คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ดุลยกรณ์พิทารณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 614 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2010/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานบุคคลนอกเหนือจากสัญญาซื้อขายที่ทำเป็นหนังสือ โดยไม่ขัดต่อข้อห้ามตามประมวลวิแพ่ง
ทำสัญญาซื้อขายเครื่องจักร์กันเป็นหนังสือ โจทก์ผู้ซื้อได้วางเงินมัดจำและชำระหนี้บางส่วนแล้ว โจทก์ขอสืบพยานบุคคลว่าในการที่จำเลยขายเครื่องจักร์ให้โจทก์นั้น จำเลยผู้ขายได้พรรณาถึงคุณภาพไว้ต่าง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ได้เขียนไว้ในสัญญา ศาลอนุญาตให้สืบได้ เพราะคดีนี้ไม่ใช่เรื่องที่กฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1959/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทนายฟ้องแทน และสิทธิเช่าที่ดินเมื่อสัญญาเช่าร่วมถูกบอกเลิกเฉพาะคู่สัญญาบางส่วน
ทนายโจทก์ลงนามฟ้องความแทนโจทก์โดยอาศัยใบแต่งทนายซึ่งโจทก์ทำให้เพียงใบเดียว แม้ไม่มีหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องความ ก็ย่อมใช้ได้
การเช่าที่ราชพัสดุรายพิพาท โจทก์จำเลยที่ 1 และ นางชอุ่ม ได้ทำสัญญาเช่าร่วมกัน รับผิดต่อกระทรวงการคลัง แต่ทำสัญญาแยกกันคนละฉบับ ต่อมา จำเลยที่ 1 แต่ผู้เดียวทำสัญญา โดยเอาที่นี้ไปให้จำเลยที่ 2 เช่าช่วงปลูกโรงภาพยนต์ กระทรวงการคลังจึงได้บอกเลิกสัญญาไปยังจำเลยที่ 1 แต่ผู้เดียว เช่นนี้สัญญาเช่าระหว่างกระทรวงการคลัง กับ โจทก์และ นางชอุ่ม ซึ่งมิได้ถูกบอกเลิกนั้น ยังคงใช้ได้อยู่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1959/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทนายฟ้องแทน และผลการบอกเลิกสัญญาเช่าต่อสิทธิของผู้อื่น
ทนายโจทก์ลงนามฟ้องความแทนโจทก์โดยอาศัยใบแต่งทนายซึ่งโจทก์ทำให้เพียงใบเดียว แม้ไม่มีหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องความ ก็ย่อมใช้ได้
การเช่าที่ราชพัสดุรายพิพาท โจทก์จำเลยที่ 1 และนางชอุ่มได้ทำสัญญาเช่าร่วมกันรับผิดต่อกระทรวงการคลังแต่ทำสัญญาแยกกันคนละฉบับ ต่อมาจำเลยที่ 1 แต่ผู้เดียวทำสัญญาโดยเอาที่นี้ไปให้จำเลยที่ 2 เช่าช่วงปลูกโรงภาพยนต์ กระทรวงการคลังจึงได้บอกเลิกสัญญาไปยังจำเลยที่ 1 แต่ผู้เดียว เช่นนี้ สัญญาเช่าระหว่างกระทรวงการคลังกับโจทก์และนางชอุ่มซึ่งมิได้ถูกบอกเลิกนั้น ยังคงใช้ได้อยู่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1958/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบเมื่อคู่ความโต้แย้งความถูกต้องของเอกสาร หากไม่นำสืบตามหน้าที่ ศาลอาจฟังตามข้อต่อสู้ของอีกฝ่ายได้
เมื่อศาลมีคำสั่งกำหนดหน้าที่นำสืบให้ฝ่ายใดนำสืบก่อนโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วไม่นำสืบตามข้ออ้าง ฝ่ายนั้นต้องแพ้คดี
โจทก์อ้างว่าโจทก์ชำระหนี้ให้จำเลยเกินไป ฝ่ายจำเลยปฏิเสธว่ามิได้รับเงินเกิน เพราะเลขจำนวนเงินในเอกสารถูกปลอมโดยเติมเลข เอกสารอยู่ในความยึดถือของโจทก์ จำเลยไม่ได้รับรองความถูกต้องแท้จริงทำให้เอกสารไม่เป็นผลให้โจทก์ได้สิทธิจากเอกสารนั้น จึงเป็นหน้าที่โจทก์ต้องพิสูจน์จำนวนเงินให้ได้ความจริงตามเอกสารนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1958/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบ – การพิสูจน์ข้อเท็จจริง – เอกสารที่ไม่สมบูรณ์ – ผลของการไม่นำสืบ
เมื่อศาลมีคำสั่งกำหนดหน้าที่นำสืบให้ฝ่ายใดนำสืบก่อนโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ไม่นำสืบตามข้ออ้าง ฝ่ายนั้นต้องแพ้คดี
โจทก์อ้างว่าโจทก์ชำระหนี้ให้จำเลยเกินไป ฝ่ายจำเลยปฏิเสธว่ามิได้รับเงินเกิน เพราะเลขจำนวนเงินในเอกสารถูกปลอมโดยเติมเลข เอกสารอยู่ในความยึดถือของโจทก์ จำเลยไม่ได้รับรองความถูกต้องแท้จริง ทำให้เอกสารไม่เป็นผลให้โจทก์ได้สิทธิจากเอกสารนั้น จึงเป็นหน้าที่โจทก์ต้องพิสูจน์ จำนวนเงินให้ได้ความจริง ตามเอกสารนั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1957/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายที่ดินของคนต่างด้าว: จำเลยไม่ผูกพันตามสัญญา หากโจทก์ไม่มีสิทธิถือกรรมสิทธิ์ & ไม่สามารถชำระราคาได้
