พบผลลัพธ์ทั้งหมด 614 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 523/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะ 'เจ้าพนักงาน' ของพนักงานรายวัน: การแต่งตั้งกรรมการตรวจรับหินและการมีคุณสมบัติทางกฎหมาย
ได้ความว่าตามทางพิจารณาว่าจำเลยทั้ง 3 เป็นพนักงานรายวันของกรมทางหลวงแผ่นดิน กระทรวงคมนาคม ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการตรวนรับหินซึ่งผู้รับเหมานำส่งแล้วรายงาานจำนวนหินไม่ตรงกับความจริงเช่นนี้ไม่ถือว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานตามความหมายแห่ง ก.ม.อาญา จำเลยจึงไม่มีความผิดตาม ม.230 ที่โจทก์ฟ้อง
โดยปกติจะถือว่าผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานผู้นั้นต้องเป็นข้าราชการตาม ก.ม.เว้นแต่จะมี ก.ม.บัญญัติไว้เป็นพิเศษให้เป็นชเจ้าพนักงานดังเช่น พ.ร.บ.เทศบาล พ.ศ.2496 ม.44 บัญญัติว่าให้พนักงานเทศบาลเป็นเจ้าพนักงานตามความหมายแห่ง ก.ม.อาญาเป็นต้นและใน พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2495 ม.17 ซึ่งบัญญัติถึงข้าราชการพลเรือนว่ามีอยู่ 7 ประเภทก็ไม่กินความถึงจำเลยทั้งสามคนนี้เพราะจำเลยไม่ได้รับเงินเดือนหากเป็นเพียงพนักงานรายวัน.
โดยปกติจะถือว่าผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานผู้นั้นต้องเป็นข้าราชการตาม ก.ม.เว้นแต่จะมี ก.ม.บัญญัติไว้เป็นพิเศษให้เป็นชเจ้าพนักงานดังเช่น พ.ร.บ.เทศบาล พ.ศ.2496 ม.44 บัญญัติว่าให้พนักงานเทศบาลเป็นเจ้าพนักงานตามความหมายแห่ง ก.ม.อาญาเป็นต้นและใน พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2495 ม.17 ซึ่งบัญญัติถึงข้าราชการพลเรือนว่ามีอยู่ 7 ประเภทก็ไม่กินความถึงจำเลยทั้งสามคนนี้เพราะจำเลยไม่ได้รับเงินเดือนหากเป็นเพียงพนักงานรายวัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 513/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยักยอกทรัพย์จากประกันหนี้: การโอนโฉนดโดยไม่ได้รับความยินยอมของผู้ให้ยืม
เอาโฉนดที่ดินที่เขามอบให้ไว้เป็นประกันหนี้ไปโอนขายย่อมถือได้ว่า ทุจริตเบียดบังเอาทรัพย์ที่เขามอบหมายไว้ไปผิดความประสงค์ของผู้เป็นเจ้าของ เป็นความผิดฐานยักยอกตาม มาตรา 314
จำเลยแสดงตนว่า เป็นผู้รับมอบอำนาจให้ทำการโอนที่ดินของผู้อื่นและแจ้งแก่เจ้าพนักงานที่ดินว่า การมอบอำนาจนั้นเป็นจริงซึ่งความจริงเจ้าของที่ดินมิได้มอบอำนาจให้โอนแต่ประการใด ดังนี้ จำเลยมีความผิดฐานแจ้งความเท็จตามมาตรา 118
จำเลยแสดงตนว่า เป็นผู้รับมอบอำนาจให้ทำการโอนที่ดินของผู้อื่นและแจ้งแก่เจ้าพนักงานที่ดินว่า การมอบอำนาจนั้นเป็นจริงซึ่งความจริงเจ้าของที่ดินมิได้มอบอำนาจให้โอนแต่ประการใด ดังนี้ จำเลยมีความผิดฐานแจ้งความเท็จตามมาตรา 118
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 491/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงทรัพย์: เจตนาทุจริตรับว่าตัดเสาได้แต่ไม่ส่งมอบและปฏิเสธความรับผิด
การที่จำเลยไม่มีอาชีพในทางค้าเสาไม้เคยขออนุญาตตัดฟันไม้ แต่รับจะจัดการตัดเสาอ้างว่ามีโควต้าทำไม้ผู้เสียหายยอมให้เงิน 3,600 บาทค่าลูกจ้างและค่าเข็นโดยจำเลยว่าเสาตามที่สั่งตัดไว้ครบแล้วหลังจากนั้นอีกนานก็ไม่มีเสามา เมื่อถูกจับก็บอกกับตำรวจว่าหาเสาไม่ได้ แต่กลับปฏิเสธต่อผู้เสียหายว่าไม่รู้เรื่องไม่ได้รับเงิน พฤติการณ์ดั่งกล่าวย่อมแสดงว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตคิดฉ้อโกงทรัพย์ของผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 392/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลบังคับใช้คำพิพากษาเมื่อจำเลยเลิกกิจการ: สัญญาค้ำประกันสิ้นสุดก่อนการบังคับคดี
จำเลยเป็นสาขาของบริษัทจำกัดซึ่งอยู่ในต่างประเทศ ทนายของจำเลยยื่นอุทธรณ์ ในระหว่างอุทธรณ์จำเลยเลิกกิจการแต่ไม่มีผู้ใดคัดค้านให้ศาลอุทธรณ์ทราบต่อมาศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษา เช่นนี้ถือว่าคำพิพากษาศาลอุทธรณ์นั้นใช้บังคับได้คดีหาได้ถึงที่สุดไปในวันที่จำเลยเลิกกิจการไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 392/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อจำเลยเลิกกิจการก่อนบังคับคดี: สัญญาค้ำประกันสิ้นผล
