คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 185.

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 16 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1325/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งความเท็จ: หลักฐานแสดงความจริงทำให้จำเลยไม่มีความผิด แม้รับสารภาพ
ในคดีที่ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จ ซึ่งมีอัตรโทษอย่างสูง จำคุกไม่ถึง 10 ปีนั้น แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพตามฟ้องแล้วก็ตาม ถ้าปราศจากหลักฐานพยานว่า ข้อความที่โจทก์กล่าวหาว่า จำเลยแจ้งความเท็จนั้น กลับเป็นข้อความจริงแล้ว ศาลก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ ต้องพิพากษายกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1106/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดสืบพยานจำเลยและการแก้ไขคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาให้สืบพยานจำเลยให้สิ้นกระแสความก่อน
ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์และสืบตัวจำเลยที่อ้างตนเองเป็ยพยานแล้วสั่งงดสืบพยานจำเลย ที่จำเลยขอสืบต่อไปเสียแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์นั้น ถ้าศาลอุทธรณ์จะลงโทษจำเลยตามฟ้อง ก็จำต้องให้สืบพยานจำเลยต่อไปเสียให้สิ้นกระแสร์ความก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1368/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนการพิจารณาคดีอาญาเนื่องจากพยานไม่มาศาลโดยมีเหตุอันควร
การขอเลื่อนการพิจารณาเพราะพะยานที่โจทก์ได้ขอหมายเรียกไปแล้วไม่มาศาล ถือได้ว่า มีเหตุอันควร
คดีอาญา พะยานโจทก์ไม่มาศาลในวันนัดถึง 3 ครั้ง เพราะพะยานอยู่ต่างจังหวัด และบางคนเจ้าหน้าที่ส่งหมายให้ไม่ได้ ตามพฤตติการณ์ไม่ใช่เป็นความผิดของโจทก์ ศาลต้องเลื่อนการพิจารณาเพื่อดำเนินกระบวนพิจารณาโจทก์ต่อไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1176/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาไม่ถือเป็นกฎหมายโดยอัตโนมัติ ต้องได้รับการสนับสนุนจากกฎหมายจึงมีผลผูกพัน
ประกาศในราชกิจจานุเบกษานั้น ตามนิตินัยไม่ใช่ว่าประกาศใดที่ออกในราชกิจจานุเบกษาแล้วจะต้องถือว่าเป็นกฎหมายอันรู้ถึงประชาชน ทั้งนี้ต้องแล้วแต่ว่าประกาศที่ออกแล้วนั้น จะได้รับการสนับสนุนให้มีผลใช้ได้ในกฎหมายเพียงใด
ประกาศของคณะกรรมการสำรวจและห้ามกักกันข้าว ซึ่งลงประกาศในราชกิจจานุเบกษานั้นเป็นประกาศธรรมดาไม่ใช่เป็นกฎหมายอันประชาชนจะพึงปฏิเสธไม่ได้ ฉะนั้น โจทก์ก็จะต้องนำสืบว่าจำเลยได้ทราบประกาศนั้นแล้ว เมื่อไม่ปรากฎว่าจำเลยได้ทราบก็จะเอาผิดลงโทษจำเลยไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 871/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีค้ากำไรเกินควร การทราบประกาศเป็นองค์ประกอบที่ต้องพิสูจน์ในชั้นพิจารณา
โจทก์ฟ้องว่า คณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรประจำจังหวัดนครพนม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร 2490 ได้ประกาศระบุให้น้ำมันก๊าสเป็นสิ่งของต้องห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควร โดยได้กำหนดราคาสูงสุดไว้แล้วตามสำเนาประกาศท้ายฟ้อง จำเลยบังอาจค้ากำไรเกินควรโดยขายน้ำมันก๊าสให้นายทองไป 1 ลิตร ราคา 2 บาท เกินราคาสูงสุดที่กำหนดไว้ 50 สตางค์ ดังนี้ตามข้อความในฟ้อง พอเข้าใจได้แล้วว่า โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยบังอาจกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนประกาศ แม้โจทก์จะมิได้ระบุในฟ้องว่าจำเลยได้ทราบประกาศนั้นแล้ว ฟ้องของโจทก์ก็สมบูรณ์ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 แล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 442/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโต้แย้งเฉพาะประเด็นกฎหมายโดยไม่โต้แย้งข้อเท็จจริง ทำให้ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม แม้ฟ้องจะสมบูรณ์
