คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ชวน สิงหลกะ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,307 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1597/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าคนตายโดยเจตนาจากการบันดาลโทสะ ช่วยพี่สาวถูกทำร้าย ลดหย่อนโทษตามกฎหมาย
ใช้มีดยาวคืบเศษแทงผู้ตายหลายทีจนมีบาดแผลฉกรรจ์ 2 แผลเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ต้องถือว่าเป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
จำเลยแทงผู้ตาย โดยบันดาลโทสะขณะที่เห็นพี่สาวจำเลยถูกผู้ตายกดขี่ข่มเหงด้วยเหตุร้ายแรง และไม่เป็นธรรม จำเลยจึงควรได้รับลดหย่อนผ่อนโทษตามกฎหมายอาญา มาตรา 55

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1597/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าคนตายโดยเจตนาจากความโกรธแค้นและป้องกันพี่สาว ศาลลดโทษตามเหตุบรรดาลโทษะ
ใช้มีดยาวคืนเศษแทงผู้ตายหลายที่จนมีบาดแผลฉกรรจ์ 2 แผลเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ต้องถือว่าเป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
จำเลยแทงผู้ตาย โดยบรรดาลโทษะขณะที่เห็นพี่สาวจำเลยถูกผู้ตายกดขี่ขมเหงด้วยเหตุร้ายแรง และไม่เป็นธรรม จำเลยจึงควรได้รับลดหย่อนโทษตามกฎหมายอาญา ม.55

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1557/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บาดแผลเล็กน้อยไม่ถึงขั้นเสียโฉม ไม่ถือเป็นบาดเจ็บสาหัสตามกฎหมาย
บาดแผลที่เป็นแผลเป็นรอยขีดเล็กน้อยและสั้นนิดเดียว ยาว 2 ซ.ม. กว้าง 2 ม.ม.ที่ขยับซ้ายนั้นไม่เป็นบาดแผลที่ทำให้เสียความงามของใบหน้าอันจะเรียกได้ว่าถึงรูปหน้าเสียโฉนดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 256

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1557/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บาดแผลเล็กน้อยไม่ถึง 'บาดเจ็บสาหัส' ตามกฎหมายอาญา มาตรา 256
บาดแผลที่เป็นแผลเป็นรอยขีดเล็กน้อยและสั้นนิดเดียวยาว 2 ซ.ม. กว้าง 2 ม.ม.ที่ขมับซ้ายนั้น ไม่เป็นบาดแผลที่ทำให้เสียความงามของใบหน้าอันจะเรียกได้ว่าถึงรูปหน้าเสียโฉมตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 256

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1556/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่โดยอาศัยกรรมสิทธิ์หลังสัญญาเช่าสิ้นอายุ และข้อยกเว้นความคุ้มครอง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าสำหรับนิติบุคคล
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากโกดัง โดยกล่าวว่า จำเลยได้เช่าโกดังจากเจ้าของเดิม ครบอายุสัญญาเช่าแล้วโจทก์ได้ซื้อโกดังจากเจ้าของเดิม ดังนี้จำเลยย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ และโจทก์ฟ้องจำเลยได้โดยอาศัยอำนาจทางกรรมสิทธิ์เป็นหลัก ไม่ได้อาศัยสัญญาเช่า
นิติบุคคลเช่าสถานที่ให้พนักงานของนิติบุคคลอยู่ ย่อมถือว่าเป็นกิจการส่วนหนึ่งเพื่อประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ในทางการค้าของนิติบุคคล จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
อ้างฎีกาที่ 82/2494)
จำเลยให้การว่า โจทก์ได้ทำสัญญาซื้อทรัพย์สินรายนี้จริงหรือไม่จำเลยไม่ทราบ ดังนี้ ถือว่าไม่ใช่คำให้การปฏิเสธ จึงไม่มีประเด็นที่โจทก์จะต้องสืบถึงความข้อนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1556/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดสัญญาเช่าและข้อยกเว้นความคุ้มครอง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าสำหรับนิติบุคคล
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากโกดังโดยกล่าวว่า จำเลยได้เช่าโกดังจากเจ้าของเดิม ครบอายุสัญญาเช่าแล้วโจทก์ได้ซื้อโกดังจากเจ้าของเดิม ดังนี้จำเลยย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ และโจทก์ฟ้องจำเลยได้โดยอาศัยอำนาจทางกรรมสิทธิ์เป็นหลัก ไม่ได้อาศัยสัญญาเช่า
นิติบุคคลเช่าสถานที่ให้พนักงานของนิติบุคคลอยู่ ย่อมถือว่าเป็นกิจการส่วนหนึ่งเพื่อประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ในทางการค้าของนิติบุคคล จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ
อ้างฎีกาที่ 82/2494 จำเลยให้การว่า โจทก์ได้ทำสัญญาซื้อทรัพย์สินรายนี้จริงหรือไม่จำเลยไม่ทราบ ดังนี้ถือว่าไม่ใช่คำให้การปฏิเสธ จึงไม่มีประเด็นที่โจทก์จะต้องสืบถึงความข้อนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1552/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานที่ไม่ได้รับเงินเดือนตามกฎหมาย ไม่ผิดฐานทุจริตในหน้าที่
จำเลยทำงานเป็นเจ้าพนักงานไปรษณีย์อนุญาตประจำอำเภอ ได้รับเงินค่าจ้างเป็นค่าทำการและส่วนลด ต่อมาได้เปลี่ยนเรียกว่าจ่ายเป็นค่าเหมาเดือน จำเลยได้จดบัญชีหลักฐานเท็จและยักยอกเงินรายได้ของไปรษณีย์อนุญาตนั้นไป ดั่งนี้ จำเลยย่อมมีผิดตามมาตรา 319(3). แต่ไม่ผิดตามมาตรา 131,230 เพราะจำเลยไม่ใช่เจ้าพนักงานได้รับเงินเดือนตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายพลเรือน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1552/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานยักยอกเงินไปรษณีย์: การพิจารณาฐานะ 'เจ้าพนักงาน' ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายพลเรือน
จำเลยทำงานเป็นเจ้าพนักงานไปรษณีย์อนุญาตประจำอำเภอ ได้รับเงินค่าจ้างเป็นค่าทำการและส่วนลด ต่อมาได้เปลี่ยนเรียกว่าจ่ายเป็นค่าเหมาเดือน จำเลยได้จดบัญชีหลักฐานเท็จและยักยอกเงินรายได้ของไปรษณีย์อนุญาตนั้นไปดั่งนี้ จำเลยย่อมมีผิดตามมาตรา 315(3) แต่ไม่ผิดตามมาตรา 131,230 เพราะจำเลยไม่ใช่เจ้าพนักงานได้รับเงินเดือนตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายพลเรือน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1551/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบไม้สักแปรรูป: ไม้ที่ครอบครองเกิน 0.20 ลบ.ม. ถือเป็นไม้ที่ได้มาจากการกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้
การมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองจำนวนเกิน 0.20 เมตรลูกบาศก์ โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ไม้สักของกลางจึงเป็นไม้ที่มีไว้เนื่องจากการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ จึงต้องริบตามมาตรา 74 และโจทก์ไม่จำต้องบรรยายไว้ว่าไม้ของกลางเป็นไม้ที่จำเลยมีไว้หรือได้มาเนื่องจากการกระทำผิดพระราชบัญญัติป่าไม้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1551/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบไม้สักแปรรูปที่ครอบครองเกินกำหนด โดยไม่จำเป็นต้องบรรยายถึงที่มาของไม้ในฟ้อง
การมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองจำนวนเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตร โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ไม้สักของกลางจึงเป็นไม้ที่มีไว้เนื่องจากการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ จึงต้องริบตามมาตรา 74 และโจทก์ไม่จำต้องบรรยายไว้ว่าไม้ของกลางเป็นไม้ที่จำเลยมีไว้หรือได้มาเนื่องจากการกระทำผิดพระราชบัญญัติป่าไม้(อ้างฎีกาที่ 283/2496)
of 131