จำเลยเป็นสาขาของบริษัทจำกัดซึ่งอยู่ในต่างประเทศ ทนายของจำเลยยื่นอุทธรณ์ ในระหว่างอุทธรณ์จำเลยเลิกกิจการแต่ไม่มีผู้ใดคัดค้านให้ศาลอุทธรณ์ทราบต่อมาศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาเช่นนี้ถือว่าคำพิพากษาศาลอุทธรณ์นั้นใช้บังคับได้ คดีหาได้ถึงที่สุดไปในวันที่จำเลยเลิกกิจการไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 378/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบวชต้องมีอุปัชฌายะที่ถูกต้องตามกฎหมาย และการประกาศข้อกล่าวหาต้องไม่เกินเลยความจริง
การที่จะขอบวชหรืออุปสมบทได้โดยถูกต้องตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์และสังฆาณัตินั้นจะต้องมีพระอุปัชฌายะซึ่งให้บรรพชาอุปสมบทได้แต่ที่โจทก์บวชโดยพระอุปัชฌายะในต่างประเทศซึ่งไม่ปรากฏว่าได้รับแต่งตั้งโดยถูกต้องให้เป็นผู้อุปสมบทเช่นนี้ย่อมถือว่าการบวชนั้นเป็นการถูกต้องตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ไม่ได้
การที่มีประกาศแถลงการณ์คณะสงฆ์ 2 ฉบับก็เนื่องจากที่โจทก์ต้องหาว่าประพฤติคลุกคลีกับมาตุคามจนถูกบังคับให้สึกแต่ใช้ถ้อยคำไม่เหมือนกันเท่านั้นไม่ได้หมายความว่าโจทก์ซ่องเสพเมถุนกับมาตุคามดังโจทก์ฎีกา จึงหาเป็นการละเมิดอย่างใดไม่
การที่มีประกาศแถลงการณ์คณะสงฆ์ 2 ฉบับก็เนื่องจากที่โจทก์ต้องหาว่าประพฤติคลุกคลีกับมาตุคามจนถูกบังคับให้สึกแต่ใช้ถ้อยคำไม่เหมือนกันเท่านั้นไม่ได้หมายความว่าโจทก์ซ่องเสพเมถุนกับมาตุคามดังโจทก์ฎีกา จึงหาเป็นการละเมิดอย่างใดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 378/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบวชโดยพระอุปัชฌายะต่างประเทศไม่ชอบตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ และการประกาศแถลงการณ์ไม่ใช่ละเมิด
การที่จะขอบวชหรืออุปสมบทได้โดยถูกต้องตาม พ.ร.บ.คณะสงค์และสังฆาณัตินั้นจะต้องมีพระอุปัชฌายะ ซึ่งให้บรรพชาอุปสมบทได้แต่ที่โจทก์ บวชโดยพระอุปัชฌายะในต่างประเทศ ซึ่งไม่ปรากฏว่าได้รับแต่งตั้งโดยถูกต้องให้เป็นผู้อุปสมบทเช่นนี้ย่อมถือว่าการบวชนั้นเป็นการถูกต้องตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ไม่ได้
การที่มีประกาศแถลงการณ์คณะสงฆ์ 2 ฉบับก็เนื่องจากที่โจทก์ต้องหาว่าประพฤติคลุกคลีกับมาตุคามจนถูกบังคับให้สึก แต่ใช้ถ้อยคำไม่เหมือนกันเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าโจทก์ซ่องเสพเมถุนกับมาตุคามดังโจทก์ฎีกา จึงหาเป็นการละเมิดอย่างใดไม่.
การที่มีประกาศแถลงการณ์คณะสงฆ์ 2 ฉบับก็เนื่องจากที่โจทก์ต้องหาว่าประพฤติคลุกคลีกับมาตุคามจนถูกบังคับให้สึก แต่ใช้ถ้อยคำไม่เหมือนกันเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าโจทก์ซ่องเสพเมถุนกับมาตุคามดังโจทก์ฎีกา จึงหาเป็นการละเมิดอย่างใดไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 254/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับข้อเท็จจริงจากการไม่ปฏิเสธคำฟ้อง และผลต่อการพิจารณาคดีเช่าทรัพย์สิน
โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่าจำเลยเช่าห้องรายพิพาทเพื่อประกอบการค้าจำเลยให้การว่าได้ทำสัญญาเช่ากับโจทก์จริงแต่เรื่องการค้าจำเลยไม่ได้ปฏิเสธเช่นนี้ต้องถือว่าจำเลยรับว่าจำเลยประกอบการค้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 254/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับข้อเท็จจริงจากการให้การของผู้เช่าและการใช้สิทธิประโยชน์จากสัญญาเช่า
โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่าจำเลยเช่าห้องรายพิพาทเพื่อประกอบการค้า จำเลยให้การว่าได้ทำสัญญาเช่ากับโจทก์จริง แต่เรื่องการค้าจำเลยไม่ได้ปฏิเสธเช่นนี้ต้องถือว่าจำเลยรับว่าจำเลยประกอบการค้า.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายเรือนพิพาทที่ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย โจทก์ลวงจำเลย ทำให้จำเลยเสียสิทธิในการโอนกรรมสิทธิ์
โจทก์ขายเรือนให้จำเลย ชำระราคาเสร็จ และส่งมอบเรือนกันแล้ว แต่ไม่ได้จดทะเบียนเพราะโจทก์ลวงจำเลยทั้งที่จำเลยใคร่ที่จะให้โอน โจทก์เรียกเรือนคืนไม่ได้จำเลยบังคับให้จดทะเบียนโอนได้