พบผลลัพธ์ทั้งหมด 68 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1865/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพในคดีพนันและการริบของกลาง ผู้ร้องไม่มีสิทธิขอคืนเมื่อไม่ได้ต่อสู้คดี
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมเล่นการพนัน เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยเงินอันเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการเล่นการพนันจากวงการเล่นเป็นของกลางจำเลยให้การรับว่ากระทำความผิดตามฟ้องจริง แปลได้ว่ารับสารภาพตามฟ้องทุกประการเมื่อโจทก์กล่าวในฟ้องว่าเงินของกลางเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการเล่นการพนัน จึงต้องริบตามพระราชบัญญัติการพนัน ถ้าจำเลยเห็นว่าเงินนั้นส่วนหนึ่งเป็นของตนซึ่งมิได้เอาออกพนัน ก็ชอบที่จะให้การต่อสู้ไว้ และจำเลยก็มิได้อุทธรณ์คำพิพากษาที่ให้ริบของกลางจนคดีถึงที่สุดแล้ว กรณีจึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ที่จำเลยจะมีสิทธิยื่นคำร้องขอเงินของกลางคืนได้
ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีในชั้นขอให้คืนของกลาง แล้วสั่งคืนให้ผู้ร้องประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 ทวิ มิได้ห้ามโจทก์อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวนี้
ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีในชั้นขอให้คืนของกลาง แล้วสั่งคืนให้ผู้ร้องประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 ทวิ มิได้ห้ามโจทก์อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจริบของกลาง: เสื่อใช้ปูรองเล่นพนันเป็นเครื่องมือประกอบการกระทำผิดได้
เสื่อผืนของกลางแม้โดยสภาพจะใช้รองนั่งนอนก็ดี แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้จากคำฟ้องของโจทก์และคำให้การรับของจำเลย ว่า เสื่อของกลางได้ใช้ปูรองเล่นการพนันแปดเก้าบนพื้นดินใต้ร่มมะขามเป็นเครื่องที่ใช้ในการกระทำผิดในวงเล่นการพนัน จึงถือได้ว่าเป็นทรัพย์ที่จำเลยได้ใช้เป็นเครื่องมือประกอบในการกระทำผิดเล่นการพนัน ศาลย่อมมีอำนาจริบได้ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 10 ประกอบกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจริบเสื่อใช้ปูรองเล่นพนัน แม้เป็นของใช้ทั่วไป แต่ใช้ประกอบการกระทำผิดได้
เสื่อผืนของกลางแม้โดยสภาพจะใช้รองนั่งนอนก็ดี แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้จากคำฟ้องของโจทก์และคำให้การรับของจำเลยว่าเสื่อของกลางได้ใช้ปูรองเล่นการพนันแปดเก้าบนพื้นดินใต้ร่มมะขาม เป็นเครื่องที่ใช้ในการกระทำผิดในวงเล่นการพนัน จึงถือได้ว่าเป็นทรัพย์ที่จำเลยได้ใช้ เป็นเครื่องมือประกอบในการกระทำผิดเล่นการพนัน ศาลย่อมมีอำนาจริบได้ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 10 ประกอบกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2839/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเงินที่ได้จากการกระทำผิดฐานขายสลากเกินราคา ศาลมีอำนาจริบเงินทั้งหมดที่ได้จากการกระทำผิด
จำเลยขายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ยังมิได้ออกรางวัลให้แก่ผู้มีชื่อครึ่งฉบับในราคา 5 บาท 50 สตางค์ เกินกว่าราคาที่กำหนดในสลากครึ่งฉบับ 50 สตางค์ เช่นนี้เงินทั้งจำนวน 5 บาท 50 สตางค์ย่อมมีส่วนก่อให้เกิดความผิด มิใช่เฉพาะเงินจำนวนส่วนที่เกิน 50 สตางค์ ศาลมีอำนาจริบเงิน 5 บาท 50 สตางค์ ซึ่งเป็นทรัพย์ที่จำเลยได้มาโดยการกระทำความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบทรัพย์ในคดีพนัน แม้ผู้กระทำความผิดไม่ต้องรับโทษ ศาลก็มีอำนาจริบได้ โดยแยกพิจารณาทรัพย์สินพนันกับเครื่องมือ