ศาลชั้นต้นยกฟ้อง เพราะฟ้องไม่สมบูรณ์ และชั้นอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ไม่เชื่อข้อเท็จจริง ชั้นฎีกาโจทก์มิได้โต้เถียงข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดไว้นั้น กลับฎีกาฉะเพาะเรื่องฟ้องสมบูรณ์หรือไม่ ดังนี้ แม้ฟ้องจะสมบูรณ์จริง เมื่อข้อเท็จจริงยังคงเป็นดั่งที่ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดไว้ ก็ต้องยกฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 345/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ข้อเท็จจริงการออกประกาศราคาควบคุม จำเป็นต้องแสดงหลักฐานการประกาศของคณะกรมการจังหวัด
คดีหาว่า จำเลยขายข้าวสารเกินกำหนดราคาสูงสุดที่คณะกรมการจังหวัดกำหนดไว้ ฟ้องโจทก์กล่าวแต่เพียงว่าคณะกรมการจังหวัดได้ประกาศโดยชอบด้วยกฎหมาย และในคำขอท้ายฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค ฯ คณะกรมการจังหวัดจะได้ออกประกาศโดยอาศัยพระราชบัญญัติที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดนั้นหรือไม่ ข้อเท็จจริงไม่ปรากฎ ดังนั้น จะลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค ฯ ไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แก๊บกระดาษไม่ใช่ดอกไม้เพลิงหรือเครื่องกระสุนปืน แม้จำเลยรับสารภาพ ศาลต้องยกฟ้อง
แก๊บกระดาษอันเป็นวัตถุทำให้เกิดเสียงดังด้วยการระเบิดไม่เป็นดอกไม้เพลิง และไม่เป็นเครื่องกระสุนปืน ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯลฯ
แม้จำเลยให้การรับสารภาพ แต่คำกล่าวหาในฟ้อง มีข้อน่าสงสัยว่าจะเป็นความผิดตามกฎหมายหรือไม่ ศาลเรียกของกลางมาตรวจและสอบถามโจทก์จำเลยได้ เมื่อเห็นว่าแก๊บกระดาษของกลางไม่เป็นดอกไม้เพลิงหรือเครื่องกระสุนปืนตามกฎหมายที่โจทก์ฟ้อง แม้จำเลยรับสารภาพก็ต้องยกฟ้องตามมาตรา 185 ป.ม.วิ.อาญา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 758/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำในความผิดเดิม แม้เพิ่มที่เกิดเหตุ ศาลพิพากษายกฟ้องเนื่องจากสิทธิฟ้องระงับ
คดีก่อนศาลชั้นต้นได้พิจารณาสืบพะยานโจทก์จำเลยจนเสร็จสำนวน และนัดตัดสิน ถือว่าได้มีการพิจารณาในความผิดซึ่งได้ฟ้องนั้นแล้ว
หากปรากฏว่าในฟ้องมิได้ระบุที่เกิดเหตุ การกระทำผิดที่ไหนนับเนื่องว่าเป็นความผิดซึ่งได้ฟ้องนั้น ส่วนหนึ่งเมื่อขาดข้อเท็จจริงอันสำคัญไปเช่นนี้ ต้องยกฟ้อง คู่ความมิได้อุทธรณ์คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาด จึงเรียกได้ว่า มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิด ซึ่งได้ฟ้องแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้อง ย่อมระงับไปตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 39 (4) .

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 389/2488

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจจับกุมของตำรวจที่ถูกมอบหมายให้รักษาการณ์นอกสถานี: เขตอำนาจและความต่อเนื่องของหน้าที่
พลตำรวจจะมีอำนาจจับกุมในเขตต์ท้องที่ใดบ้าง และเมื่อถูกใช้ไปรักษาการณ์ในที่แห่งหนึ่งแล้ว จะขาดจากอำนาจและหน้าที่ทางสถานีตำรวจเกี่ยวแก่การจับกุมหรือไม่ เป็นข้อเท็จจริงที่จะต้องพิจารณาจากพะยานหลักฐาน
of 2