พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพาผู้อื่นเพื่ออนาจารเป็นความผิด แม้ไม่ได้ชำเราและผู้เสียหายยินยอม
ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามศาลล่างทั้งสองว่าจำเลยสมคบกันใช้อุบายทุจริตล่อลวงพานางสุมล (อายุ 17 ปี 6 เดือน) ไปเพื่ออนาจาร ฉะนั้นความผิดของจำเลยจึงต้องด้วย มาตรา 276 เท่านั้น ไม่ผิด มาตรา 275 ด้วย เพราะมิใช่เป็นเรื่องเกลี้ยกล่อมพาเด็กไปเสียจากบิดามารดาหรือผู้มีอำนาจคุ้มครองโดยเจตนาหากำไรหรือเพื่อการอนาจารถึงเด็กจะเต็มใจไปด้วย
เมื่อผู้ใดมีเจตนาพาผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารก็ย่อมเป็นความผิดสมบูรณ์ตาม มาตรา 276 แล้ว ไม่จำเป็นถึงต้องถูกชำเราหรือถูกทำอนาจารด้วย
เมื่อผู้ใดมีเจตนาพาผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารก็ย่อมเป็นความผิดสมบูรณ์ตาม มาตรา 276 แล้ว ไม่จำเป็นถึงต้องถูกชำเราหรือถูกทำอนาจารด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพาผู้อื่นไปเพื่ออนาจาร ความผิดตามมาตรา 276 แม้ไม่มีการชำเรา
ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามศาลล่างทั้งสองว่าจำเลยสมคบกันใช้อุบายทุจริตล่อลวงพานางสุมล (อายุ 17 ปี 6 เดือน) ไปเพื่ออนาจาร ฉะนั้นความผิดของจำเลยจึงต้องด้วย มาตรา 276 เท่านั้น ไม่ผิด มาตรา 275 ด้วย เพราะมิใช่เป็นเรื่องเกลี้ยกล่อมพาเด็กไปเสียจากบิดามารดาหรือผู้มีอำนาจคุ้มครองโดยเจตนาหากำไรหรือเพื่อการอนาจารถึงเด็กจะเต็มใจไปด้วย
เมื่อผู้ใดมีเจตนาพาผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารก็ย่อมเป็นความผิดสมบูรณ์ตาม มาตรา 276 แล้ว ไม่จำเป็นถึงต้องถูกชำเราหรือถูกทำอนาจารด้วย
เมื่อผู้ใดมีเจตนาพาผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารก็ย่อมเป็นความผิดสมบูรณ์ตาม มาตรา 276 แล้ว ไม่จำเป็นถึงต้องถูกชำเราหรือถูกทำอนาจารด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1869/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลแขวง: ความผิดหลายบท ใช้บทหนัก แม้บทเบาอยู่ในอำนาจ
ในกรณีที่ฟ้องอ้างว่าจำเลยกระทำความผิดซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายหลายบทด้วยกันนั้น หากพิจารณาได้ข้อเท็จจริงตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์แล้ว ศาลก็ต้องใช้อาญาที่เป็นบทหนักลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 70 ฉะนั้นเมื่อความผิดตามบทกฎหมายที่หนักนั้น เกินอำนาจศาลแขวงแม้ความผิดบทเบา จะอยู่ในอำนาจศาลแขวง ศาลแขวงก็ต้องพิพากษายกฟ้องเสีย เพราะต้องถือว่าเป็นคดีเกินอำนาจศาลแขวง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1869/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดบทลงโทษในความผิดหลายบท ศาลต้องใช้บทที่มีโทษหนักที่สุด แม้ความผิดอื่นจะอยู่ในอำนาจศาลแขวง
ในกรณีที่ฟ้องอ้างว่าจำเลยกระทำความผิดซึ่งเป็นการละเมิด ก.ม. หลายบทด้วยกันนั้น หากพิจารณาได้ข้อเท็จจริงตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์แล้ว ศาลก็ต้องใช้อาญาที่เป็นบทนักลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 70 ฉะนั้นเมื่อความผิดตามบท ก.ม. ที่หนักนั้นเกินอำนาจศาลแขวงแม้ความผิดบทเบา จะอยู่ในอำนาจศาลแขวง ศาลแขวงก็ต้องพิพากษายกฟ้องเสีย เพราะต้องถือว่าเป็นคดีเกินอำนาจศาลแขวง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 570/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความถูกต้องของฟ้องอาญา: การล่อลวงเด็กเพื่ออนาจาร จำเลยที่ 2 มีส่วนร่วม
ฟ้องโจทก์มีใจความว่าจำเลยที่ 1 ใช้อุบายทุจริตล่อลวงเด็กหญิง ท. ให้ไปเซ็นชื่อรับเงินออมสิน แล้วจะให้รางวัลเป็นเงิน 8 บาท และจำเลยที่ 2 ได้บังอาจติดต่อและพูดล่อลวงเด็กหญิง ท. ให้ไปกับจำเลยที่ 1 อันเป็นอุปการะแก่การที่จำเลยที่ 1 จะได้พาเด็กหญิง ท. ไปเสียจากนาง ท.เพื่อการอนาจารดังกล่าวข้างต้นด้วยจนเด็กหญิงท. หลงเชื่อและยอมให้จำเลยที่ 1 พาไป เป็นที่เข้าใจแล้วว่า จำเลยที่ 2 ได้พูดจาล่อลวงเด็กหญิง ท. ให้หลงเชื่อว่าจำเลยที่ 1 จะพาเด็กหญิงท. ไปเซ็นชื่อรับเงินและให้รางวัล ถือได้ว่าโจทก์ได้กล่าวข้อเท็จจริงและรายละเอียดพอสมควรที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดี ทั้งจำเลยให้การรับสารภาพตามข้อหาโดยไม่ปรากฏว่าจำเลยไม่เข้าใจข้อหาหรือให้การรับสารภาพโดยเข้าใจผิดฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 เป็นฟ้องที่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 570/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความถูกต้องของฟ้องอาญา: การบรรยายฟ้องความผิดฐานพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
คำบรรยายฟ้องความผิด ฐานพาหญิงไปเพื่อการอนาจารที่ถือว่าจำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 573/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พาเด็กอายุ 13 ปีเศษไปจากมารดา แม้เด็กยินยอมแต่ถูกหลอกลวง ยังคงเป็นความผิด
พาเด็กอายุ 13 ปีเศษไปจากมารดาเด็กโดยเด็กเต็มใจไปกับจำเลยแม้จะเป็นโดยถูกหลอกลวงก็เป็นผิดตามมาตรา275 แต่ไม่เป็นผิดตามมาตรา 274
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2487
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2487
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพาไปเพื่ออยู่กินเป็นสามีภริยาโดยสุจริต ไม่เป็นความผิด
ชายพาหญิงไปโดยรักใคร่กัน เพื่อไปอยู่กินเป็นสามีภริยากันโดยสุจริตไม่ผิดตาม มาตรา 275