ในเรื่องริบทรัพย์นั้น แม้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 18บัญญัติว่าเป็นโทษสถานหนึ่ง แต่ก็เป็นโทษที่มุ่งถึงตัวทรัพย์เป็นสำคัญ ต่างกับโทษสถานอื่น แม้จำเลยซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดจะไม่ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 74 ศาลก็ชอบที่จะสั่งริบทรัพย์สินของกลางได้
ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 10 ทรัพย์สินพนันกันซึ่งจับได้ในวงการเล่นนั้น เป็นทรัพย์สินที่ต้องริบโดยเด็ดขาดเว้นแต่ทรัพย์สินซึ่งมิได้เอาออกพนัน ส่วนทรัพย์สินที่เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนัน ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจที่จะสั่งริบหรือไม่ก็ได้
ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 10 ทรัพย์สินพนันกันซึ่งจับได้ในวงการเล่นนั้น เป็นทรัพย์สินที่ต้องริบโดยเด็ดขาดเว้นแต่ทรัพย์สินซึ่งมิได้เอาออกพนัน ส่วนทรัพย์สินที่เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนัน ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจที่จะสั่งริบหรือไม่ก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบทรัพย์ในคดีการพนัน: ศาลมีอำนาจริบได้แม้ผู้กระทำผิดไม่ต้องรับโทษ หากทรัพย์สินนั้นเป็นของกลางที่ใช้ในการพนัน
ในเรื่องริบทรัพย์นั้น แม้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 18บัญญัติว่าเป็นโทษสถานหนึ่ง แต่ก็เป็นโทษที่มุ่งถึงตัวทรัพย์เป็นสำคัญต่างกับโทษสถานอื่น แม้จำเลยซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดจะไม่ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 74 ศาลก็ชอบที่จะสั่งริบทรัพย์สินของกลางได้
ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 10 ทรัพย์สินพนันกันซึ่งจับได้ในวงการเล่นนั้น เป็นทรัพย์สินที่ต้องริบโดยเด็ดขาดเว้นแต่ทรัพย์สินซึ่งมิได้เอาออกพนัน ส่วนทรัพย์สินที่เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนัน ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจที่จะสั่งริบหรือไม่ก็ได้
ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 10 ทรัพย์สินพนันกันซึ่งจับได้ในวงการเล่นนั้น เป็นทรัพย์สินที่ต้องริบโดยเด็ดขาดเว้นแต่ทรัพย์สินซึ่งมิได้เอาออกพนัน ส่วนทรัพย์สินที่เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนัน ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจที่จะสั่งริบหรือไม่ก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1877/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเครื่องสล๊อทแมชีน: หลักฐานคำฟ้องด้วยวาจาพิสูจน์ได้ว่าสร้างขึ้นเพื่อเล่นการพนันโดยเฉพาะ
บันทึกหลักฐานการฟ้องคดีด้วยวาจาของผู้ว่าคดีเป็นหลักฐานแห่งคำฟ้องด้วยวาจาของโจทก์ด้วยส่วนหนึ่ง
เมื่อปรากฏในบันทึกหลักฐานการฟ้องด้วยวาจาของโจทก์แล้วว่าเครื่องสล๊อทแมชีนของกลางเป็นเครื่องเล่นการพนันที่ได้สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการเล่นการพนันโดยเฉพาะ จะเล่นเป็นเกมอย่างอื่นไม่ได้ จำเลยรับสารภาพไม่โต้แย้งเป็นอย่างอื่น เครื่องสล๊อทแมชีนของกลางจึงเป็นของที่ควรริบ