ฟ้องว่าโจทก์เป็นคนต่างด้าว สัญชาติจีน ไม่มีสนธิสัญญาให้มีกรรมสิทธิ์ที่ดินได้ จึงขอเรียกมัดจำคืนจากจำเลยเพราะโจทก์ซื้อที่ดินตามสัญญากับจำเลยไม่ได้ จำเลยให้การว่าโจทก์ไม่เคยแจ้งให้จำเลยทราบว่าโจทก์เป็นจีน ไม่มีสิทธิหรือต้องขออนุญาตมีที่ดินเสียก่อนฯ ดังนี้ มีประเด็นที่โจทก์จะต้องแสดงฐานะของโจทก์แล้ว จะถือว่าจำเลยรับตามฟ้องโจทก์แล้วไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1941/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมตัวเป็นเจ้าพนักงาน, กักขัง และขู่กรรโชกทรัพย์
จำเลย 5 คน เป็นราษฎรแสดงตนว่าเป็นเจ้าพนักงานตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มีปืนและมีดไปจับราษฎรมา โดยแกล้งกล่าวหาว่าเล่นเบี้ยโบกมาตามทางได้ใช้ปืนและมีดขู่เขาให้ ๆ เงิน ผู้ถูกจับกลัวจึงให้เงินไป 800 บาท จำเลยจึงปล่อยเขาไป เช่นนี้ นอกจากจำเลยจะผิดฐานปลอมตัวเป็นเจ้าพนักงาน และทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพแล้ว ยังมีผิดฐานทำการปล้นเขาด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1941/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยปลอมตัวเป็นเจ้าพนักงานขู่กรรโชกทรัพย์ราษฎร เข้าข่ายความผิดฐานปล้นทรัพย์
จำเลย 5 คนเป็นราษฎรแสดงตนว่าเป็นเจ้าพนักงานตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มีปืนและมีดไปจับราษฎรมา โดยแกล้งกล่าวหาว่าเล่นเบี้ยโบกมาตามทางได้ใช้ปืนและมีดขู่เขาให้ให้เงิน ผู้ถูกจับกลัวจึงให้เงินไป 800 บาทจำเลยจึงปล่อยเขาไป เช่นนี้ นอกจากจำเลยจะผิดฐานปลอมตัวเป็นเจ้าพนักงาน และทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพแล้ว ยังมีผิดฐานทำการปล้นเขาด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1938/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้หวงห้ามและการบังคับใช้กฎหมายย้อนหลัง: การพิจารณาโทษจำเลยในคดีตัดไม้
ไม้ไข่เขียวเป็นไม้หวงห้าม ซึ่งตามหลักวิชาแล้วฟังว่าอยู่ในจำพวก "ไม้ตะเคียนชนิดอื่น ๆ " แต่กรมป่าไม้เพิ่งชี้ขาดและทางราชการเพิ่งประกาศเมื่อ 8 มิ.ย. 2498 หลังจากที่จำเลยไปตัดไม้นี้มาไว้แล้ว ถือว่าจำเลยยังไม่ควรมีผิด
ตามพระราชกฤษฎีกาไม้หวงห้าม "ไม้ตะเคียนสามพอน" ถือว่าเป็นไม้ตะเคียนอยู่ในพวก "ไม้ตะเคียนชนิดอื่น ๆ " นี้ครอบคลุมถึงไม้ตะเคียนทุกชนิด และคำนี้ก็แสดงว่าเป็นไม้ตะเคียนอยู่ในตัวแล้ว
จำเลยมิได้เป็นเจ้าของโรงงานไม้แปรรูป ขนไม้ที่ยังมิได้เสียค่าภาคหลวงเข้าไปในโรงงานไม้แปรรูปเพื่อทำการแปรรูปจำเลยยังไม่ผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2494 ม.16 เพราะไม่ใช่เจ้าของโรงงานไม้แปรรูป จึงไม่ใช่ผู้รับอนุญาตทำการแปรรูปไม้ ฯ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1938/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้หวงห้ามและการตีความกฎหมาย: การออกกฎหมายย้อนหลัง และความรับผิดชอบของผู้แปรรูปไม้
ไม้ไข่เขียวเป็นไม้หวงห้าม ซึ่งตามหลักวิชาแล้วฟังว่าอยู่ในจำพวก "ไม้ตะเคียนชนิดอื่นๆ" แต่กรมป่าไม้เพิ่งชี้ขาดและทางราชการเพิ่งประกาศเมื่อ 8 มิ.ย. 2498 หลังจากที่จำเลยไปตัดไม้นี้มาไว้แล้วถือว่าจำเลยยังไม่ควรมีผิด
ตามพระราชกฤษฎีกาไม้หวงห้าม "ไม้ตะเคียนสามพอน" ถือว่าเป็นไม้ตะเคียนอยู่ในพวก "ไม้ตะเคียนชนิดอื่นๆ" นี้ครอบคลุมถึงไม้ตะเคียนทุกชนิด และคำนี้ก็แสดงว่าเป็นไม้ตะเคียนอยู่ในตัวแล้ว
จำเลยมิได้เป็นเจ้าของโรงงานไม้แปรรูป ขนไม้ที่ยังมิได้เสียค่าภาคหลวงเข้าไปในโรงงานไม้แปรรูปเพื่อทำการแปรรูปจำเลยยังไม่ผิดตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ 2494 มาตรา 16 เพราะไม่ใช่เจ้าของโรงงานไม้แปรรูป จึงไม่ใช่ผู้รับอนุญาตทำการแปรรูปไม้ฯ
of 62