ากับโจทก์ยืนยันขอให้วินิจฉัยคดีว่า จำเลยจะมีความผิดตามคำกล่าวในฟ้องของโจทก์หรือไม่ ศาลก็ได้วินิจฉัยข้อหาตามที่โจทก์กล่าวในฟ้องเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว โจทก์จะรื้อฟื้นความผิดของจำเลยที่ได้ฟ้องจำเลยแล้วมาฟ้องอีกไม่ได้.