เมื่อปรากฏในบันทึกหลักฐานการฟ้องด้วยวาจาของโจทก์แล้วว่าเครื่องสล๊อทแมชีนของกลางเป็นเครื่องเล่นการพนันที่ได้สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการเล่นการพนันโดยเฉพาะ จะเล่นเป็นเกมอย่างอื่นไม่ได้ จำเลยรับสารภาพไม่โต้แย้งเป็นอย่างอื่น เครื่องสล๊อทแมชีนของกลางจึงเป็นของที่ควรริบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1899/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เสื่อรองโขกโบกเป็นเครื่องมือการพนันได้ หากใช้ในการเล่นจริง ศาลมีอำนาจริบได้ แต่ต้องพิจารณาพฤติการณ์
1. เสื่อปรือที่ใช้รองโขกโบกจะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนันตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 10 วรรค 2 หรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
2. เสื่อปรือแม้โดยสภาพจะใช้สำหรับรองก็จริง แต่ถ้าผู้เล่นพนันได้นำมาใช้ในการเล่นพนันแล้ว เสื่อหรือก็อาจเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนันได้
3. ในกรณีที่โจทก์บรรยายในฟ้องว่า เสื่อปรือของกลางใช้สำหรับรองโขกโบกเป้นเครื่องมือที่จำเลยใช้เล่นพนันและจับได้ในวงเล่น จำเลยก็รับสารภาพแปลได้ว่าจำเลยรับสารภาพตามฟ้อง ศาลมีอำนาจที่จะริบในฐานะที่เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 10 วรรค 2 การริบหรือไม่อยู่ในดุลพินิจของศาล แต่พิเคราะห์ดูพฤติการณ์ที่ปรากฏในคดีแล้วเห็นไม่ควรริบ ก็สั่งไม่ริบได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 35/2505)
2. เสื่อปรือแม้โดยสภาพจะใช้สำหรับรองก็จริง แต่ถ้าผู้เล่นพนันได้นำมาใช้ในการเล่นพนันแล้ว เสื่อหรือก็อาจเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนันได้
3. ในกรณีที่โจทก์บรรยายในฟ้องว่า เสื่อปรือของกลางใช้สำหรับรองโขกโบกเป้นเครื่องมือที่จำเลยใช้เล่นพนันและจับได้ในวงเล่น จำเลยก็รับสารภาพแปลได้ว่าจำเลยรับสารภาพตามฟ้อง ศาลมีอำนาจที่จะริบในฐานะที่เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 10 วรรค 2 การริบหรือไม่อยู่ในดุลพินิจของศาล แต่พิเคราะห์ดูพฤติการณ์ที่ปรากฏในคดีแล้วเห็นไม่ควรริบ ก็สั่งไม่ริบได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 35/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1899/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เสื่อปรือรองโขกโบกเป็นเครื่องมือพนันได้ หากใช้ในการเล่นจริง ศาลมีอำนาจริบได้ แต่ต้องใช้ดุลพินิจ
1. เสื่อปรือที่ใช้รองโขกโบกจะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนันตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 10 วรรคสองหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย 2. เสื่อปรือแม้โดยสภาพจะใช้สำหรับรองก็จริงแต่ถ้าผู้เล่นพนันได้นำมาใช้ในการเล่นพนันแล้ว เสื่อปรือก็อาจเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนันได้ 3. ในกรณีที่โจทก์บรรยายในฟ้องว่า เสื่อปรือของกลางใช้สำหรับรองโขกโบกเป็นเครื่องมือที่จำเลยใช้เล่นพนันและจับได้ในวงเล่น จำเลยก็รับสารภาพแปลได้ว่าจำเลยรับสารภาพตามฟ้อง ศาลมีอำนาจที่จะริบในฐานะที่เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 10 วรรคสองการริบหรือไม่ อยู่ในดุลพินิจของศาลแต่พิเคราะห์ดูพฤติการณ์ที่ปรากฏในคดีแล้วเห็นไม่ควรริบก็สั่งไม่ริบได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 35/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 476/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญา: ความชัดเจนของวันเวลาในฟ้อง และการต่อสู้คดี
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดระหว่างวันที่ 25 ถึงวันที่ 28 มกราคม 2502 เวลากลางวันและกลางคืน ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม